ตอนที่2 หนิงเหมย3
นับแต่บัดนั้น หนิงเยว่ซินจึงได้ตัดสินใจ
นางเลือกที่จะอยู่กับลูกในครรภ์ นางเลือกที่จะอุ้มท้องอย่างเข้มแข็งแม้โดดเดี่ยว นางเลือกที่จะไม่บอกกล่าวแก่หลิ่งหมิง นางเลือกที่จะขังตนเองไว้ในเรือนหลักไม่ออกมาพบหน้าของสามีอีกเลย ชีวิตของนางจะมีเพียงลูกก็เท่านั้น นางจะมีชีวิตอยู่เพื่อลูกเท่านั้น
หากแต่สวรรค์คล้ายกลั่นแกล้งกัน
ในวันที่หนิงเยว่ซินคลอดลูกออกมา วันนั้นคือวันสุดท้ายที่นางได้มองโลกผ่านม่านตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำสีใสก่อนจะจากลาโลกนี้ไปโดยทิ้งเอาไว้เพียงธิดาหนึ่งเดียวแห่งตน
หนิงเหมย คือเด็กน้อยอาภัพคนนั้น
หนิงเหมยอยู่ในครรภ์มารดาในวันที่บิดาพาสตรีคนใหม่เข้าเรือน
ในวันที่มารดารับรู้ถึงตัวตนของหนิงเหมยในครรภ์ก็คือวันที่มารดาต้องช้ำตรมระทมสุดแสน
ในวันที่หนิงเหมยคลอดออกมาดูโลกคือวันที่มารดาต้องลาจากโลกไปตลอดกาล
หนิงเหมยคือต้นเหตุที่ทำให้มารดาตายจาก
หนิงเหมยคือสาเหตุที่ทำให้มารดาเปลี่ยนไปจากสตรีที่สุขุมเยือกเย็นจิตใจดีงามกลับกลายเป็นสตรีอารมณ์ร้ายขี้โมโหชอบใช้ความรุนแรง
หนิงเหมยคือบุตรีที่บิดามองมาด้วยแววตาเย็นชาตั้งแต่เกิด
นางคือสตรีที่เติบโตมาท่ามกลางสายตาว่างเปล่าของทุกคน
ทุกคราที่นึกถึงนัยน์ตาของนางร้อนผ่าว น้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ สัมผัสได้เพียงความเจ็บปวด ราวกับหัวใจฉีกขาดจนเป็นแผลกว้าง แผลนั้นเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันจางหาย ทั้งยังกลัดหนองเจ็บหน่วงตลอดเวลา
แม่นมซือเสียนคือสาวใช้คนสนิทของหนิงเยว่ซินและเป็นผู้ที่เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้หนิงเหมยฟังจนกระจ่างแจ้งแก่ใจถึงเรื่องราวที่หนิงเหมยสงสัยใคร่รู้และควรจักรู้เมื่อจำความได้
จนกระทั่งในวันที่หนิงเหมยอายุได้สิบเจ็ดปี แม่นมซือเสียนผู้เป็นคนเดียวที่อยู่กับหนิงเหมยตลอดมาต้องมาตายจากไปเนื่องจากถูกเจียวลู่ลงทัณฑ์โทษฐานที่ขโมยปิ่นทองคำและไข่มุกเม็ดงามไปขายทอดตลาดโดยมีหนิงเหมยรู้เห็นเป็นใจ
แม่นมซือเสียนที่มีอายุมากแล้วจึงมิอาจทนต่อการถูกโบยอย่างหนักเยี่ยงนั้นได้ ในขณะที่หนิงเหมยถูกเจียวลู่ส่งตัวไปลงทัณฑ์ยังวัดอันห่างไกลเพื่อไปชำระล้างจิตใจ
หญิงสาวถูกสั่งให้ถือศีลกินเจปฏิบัติธรรมที่วัดวัดฉือหนิงอันห่างไกลและทุรกันดารตั้งอยู่นอกเมืองโดยมีหลิ่งหมิงผู้เป็นบิดาเห็นชอบกับการตัดสินใจของเจียวลู่ผู้เป็นภรรยารองแห่งเขา
หนิงเหมยไม่แปลกใจว่าเหตุใดเจียวลู่ถึงได้ชิงชังนางนัก ด้วยเพราะว่าเจียวลู่เป็นเพียงภรรยารองตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้ามาจวบจนกระทั่งวันนี้
วันที่ถึงแม้ว่าภรรยาเอกอย่างหนิงเยว่ซินจะตายจากไปนานแล้ว แต่เจียวลู่ก็ยังคงเป็นได้เพียงภรรยารองของบิดานาง
นั่นจึงทำให้หนิงเหมยที่อยากจะเกลียดบิดาแต่ก็ไม่สามารถเกลียดท่านได้ลง ถึงแม้ว่าบิดาจะเย็นชากับนางเสมอมา
เห็นได้ชัดว่าบิดารักมารดามากเพียงใด หากแต่ด้วยอารมณ์ที่อยู่เหนือเหตุผลของมารดาและความเป็นชายที่หยิ่งทระนงตนของบิดา จึงทำให้ทุกชีวาต้องมาอยู่ยังจุดนี้ มีสภาพเยี่ยงนี้
หนิงเหมยได้แต่ก้มหน้ารับกรรมแห่งโชคชะตาของตนเอง
นางทำได้เพียงเท่านั้น
นางไม่สามารถทำสิ่งใดได้มากไปกว่านี้...
แต่นั่นก็คือความคิดก่อนหน้าที่หนิงเหมยจักเจอกับบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งนามว่าเจิ้งเหวินหลาง
เจิ้งเหวินหลางเป็นชายที่มีรอยยิ้มอบอุ่น ทั้งอ่อนโยนและจริงใจ กลิ่นอายรอบเรือนกายของเขาให้ความรู้สึกปลอดภัยและเป็นสุขใจยามเมื่อได้อยู่ใกล้กัน
หนิงเหมยได้เจอกับเจิ้งเหวินหลางที่ตลาดในวันหนึ่ง เขาเข้ามาช่วยเหลือหญิงสาวในยามที่นางถูกขโมยถุงเงินไปโดยไม่รู้ตัวและไม่มีเงินจ่ายค่าเสื้อผ้าทำให้นางถูกด่าว่ากล่าวเสียงดังนำพาความอับอายมาให้
เจิ้งเหวินหลางเข้ามาปกป้องนางในวันนั้นและนับแต่นั้นมาหนิงเหมยกับเจิ้งเหวินหลางจึงตกลงคบหากันหมายสานสัมพันธ์จากสหายเป็นคนรักถึงขั้นคิดจะแต่งงานกันเมื่อพร้อมทั้งสองฝ่าย
หนิงเหมยตัดสินใจพาเจิ้งเหวินหลางเข้าบ้านเพื่อมาพบกับบิดาหมายเจรจาหมั้นหมาย
เจิ้งเหวินหลางเข้ามาที่บ้านของหนิงเหมยในฐานะคนรักแบบเปิดเผย
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันพลันบังเกิด
เมื่อน้องสาวของนางนามว่าลี่จูบุตรสาวของเจียวลู่ได้เจอกับเจิ้งเหวินหลางในวันที่หนิงเหมยพาเขาเข้าบ้าน หลังจากนั้นเจิ้งเหวินหลางก็เริ่มเปลี่ยนไป
เจิ้งเหวินหลางที่เคยมีเวลาให้หนิงเหมยเริ่มไม่มีเวลาให้ จากที่เคยมีจดหมายฝากมาให้กลับเริ่มไม่มีเหมือนเคย จากที่เคยนัดเจอกันเที่ยวที่ตลาดกลับชอบที่จะมาบ้านของหนิงเหมย