บทที่ 4
ความตื่นกลัวกลายเป็นความนิ่งลงได้และเริ่มมีสติเมื่อรถคันนั้นพาเธอออกมาจากตัวอำเภอ...ชบานอนนิ่ง ตาเหม่อมองท้องฟ้าเบื้องบน เธอพนมมือและหลับตา อธิษฐาน...
เธอหวังว่าแม่ของเธอที่ตายไปจะอยู่บนนั้น และให้พรกับเธอ
ขอให้เธอหนีพ้นจากคนชั่ว ขอให้เธอได้เริ่มชีวิตใหม่
ชบาตั้งใจกับตัวเองแล้วว่า เธอจะไม่กลับไปที่บ้านอีก ตราบใดเท่าที่พ่อจะยังอยู่กับน้าลีลา เธออยู่ไม่ได้อีกแล้ว...
บ้านไม่ใช่ที่สำหรับเธอ
ในวัยสิบเก้าปี ชบาคิดว่าเธอมีความคิด และมีแรงกายแรงสมองที่จะทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้แล้ว ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การขายร่างกาย
การเดินทางช่างยาวนานเหลือเกิน เธอหวังว่าเจ้าของรถคันนี้จะใจดีมีเมตตา ต่อนกตัวน้อยที่โผบินออกจากรังอย่างเธอ
ชบาได้แต่ภาวนา
สาวน้อยปิดปากหาว แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะหลับลง ทำไมเธอถึงง่วงแบบนี้ หรือว่า...เธอคิดถึงเครื่องดื่มที่นายโป้งส่งให้ แล้วเธอเอามาดื่มไปครึ่งขวด ถ้าเป็นอย่างที่สงสัยก็ดีแล้วเหลือเกิน ที่หนีออกมาจากตรงนั้นก่อน ที่มันจะออกฤทธิ์
ตาของสาวน้อยปรือหลับ และเธอก็หลับสนิทไปทั้งอย่างนั้น
..........................................................................................................................................................
“ตื่นได้แล้วลูก”
พ่อเลี้ยงหนุ่มหันไปเขย่าแขนลูกสาวเบาๆ เธองัวเงียเอามือขยี้ตา ท่าทางของลูกสาวทำให้คนเป็นพ่อที่ห่างลูกมานาน ยิ้มอย่างมีความสุขที่เขาได้ขวัญชีวิตกลับคืนมาอีกครั้ง เขาลูบผมลูกสาว พร้อมกับเอ่ยเสียงอ่อน
“ให้พ่ออุ้มไปนอนไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ พ่อจ๋า หนูไม่เด็กแล้วนะ”
คำตอบจากลูกสาว ทำให้เขาหัวเราะหึๆ ห่างจากพ่อไปสองปี อายุเพียงแค่นั้นยังไม่ถึงขึ้นเลขสองหลัก แต่ก็โตเกินตัวแล้วลูกสาวพ่อ คำพูดนั้นทำให้คนเป็นพ่อแปลบในอก ไปพบเจออะไรมาบ้างนะ ระหว่างที่อยู่กับทางนั้น มันทำให้เขานึกสะท้อนใจเหลือเกิน เจ็บใจตัวเอง ที่ได้ลูกสาวคืนมาช้า รดากระชากความเป็นเด็กไปจากยัยหนูมากพอสมควรเลยทีเดียว
เอาเถอะเขาจะชดเชยให้กับลูก ให้แกได้รับความสุขที่ขาดหายไป
คนที่บอกว่าตัวเองโตแล้ว ปิดปากหาวหวอด ถามพ่อว่าตุ๊กตาตัวเก่งของเธอเขาเอามาด้วยไหม อารามรีบหนีแม่ เธอเลยวิ่งฉิวขึ้นรถปิดประตูแน่นไว้ก่อนกันว่าแม่จะมาดึงตัวเธอกลับไป ระหว่างที่ผู้ใหญ่เจรจากัน และทยอยขนของมาขึ้นรถให้เธอ ท่าทางของลูกทำให้คนเป็นพ่อ ยิ่งตอกย้ำตัวเองว่า เขาจะไม่มีวันให้รดาเข้าใกล้กับลูกอีก ผู้หญิงแบบรดา เกิดมาเป็นแค่เครื่องผลิตลูก แต่ไม่สมควรเป็นแม่...
“เอามาด้วยสิ พี่หมีของหนู พ่อเอาไว้หลังรถ”
เธอยิ้มแป้นส่งให้กับภูดิศ แล้วเปิดประตูรถลงไปก่อน สาวน้อยปีนขึ้นไปที่หลังกระบะ เพื่อไปเอาพี่หมี แต่แล้วเธอต้องตกใจจนร้องอุทานออกมาเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนนอนหลับอยู่บนพี่หมีของเธอ
“ใครน่ะ”
ภูดิศขมวดคิ้วแน่น เขาปีนขึ้นไปบนนั้น ลูกสาวนั่งอยู่ข้างร่างเล็กที่กำลังนอนอยู่ เจ้าหล่อนหลับสนิท หายใจสม่ำเสมอ ดูแล้วช่างผิดปรกตินัก
“เฮ้ เฮ้”
เขาตบแก้มหล่อน แต่หล่อนก็ยังหลับไม่ได้สติ เขาจึงเอามืออังจมูกเธอ มันยังมีลมหายใจอุ่นๆ ปะทะมือเขา คนเราถ้าจะว่าหลับลึกก็ไม่น่าจะขนาดนั้น แสงจันทร์และแสงไฟที่เปิดทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน ส่องเข้ามาพอรำไร ให้เขาได้เห็นว่า หล่อนเป็นผู้หญิงดูอายุอานามน่าจะยังไม่มากนัก ตัวเล็กนิดเดียว น่าจะสูงกว่ายัยหนูของเขาไม่มากด้วยซ้ำ
“พ่อจ๋า พี่เค้าตายแล้วหรือเปล่า หรือว่าเค้าเป็นผี”
ภูรดาทำตาเบิกกว้าง หน้าเซียวอย่างตกใจเพราะจินตนาการไปไกลล้ำ
“ไม่ใช่หรอก แต่พ่อว่าเค้าน่าจะต้องการความช่วยเหลือ”
พ่อเลี้ยงภูดิศสั่นหน้าน้อยๆ เขาตกลงใจอุ้มสาวปริศนาขึ้นมา และจนกระทั่งเขาพาหล่อนลงจากรถ และมานอนที่บริเวณโซฟาในโถงรับแขก เธอก็ยังหลับสนิท
“เดี๋ยวค่อยไปตามหมอตอนเช้า ถ้ายังไม่ฟื้น”
ภูดิศบ่นพึมกับตัวเอง ลูกสาวของเขายืนมองสาวปริศนาด้วยนัยน์ตาเบิกกว้างตอนแรกก็กลัว ตอนนี้ก็เริ่มมองสำรวจ พี่สาวที่เป็นเหมือนเจ้าหญิงนิทรา ผมยาวสยาย ตัวเล็กบอบบาง ผิวขาวลออผ่อง ใบหน้าเล็กรูปไข่ เครื่องหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา เหมือนตุ๊กตา...ก็ไม่ปาน
“พ่อจ๋า”
เธอดึงเสื้อของบิดาไว้ ตายังคงมองจ้องหญิงสาวที่นอนบนโซฟานั้น
“หืม?”
“หรือพี่เค้าจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา มาจากโลกในนิทานไหมอะ”
“โอย...” หนนี้ภูดิศหัวเราะ แล้วโยกหัวของลูกสาวเบาๆ
“ไปเอามาจากไหนกัน ความคิดแบบนี้”
“แหม...หนูชอบอ่านหนังสือ อ่านนิยาย มันมีนะพ่อจ๋า แบบทะลุมิติมายังไงล่ะ”
เด็กหญิงว่าแล้วเอามือปิดปาก ก่อนจะทำตาโตมองบิดา
“เอ๊ะ...หรือว่าพี่เค้าจะเป็นเจ้าหญิงทะลุมิติมาหาพ่อจ๋าอะ”
“ไม่ใช่ล่ะ ยัยหนู”
ภูดิศหัวเราะ ลูกสาวคิดแบบนั้น แต่เขากลับคิดไปอีกอย่าง...
เขามองเธออย่างนึกสงสัย
หน้าตาผิวพรรณ ลออผ่องพริ้ง ยิ่งพิศก็ยิ่งละมุนใจอย่างบอกไม่ถูก
ตาคมกริบเผลอมองหน้าหวานนั่นนิ่ง หลับยังสวยละมุนขนาดนี้ ตื่นมาจะสวยละมุนใจขนาดไหนกันนะ
ลูกหลานใครกันหนอ
ความเป็นพ่อ ความที่มีลูกสาว แถมมองจากสายตาหล่อนก็ยังเยาว์ ส่วนเขานั้น สามสิบแปดปีแล้ว ไม่รู้เป็นอะไรตั้งแต่ที่ภูดิศมีลูก และอายุพ้นสามสิบห้า เห็นใครที่อายุน้อยกว่ายี่สิบก็จะเอ็นดูไปหมด ไม่คิดอื่น ความรู้สึกร้อนวูบวาบแบบที่ชอบเพศตรงกันข้าม มันก็จางหายไปมาก เพราะงานหนึ่ง เพราะเข็ดความรักสอง และเพราะเขามีลูกติดสาม...
เด็กสาวคนนี้ อาจจะมีเรื่องร้ายมาไหมนะ
เขาคิดพายัยหนูไปนอนและพอลูกสาวหลับสนิทแล้ว เขาก็ตกลงใจลงมาเฝ้าเด็กสาวปริศนาคนนั้น เผื่อไว้ว่าเธออาจจะต้องการความช่วยเหลือ หรืออีกใจ เผื่อไว้กันเธอจะเป็นมิจฉาชีพมายกเค้าบ้านยามเผลอ
ภูดิศนั่งเฝ้าอยู่แบบนั้นจนเผลอหลับไปในที่สุด