บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

"พ่อขาหนูหิว"

เสียงของลูกสาวที่เพิ่งตื่นดังอ้อนขึ้น ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่หันมามองแก้วตาดวงใจ แล้วยิ้มส่งให้กับลูกแล้วเอ่ยเสียงอ่อนกับลูกสาว

"ไปแวะกินนมสด กับ ขนมปังปิ้งในตลาดไหม ร้านนั้นที่ลูกเคยชอบไง"

"โอ๊ะ"

เด็กหญิงเอามือปิดปาก ท่าทางตื่นเต้นขึ้นมาทันที เธอจำได้ดีเพราะบิดามักจะพาเธอขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาตอนหัวค่ำ ร้านนมสดและขนมปังปิ้งร้านโปรดของเธอ

เวลาผ่านไปสองปีแล้ว แต่เธอก็ยังจำทุกอย่าง ทุกสิ่งที่นี่ได้ดี

จำแม่น แม้จะโดนพรากไปจากถิ่นที่อยู่ ที่เกิดถึงสองปี จากฝีมือของมารดา ที่เลิกร้างหย่าขาดกับบิดาแล้ว แต่เธอกลายเป็นข้อต่อรอง เรียกเอาผลประโยชน์จากคนเป็นแม่ ซึ่งภูรดา แม้จะอายุแค่เก้าขวบก็รู้เห็นและเข้าใจดี ว่าใครกันแน่ที่รัก และไม่รักเธอ

คำว่าพ่อแม่รักลูกทุกคน ไม่น่าจะใช่เรื่องจริงหรอกคำกล่าวอ้างนี้

เพราะภูรดาไม่เคยเห็นว่าแม่จะรักเธอเลย แถมยัง...เรียกเอาเงินจากพ่อแลกกับเธออีก

เธอรู้เห็นได้ยินทั้งหมด และตกลงใจว่า ต่อไปนี้เธอจะไม่เข้าใกล้มารดาอีก ไม่ยอมให้ท่านหลอกเธอไปกับท่านอีก เพราะว่าเธอหลงกลนั่นแหละ ยอมให้มารดาพาไปเที่ยวสวนสนุก กลายเป็นว่าท่านพาเธอหนีจากภูดิศบิดา พาไประหกระเหินเรียกเงินทองจากเขาไม่หยุด จนมาตกลงกันที่ว่า ภูดิศจะยอมยกที่ดินแปลงที่เขาใหญ่ให้เธอ มูลค่าของมันหลายสิบล้าน และห้ามไม่ให้เธอมายุ่งเกี่ยวกับบุตรสาวอีก ให้ยอมเซ็นให้เขามีกรรมสิทธิ์ในตัวของลูกสาวแต่เพียงผู้เดียว รดารีบลนลานตกลงกับเขามือไม้สั่น เธอสาบานว่าเธอจะไม่มายุ่งกับภูรดาอีก ท่าทางของมารดาทำให้เด็กหญิงวัยเก้าขวบที่แอบได้ยินเรื่องทั้งหมดนั้น ใจสลายตัดขาดกับมารดาได้อย่างสิ้นเชิง และด้วยพฤติกรรมใดๆ ที่ท่านทำกับเธอที่สะสมมานานนั่นด้วย ทำให้ภูรดาถึงขั้นเกลียดชังมารดาของตนไปแล้วตอนนี้

มันผิดไหมนะ การได้รับการอบรบสั่งสอนมา ว่าควรกตัญญูต่อพ่อแม่นั่นคือหน้าที่ของลูก แต่ถ้าคนเป็นพ่อหรือแม่ กลับไม่ได้ดูแลลูกเป็นอย่างดี แถมยังทำกับลูกเหมือนว่าเป็นตัวอะไรสักชิ้นที่เอาไว้แลกเงิน และจะกระทำอย่างไรกับลูกก็ได้ ไอ้คำว่าควรกตัญญูบางทีก็ควรเลือกใช้ ควรเลือกที่จะกตัญญูด้วยเช่นกัน เด็กหญิงเองด้วยการถูกกระทำ ถูกพราก มันก็ทำให้คำว่าแม่สำหรับเธอเจือจางลงไป จนแทบไม่เหลือสายสัมพันธ์ใดๆ อีกแล้ว

"แล้วก็ต่อด้วยก๋วยจั๊บด้วยดีไหม? พ่อจ๋าก็หิวแล้วเหมือนกัน"

"ได้ค่ะ"

ลูกสาวยิ้มปากกว้างให้กับบิดา สองพ่อลูกอาจจะรับประทานอาหารมื้อค่ำแบบไม่เหมือนคนอื่นสักเท่าไหร่ คนอื่นอาจจะกินคาวก่อนกินหวาน แต่ภูรดากับภูดิศต้องกินของหวานก่อนแล้วค่อยกินของคาว...ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน

"ดีใจไหมได้กลับบ้าน"

เขาเอื้อมมือลูบหัวลูกสาว ตามองเธอด้วยความรักล้นเหลือ ภูรดาจับมือของเขาไปแนบแก้มแล้วเอ่ยเสียงอ้อน

"ดีใจที่สุดเลยค่ะ พ่อจ๋า หนูอะจะไม่มีทางไปกับแม่จ๋าอีกแล้ว หนูสัญญา"

"อืม"

เขาเพียงแค่ยิ้มให้ลูก ใจแปลบเล็กน้อย สงสารลูกเหลือเกิน ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากให้ลูกรับรู้ หรือกลายเป็นแบบนี้เลย เขาเองมีปมไม่ดีกับมารดาเช่นกัน ก็ไม่อยากให้มาซ้ำรอยกับลูกอีก แต่ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ

เขาเลือกผู้หญิงผิด

ที่ทำให้เขาเสียทั้งเงิน เวลาชีวิตและความรู้สึก

แต่เขาก็ได้ลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจมา ในเรื่องร้ายๆ ก็มักจะมีสิ่งดีซ่อนอยู่ นี่คือวิถีแห่งชีวิต

"พ่อจ๋าอย่าไปดีกับแม่จ๋าอีกนะคะ"

ลูกสาวว่า เล่นเอาผู้เป็นพ่อถึงกับขมวดคิ้วแล้วถึงกับทวนคำของลูกสาวอีกหน เพราะคิดว่าตนหูฝาด

"อะไรนะคะ"

"พ่อจ๋าห้ามไปดีกับแม่จ๋าอีกนะคะ มีแฟนใหม่ไปเลย หาแม่ใหม่ให้กับหนูนะ"

คำพูดของลูกสาวเล่นเอาคนเป็นพ่อหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ภูรดาดูจริงจังเอามากๆ จนเขาอดขำไม่ได้

เขาพาลูกสาวไปที่ตลาดหน้าอำเภอ ซึ่งเป็นตลาดกลางคืน แวะพาแกหาของกินที่แกเคยชอบ ก่อนจะกลับเข้าไปยังไร่วณาลักษณ์ คนที่ไร่คงจะยินดีมาก ที่เขารับคุณหนูกลับไปแบบนี้ ทุกคนรู้ว่าเขาทุกข์แค่ไหน ที่อดีตภรรยาพรากลูกสาวไปแบบนั้น

วันนี้เขามีความสุขเหลือเกิน

มือของเขากระชับจับมือของลูกสาวแน่น

เขาจะไม่ยอมให้ใครมาพรากยัยหนูไปจากเขาได้อีกแล้ว

เขาอาจจะต้องหาผู้ช่วยมาช่วยดูแลยัยหนู เพราะเขาไม่ค่อยมีเวลาและทำงานทั้งวัน เรื่องดูแลอาหารการกินดูแลเรื่องทั่วไป แต่เดี๋ยวค่อยประกาศหาพี่เลี้ยงอีกที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel