ตอนที่ 6 ฝึกปกปิด
หลังจากที่ทุกคนมัวแต่ปรึกษาหารือกัน เซียวเหอผู้ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรกำลังนั่งงงในดงเห็ดอยู่นั้น ท่านพี่จึงเข้ามาอธิบายว่าการบ่มเพาะของเจ้านั้นสำเร็จด้วยดี จะมีก็แต่พลังมันรุนแรงเกินไปจึงให้นางพกจี้หยกแห่งสวรรคซึ่งหาได้ยากนักใส่ติดตัวไว้เพื่อปกปิดพลัง และห้ามเธอแสดงพลังให้ใครเห็นเป็นอันขาด ท่านพี่จึงอธิบายว่าตัวเซียวเหอนั้นพิเศษกว่าใครดังนั้นควรรู้จักระมัดระตัวให้มากขึ้นรวมถึงเพื่อนสนิทซูเสี่ยว และคู่หมั่นหมายเสี่ยวโม่ก็ห้ามเปิดเผยเป็นอันขาด
ขออธิบายพลังนิดนึงนะขอรับ^^
พลังเบื้องต้นสำหรับผู้ฝึกครั้งแรก และทุกระดับจะมีด้วยกันอยู่3ขั้น มาเริ่มที่ระดับแรกกันเล้ยยย
-ระดับเบื้องต้น มี3ขั้น
-ระดับฝึกตน มี3ขั้น
-ระดับปรมาจารย์ มี3ขั้น (ส่วนมากจะอยู่ระดับนี้กัน)
-ระดับราชา มี 4ขั้น
-ระดับมหาราชา มี5ขั้น
-ระดับเทวราชา มี5ขั้น
-ระดับสวรรค มี6ขั้น
-ระตำนาน มี9ขั้น (ซึ่งนางได้มาแบบงงๆ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย ดียิ่งนัก)
หยกสวรรคคือหยกที่มีความสามารถปกปิดพลังหากผู้ใส่หยดเลือดลงไปหยกก็จะทำงาน โดยจะทำให้บุคคลอื่นจะเห็นเป็นเพียงหยกธรรมดาชิ้นนึงเท่านั้น ทว่านางเอกเราพลังเยอะไปหน่อยจึงต้องคอยระวังและห้ามใช้พลังให้ใครเห็นไม่งั้นหยกก็ช่วยไม่ได้นะขอรับ
ด้านหน้าตระกูลหลี่ สองสามีภรรยาก็มาถึง
“ท่านหัวหน้าโจ ข้าต้องการพบคู่หมั่นของข้าและซูเสี่ยวนางแวะมาเยี่ยมด้วยเช่นกัน ข้าและนางพบกันระหว่างทางพอดี ไม่ทราบท่านจะสะดวกเปิดทางหรือไม่” เสี่ยวโม่กล่าว (พบกันระหว่างทางพอดี...)
“ทำไมจะไม่ได้เล่าข้าเป็นเพื่อนรักของเซียวเหอนะ” นางพูดอย่างเย่อหยิ่ง
“เดี๋ยวข้าให้คนไปรายงานก่อนนะนายไป๋โปรดรอก่อนสักครู่” หัวหน้าโจหันหน้าไปทางทหารแล้วพยักหน้า ทหารจึงหันหลังเดินเข้าไปในจวนอย่างไม่เร่งรีบนัก
“เกิดอันใดขึ้น ทำไมคนเยอะเช่นนี้” (แหม่ะก็มาเรื่องเดียวกับเจ้านั่นแหล่ะ ไรท์คิดดังไปหน่อยขออภัย)
“ด้านในท่านอาวุโสหลี่ สำเร็จขั้น ราชา น่ะขอรับ” หัวหน้าโจตอบอย่างไม่แยแส
“ห๊ะ! สำเร็จขั้นราชาเลยรึ” ยัยตัวร้ายถาม
“ขอรับคุณหนูอัน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อันซูเสี่ยวมีไฟในสายตาลุกโชนมาด้วยความอิจฉาทันทีและดับลงโดยไม่มีใครสังเกตเห็น สักพักนายทหารกลับมาและรายงานหัวหน้าโจ และท่านผู้นำอนุญาตให้2สามีนั่นเข้าไปด้านในได้
ณ ห้องโถงรับแขกตระกลูหลี่ ท่านพ่อและท่านปู่กำลำนั่งพักผ่อน ก็เห็นเสี่ยวโม่เดินเข้ามากับเพื่อนรักของนางอย่างถือวิสาสะ
“ท่านพี่ไป๋” เซียวเหอทักทายอย่างเขินอายเมื่อเห็นยอดดวงใจของนางและลุกจากเก้าอี้เดินไปทางเสี่ยวโม่
“เซียวเหอเจ้าเป็นเช่นไรบ้างการบ่มเพาะบรรลุขั้นแรกได้หรือยังเล่า” ซูเสี่ยว นางแทรกตัวเข้าไประหว่างเสี่ยวโม่กับเซียวเหอ โดยมีสายตาท่านปู่เหลือบมองเล็กน้อยและส่งยิ้มให้ดั่งเช่นยามปกติ
“นางบรรลุขั้นแรกได้แล้วล่ะแต่พลังอ่อนแอเหลือเกิน” ท่านปู่ตอบตัดหน้าเซียวเหอที่กำลังจะเผลอตอบออกไปนางจึงกลืนน้ำนายลงคอไป แล้วส่งยิ้มหวานไปให้แทน
“ใช่ๆ ท่านปู่พูดถูกข้า พลังอ่อนแอมากเลย” นางกล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม
“พวกเจ้ามาด้วยกันรึ!” ท่านผู้นำถามไถ่
“ไม่ใช่ขอรับ” เสี่ยวโม่ขานรับด้วยหน้ายิ้มแย้ม
“ข้าเจอนางระหว่างทางโดยบังเอิญหน่ะขอรับ”
“เลยมาพร้อมกันงั้นรึ!” ท่านพ่อคาดคั้น
“ขอรับ ยินดีกับท่านปู่ด้วยนะขอรับที่เลื่อนขั้นเป็นราชา” เขาพูดพร้อมยกมือคาระวะ (นึกว่าจะไม่ทำความเคารพเสียแล้ว)
“ดี ดี” ท่านปู่ตอบสั้นๆ และยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มอย่างใจเย็น
“เจ้าบรรลุขั้นแรกแล้วงั้นหรือ ไหนลองให้ข้าดูหน่อยเถิด” ซูเสี่ยวกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“พลังนางน้อยเกินไปคงแสดงให้เจ้าดูไม่ได้หรอก” ห่าวเทียนกล่าว เซียวเหอมีเหงื่อเย็นผุดตรงหน้ากลัวเพื่อนอันเป็นที่รักจับได้ว่าโกหก
“อ่อ...ข้าคิดไว้แล้วล่ะนะเจ้าอย่าได้เสียใจไปเลยข้ากับท่านพี่ไป๋จะนำไปก่อนค่อยๆ เพิ่มระดับไปล่ะ” ซูเสี่ยวใช้มือตบหลังมือเซียวเหอเบาเพื่อให้กำลังใจ (เหอะ นี่นางผ่านขั้นแรกได้งั้นสินะ)
“อื้ม ข้าจะพยายาม” เซียวเหอขานรับยิ้มแย้มแล้วหันไปทางเสี่ยวโม่ที่คอยส่งยิ้มมาให้