2
เรือนเก่าหลังงามขนาดสองชั้นเป็นส่วนผสมระหว่างสถาปัตย-กรรมไทยโบราณและตะวันตก ดูหรูหราให้ความคลาสสิก มันปลูกอยู่ในพื้นที่จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือใกล้ทะเลสาบบัวแดง
ตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบถูกใจวีรินทร์สาวอวบเป็นที่สุด เรือนหลังนี้แต่เดิมเป็นของสมใจ นางเป็นหญิงชราอายุเฉียดร้อยปี เดินเหินไม่สะดวก อาศัยรถเข็นแทนขา
สมใจนั้นเป็นคนหัวแข็งแต่ไหนแต่ไรมา นางเคยประกาศว่าจะไม่ยอมย้ายไปไหน ด้วยมีความผูกพันกับบ้านและบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งนับวัน นางยิ่งบ่นเพ้อถึงใครต่อใครเรื่อยเปื่อย พลอยให้ลูกหลานหวาดกลัวไปตามๆ กัน
“เขาจะกลับมา ฉันรู้ ฉันมั่นใจ คุณย่าเคยบอกไว้ เมื่อดอกบัวแดงบานเต็มทะเลสาบ เขาจะกลับมา”
นั่นคือเสียงสุดท้ายที่วีรินทร์ได้ยิน ก่อนที่สมใจจะป่วย ถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
จากนั้นวีรินทร์ก็หาเหตุผลร้อยแปดเพื่อกล่อมลูกหลานของนางเพื่อขอซื้อบ้าน หญิงสาวไม่ได้กดราคาอีกฝ่าย แต่อย่างไร หล่อนให้ตามเกณฑ์เหมือนทุกรายที่ผ่านมา เพียงแต่ พรรณสิริลูกสาวคนสุดท้องหญิงชราร้อนเงิน อยากไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศกับสามีฝรั่งหนุ่มรุ่นคราวลูก วีรินทร์จึงได้เรือนหลังนี้สมปรารถนา
หลังจากวีรินทร์ปรับปรุงบ้านเสร็จ และขายให้มานพ ลูกค้าหนุ่มใหญ่
พอเขาย้ายเข้าไปอยู่ได้ไม่กี่วันกลับบอกคืนทันที พร้อมกล่าวหาว่าหล่อนย้อมแมวขายบ้านผีสิงให้
ชายวัยกลางคนเกิดอาการประสาทหลอนจนถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช แถมยังบอกใครต่อใครว่าเห็นผู้หญิงโผล่ออกมาจากพื้นไม้บนชั้นสองของบ้าน
“ผะ ผี...ผู้หญิงตัวขาวอวบ มะ เหมือน ยายอ้วนเจ้าของ วี.พี.รักคุณนั่นแหละ” มานพเชื่ออย่างสนิทใจว่าอีกฝ่ายเป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ติดอยู่ในบ้าน
“ไม่จริ๊ง จะมีใครขาว สวย หมวย เอ็กซ์กว่าแก้มอุ่น ไม่มีทางเป็นไปได้”
หล่อนแก้ต่างให้ตนเองอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น ทว่าเสียงดังหวีดแหลมของสาวอวบดูจะไม่เป็นที่นำพาของอีกฝ่าย มานพยังโพนทะนาไม่หยุดถึงเรื่องวิญญาณร้ายในบ้านหลังนั้น
“คอยดูนะ ถ้าตาแก่ยังไม่หุบปากให้สนิท แก้มอุ่นคนสวยคนนี้จะไปเข้าฝัน แล้วบีบคอให้ลิ้นจุกปากตายไปเลย”
คำพูดหล่อนทำให้คนที่ได้ยินต่างหวาดหวั่นไปตามๆ กัน ด้วยหญิงสาวมีลูกบ้าเยอะ ชอบทำอะไรแผลงๆ มาตลอด โดยเฉพาะการซื้อบ้านเก่าซึ่งมีประวัติพิลึกพิลั่นแล้วมาปรับปรุงใหม่ ก่อนปั่นราคาและขายให้ลูกค้าในราคาแพงลิบ
ในตอนที่วีรินทร์เข้าไปสำรวจบ้านหลังเกิดเหตุการณ์สั่นประสาทกับมานพ สิ่งซึ่งสร้างความรำคาญใจให้หล่อนคือพื้นไม้บนห้องนอนใหญ่ มันมีลายเสี้ยนชวนหลอน เมื่อแสงจากด้านนอกสาดกระทบกิ่งก้านต้นไม้จะสะท้อนเป็นเงาผ่านบานช่องแสงขนาดใหญ่ มองเผินๆ เห็นเป็นรูปร่างตามสมองจินตนาการ บางที บนพื้นไม้ก็มีหยดน้ำผุดขึ้นมา แลดูคล้ายพื้นไม้ดังกล่าวตกน้ำมัน!!
“เฮ้อ แก้มอุ่นเคยได้ยินแต่เรื่องเสาตกน้ำมัน นี่มันแค่พื้นไม้เก่าๆ อาจมีลายเสี้ยนแปลกตาไปบ้าง”
“เอ่อ...อย่างนี้นะคุณแก้มอุ่น ย่าสมใจเคยเล่าให้ป้าฟังว่าบนพื้นไม้มักมีน้ำมันผุดขึ้นมา ก็ตรงลายเสี้ยนที่คล้ายรูปใบหน้าผู้หญิงนั่นแหละ ป้ามองกี่ทีก็เหมือนคนกำลังร้องไห้...” นางว่าเสียงเป็นจริงเป็นจัง
“ป้าก็เป็นไปกับเขาด้วยหรือ” วีรินทร์ทำเสียงเข้มใส่คนที่จ้างให้ดูแลบ้าน
“ไม่ใช่แค่ป้าคนเดียว ลุงก็เคยเห็น เป็นรูปหน้าผู้หญิงจริงๆ ไม่เชื่อคุณแก้มอุ่นลองมองให้ดีสิคะ”
หญิงวัยกลางคนชี้ชวนให้สาวอวบพินิจพิเคราะห์พื้นไม้ แต่หล่อนไม่สนใจ แถมถอนหายใจเสียงดังอีกครั้งด้วยความรำคาญ
“เอาอย่างนี้ เดี๋ยวแก้มอุ่นสั่งรื้อพื้นพวกนี้ออกให้หมด จะได้ไม่ต้องมีใครเห็นผีสางนางไม้อีก”
ทว่าความตั้งใจของหญิงสาวกลับไม่ประสบความสำเร็จ การรื้อพื้นไม้ในห้องนอนใหญ่กลายเป็นเรื่องยากลำบาก เมื่อวิศวกรประจำบริษัทบอกว่าการกระทำดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายพื้นห้องนอนใหญ่ทั้งหมด และต้องใช้เวลาในการทำงานนานนับเดือน
เมื่อได้ข้อมูลเช่นนั้น หล่อนเลยเปลี่ยนแผน ด้วยใกล้กำหนดที่ลูกค้ารายใหม่จะเข้ามาดูบ้านเต็มที
แม้หลายคนจะหวาดกลัวเรื่องเขย่าขวัญสั่นประสาทอยู่มาก แต่
สิ่งเหล่านั้นมิอาจทำให้วีรินทร์ขวัญเสีย
สำหรับหล่อนสิ่งสำคัญที่สุดของสาวอวบคือ เงิน เพราะเงินหนาๆ สามารถปิดปากคนให้สนิท แถมยังสามารถไล่วิญญาณเฮี้ยนให้หายไปจากโลกนี้ได้
จากนั้น วีรินทร์ก็สั่งคนหัวหน้าเปลี่ยนผนังไม้อัดซึ่งสีลอกล่อนดูไม่งามตาออก และเป็นตอนนั้นที่หล่อนได้พบหีบไม้ซึ่งซ่อนอยู่ด้านใน แต่แรกตั้งใจคืนสมใจ แต่เมื่อบวกลบคูณหารแล้วหล่อนคิดว่าฮุบเอาไว้เองจะเกิดประโยชน์มากกว่า
วีรินทร์เดินทางมาที่บ้านเก่าหลังนั้นในอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เพราะมีหนุ่มหล่อลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันจีนให้ความสนใจต้องการบ้านพักตากอากาศ และหล่อนได้หาทางหว่านล้อมที่จะขายบ้านหลังดังกล่าวให้อีกฝ่ายจนสำเร็จ
หญิงสาวมาถึงที่นี่ตอนเย็น ออกย่ำราตรีเสียครึ่งค่อนคืน สุดท้ายพอตื่นก็มีอาการตัวร้อนคล้ายเป็นไข้หวัด ช่วงสายของวันนั้น ป้าและลุงที่จ้างให้ดูแลบ้านติดธุระ ทั้งคู่จึงให้เด็กสาวสุดจะแก่แดดคนหนึ่งมาอยู่เป็นเพื่อนสาวอวบ
“เจ้อยากงีบสักพัก น้องมีอะไรก็ไปทำเถอะ” หล่อนบอกเด็กสาวหลังจากกลืนยาลดไข้ลงคอ
เด็กสาวมองวีรินทร์ตาโต ประหนึ่งสิ่งที่หล่อนกล่าวเป็นเรื่องชวนตระหนก
“นอนที่นี่ บนเตียงนั่นหรือเจ้” เธอถามพร้อมชี้มือไปยังเตียงไม้สักโบราณหลังใหญ่สี่เสา
“ใช่ ทำไมล่ะ นี่มันบ้านที่เจ้ซื้อด้วยเงินตัวเอง เตียงนั่นก็ทาสีใหม่จนสวยเช้ง มีผ้าลูกไม้ห้อยเหมือนห้องหอเจ้าบ่าว เจ้าสาว”
วีรินทร์ชอบใจสิ่งที่ตนได้ออกแบบห้องนอนใหญ่ให้เหมือนห้องหอจีนโบราณ เน้นข้าวของสีแดงอุบอุ่นพร้อมเครื่องประดับเป็นคู่กัน
“แหม อันนั้นหนูรู้ แต่เจ้ไม่กลัวรึไง หลายวันก่อนลุงมานพยังโวยวายว่าถูกผีหลอก เขาวิ่งไปเคาะประตูบ้านหนูเสียงดังปังๆ ตัวงี้เปียกฝนไปหมด และยังเล่าว่า...มีผู้หญิงโผล่ออกมาจากตรงนั้น!”
เธอว่าพร้อมชี้มือไปที่ลายเสี้ยนไม้บนพื้นในจุดซึ่งวีรินทร์ยืนทับพอดี
“แล้ว...!”
เด็กสาวตาโตกว่าเดิม พี่สาวคนนี้เป็นคนแข็งแกร่งมาก ดูท่าจะไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่เธอพูดถึงสักนิด
“ดูๆ ไป หนูคิดว่า ผีเฮี้ยนๆ ในบ้านคุณย่าสมใจ คงไม่สามารถทำอะไรเจ้ได้ ถ้าอย่างนั้นหนูไปอยู่ข้างล่างดีกว่า” เธอว่าพร้อมเตรียมผละหนี
“เดี๋ยว! น้องควรทำความเข้าใจเสียใหม่ บ้านหลังนี้ไม่ใช่ของทวดสมใจแล้ว มันเป็นของเจ้อย่างถูกต้องตามกฎหมายจ้ะ และเลิกพูดถึงเรื่องผีเสียที ได้ยินแล้วมันจี๊ด!”
“อูย หนูลืม ตอนนี้มันเป็นของเจ้ ของเจ้คนสวย และโลกนี้ไม่มีผีค่ะ” เธอยกมือไหว้อย่างลิงหลอกเจ้า
“เอาละ ไปเล่นโทรศัพท์รอเจ้ข้างล่างเถอะ แต่ห้ามหนีไปไหนจนกว่าเจ้จะตื่น” วีรินทร์สั่งเด็กสาว
“หา! เจ้ยังคิดว่าตนเองจะได้ตื่นอีก โอ้...มันไม่ง่ายขนาดนั้น...”
สีหน้าสีตาและน้ำเสียงเธอดูพิกลราวกับว่า การนอนบนเตียงสี่เสาของวีรินทร์ครั้งนี้ หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ตื่นมาพบโลกแห่งความจริงอีก!!
วีรินทร์โมโหเด็กสาวที่ยังพูดเพ้อเจ้อจึงหวีดใส่อีกฝ่าย ก่อนไล่ไปให้
พ้นๆ หน้า
เมื่อเด็กสาวขอตัวลงไปด้านล่าง วีรินทร์ก็สืบเท้าตรงไปยังบานหน้าต่างซึ่งเปิดรับลม
สายลมอ่อนๆ พัดผ่านกาย หอบกลิ่นหอมของดอกไม้เข้าจมูก หล่อนสูดกลิ่นหอมและรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ เบื้องหน้าคือต้นหอมหมื่นลี้มีพวงสีส้มสดใส
แวบหนึ่งหญิงสาวนึกถึงเรื่องที่เคยผ่านตาทั้งจากหนังสือนิยายรักและภาพยนตร์จีนชุดที่เคยดูกับบิดา ความสุขในวันเก่าก่อนคล้ายคืนกลับสู่หัวใจ
หญิงสาวหมุนตัวกลับ แล้วก้าวไปหาเตียงนอนสี่เสา กลิ่นผ้าที่สะอาดเรียกร้องให้พักผ่อนร่างกาย และความนุ่มของเตียงก็รองรับสัดส่วนอวบอัดเย้ายวนได้เป็นอย่างดี
“ขอฝันหวานถึงหนุ่มหล่อสักคนนะเจ้าคะ ตื่นขึ้นมาจะได้มีแรงทำงาน”
หล่อนว่าแล้วก็หัวเราะคิก พลางคิดถึงเรื่องราวข้ามภพข้ามชาติของนางเอกในนิยายและภาพยนตร์ดังๆ หลายต่อหลายเรื่อง แต่ละนางล้วนพบหนุ่มหล่อและได้ครองคู่กันตราบนานเท่านาน
หนังตาวีรินทร์ที่หนักอึ้งอยู่แล้วทำงานอย่างเป็นอัตโนมัติ หล่อนเป็นคนหลับง่ายตั้งแต่ไหนแต่ไร ยิ่งมีอาการไข้รุมเร้ายิ่งทำให้ง่วงหนัก
ดังนั้น ไม่นานหลังจากล้มตัวลงนอนจึงถูกดังเข้าสู่ภวังค์พิศวง!!