ตอนที่ 8 คืนฝนพรำ
“เจ้าเห็นหรือไม่” เมื่อทุกคนแยกย้ายกันกลับห้องเข้านอน ห่าวหรานเอ่ยปากถามภรรยาอันเป็นที่รักเ้วยความกังวน
ห่าวหรานเล่าเรื่องก่อนหน้านี้ให้ภรรยาฟังอย่างละเอียดโดยบอกถึงความผิดแปลกของบุตรสาวที่ตนสังเกตุเห็นรวมถึงท่าทางที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิมของนางทำให้เขาระแวดระวังมากขึ้น ด้วยกลัวว่าบุตรสาวที่ตกลงมาจากต้นไม้จนเลือดไหลบ่าท่วมตัวจะมีอาการข้างเคียง (ความจริงมีเพียงแค่ศรีษะที่มีเลือดไหลแต่ไม่มากจนน่ากลัว ตามแขนขามีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น)
“ข้าเห็นแล้ว ลูกเพียงแค่เหนื่อยเท่านั้นเลยพูดน้อย ส่วนอาหารใครๆ ก็ฝึกฝนได้ นางอาจเห็นข้าเคยทำเลยอยากลองทำตามก็เป็นได้”
แต่อาหารที่นางทำนั้นอร่อยเหลือเกิน จะลอกเรียนแบบแม่ของนางได้เช่นไร ทำอร่อยกว่าเจียงเหลินมากมายเหนือขณานับ ห่าวหรานพูดในใจหรือนางเป็นศิษเก่งกว่าครู แต่ทว่านางไปสอนลูกสาวทำกับข้าวตอนไหนกัน
“ช่างเถิด หากเจ้ามั่วแต่กังวลระแวดวังลูกของข้าอยู่เช่นนี้เมื่อไหร่เล่าลูกข้าจักได้เรียนรู้ ปล่อยให้นางได้เติบโตด้วยสองมือเช่นนั้นนางจักได้เข้มแข็งเช่นข้า ท่านพี่คิดเห็นเช่นไรเล่า” เมื่อมองเห็นความกังวนใจของสามีนางจึงกล่าวปลอบประโลมสามี อาจเพราะก่อนหน้านี้ซีซวนนางผู้ประจบประแจงท่านพ่อของนางทั้งแสนเจ้าเจรจาพูดไม่หยุดหย่อน แปลเปลี่ยนเป็นเย็นชา พูดน้อยหรือว่านางจะคิดได้หลังก่อเรื่องเจียนตายกันนะ (นี่ไม่มีใครคิดบ้างหรือไงว่าลูกของพวกเจ้าตายห่าจากโลกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เฮ้อออ)
ในขณะเดียวกันสองพี่น้องที่พูดคุยเรื่องอาหารวันนี้อย่างเมามัน
“หากข้าไม่เห็นด้วยตาตนเองก็มิอาจเชื่อได้ว่าน้องรองจักทำอาหารได้อย่างชำนิชำนานได้ถึงเพียงนี้ แถมรสชาตินั้นหาที่ติได้ยากนัก”
“ท่านจักหาที่ติเรื่องอาหารไปทำไมกัน นางทำอร่อยก็ดีมากแล้ว ข้าชอบอาหารที่ท่านพี่สองทำมากกว่าอยู่ดี”
“ถึงข้าจักทำอาหารไม่อร่อยแต่ก็ทำให้อิ่มท้องมานานนับปี”
“เจ้าช่างแปรเปลี่ยนพักพวกเร็วยิ่งนัก”
“ท่านพี่...ข้าว่าท่านเอาดีด้านตีดาบเช่นท่านท่านพ่อเป็นเช่นไร”
“คงต้องเป็นเช่นนั้น จักได้มีเงินมาซื้อเนื้อมาเก็บไว้ในนางทำอาหารดีๆ ให้ท่านแม่ได้กินดีๆ เสียหน่อย”
“ใช่แล้วๆ ข้าชอบอาหารจานเนื้อนั่นมาก” เจ้าสามตอบทั้งยิ้มตาหยี่ ทำให้หวนคำนึงถึงรสชาติอันเลิศเลอนั่น
“ข้าจะดับไฟแล้ว เจ้าเข้านอนเถอะ” ซีห่าวลุกขึ้นจัดแจงผ้าห่มให้กับน้องชายและลุกขึ้นเดินไปดับตะเกียงน้ำมันตรงมุมโต๊ะหัวเตียง แล้วปีนขึ้นไปนอนด้านนอกของเตียงขนาดกลางผู้ใหญ่นอนสองคนสบายๆ และห่มผ้าห่มแล้วปิดตาลงอย่างช้าๆ
ในยุคนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้สิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่มี คิดถึงทีวี ตู้เย็น ที่นอนนุ่มๆ ซ่ะจริงในเมื่อไม่มีก็คงต้องสร้างมันขึ้นมา พื้นที่ใช้เดินไปมาในตัวบ้านก็ทำมาจากไม้ดูแล้วบ้านหลังนี้คงสร้างมานานพอตัว เตียงไม้นี่ก็ไม่แข็งแรงนักเพียงแค่เธอกระโดดแรงๆ สักสามสี่ทีอาจพังลงเป็นแน่
“ไม่ได้การล่ะฉันต้องรีบสร้างตัวซ่ะแล้ว ดูเหมือนเนื้อหมูที่พอกเกลือตากลมไว้จะอยู่ได้ไม่ถึงเจ็ดวันเสียแล้ว”
เมื่อความเหนื่อยล้าถาโถมเข้ามาใส่ เธอจึงลุกขึ้นเดินออกจากเตียงที่เธอนั่งอยู่แล้วเดินไปดับตะเกียงน้ำมัน ลากร่างกายที่เหนื่อยล้ากลับขึ้นไปบนที่นอนที่แข็งกระด้างนั่น แล้วปิดตาคิดเรื่องอดีตที่ผ่านมา
“หัวหน้าและคนในหน่วยจะเป็นยังไงนะ ตอนนี้ร่างกายของฉันคงโดนระเบิดแข้งขาหลุดหลุยไปแล้ว เฮ้ออ ขี้เกียจจะคิดช่างมันเถอะ” (แค่คิดยังขี้เกียจเลยสงสัยจริงๆ เธอผ่านด่านฝึกแสนโหดร้ายมาด้วยความเกียจคร้านนี่ได้ยังไงหรือว่าฟลุ๊คผ่านมาได้กันแน่นะ)
ด้านนอกที่มืดมิดไร้แสงดาว ก้อนเมฆาเคลื่อนคล้อยตัวไปมาดุจดั่งสายลมที่พริ้วไหว ด้านนอกบ้านมีเสียงลมหวีดหวิวมาเป็นระยะและเริ่มมีลมกระโชกแรงขึ้นมาอย่างกระทัน เสียงฟ้าร้องดังมาเบาบางในตอนแรกและดังขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเอามือมาอุดหนูไว้ หน้าต่างด้านบนที่อยู่ไม่ไกลจากหัวเตียงนักเริ่มกระทบกันเกิดเสียงขึ้นมา ทว่าเธอได้ใส่กลอนหน้าต่างและประตูหลังจากข้างห้องนอนมาแล้ว
เสียงลมหวีดหวิวนั้นลอดผ่านเข้ามาในห้องของเธอเป็นระยะๆ สักพักก็มีเสียงฝนห่าตกลงมาอย่างหนักหน่วง
“ซ่าส์ ...ซ่าส์”
เสียงลมและฝนกระทบกันเกิดเสียงขึ้นในทันที ลมแรงพัดมากระทบหน้าต่าง น้ำฝนก็กระเด็นเข้ามาด้านในห้องเล็ดลอดช่องที่แตกแย้มนั้นเข้ามาข้างในห้องเธอมาเป็นพักๆ รอยแยกของหน้าต่างไม้สองบานนั้นไม่มากนักแต่ฝนห่าที่ซัดสาดเข้ามายังเล็ดลอดเข้ามาข้างในได้
เธอหลับตานอนฟังเสียงฝนเสียงที่กระทบกระทั่งกัน และเสียงฟ้าที่ดังมาเป็นระยะ
“นี่คงเป็นการต้อนรับฉันสินะ” เธอพูดออกมาแล้วยกยิ้มบางๆ หากไม่สังเกตุคงมองไม่เห็นรอยยิ้มชั่วร้ายนั่นเป็นแน่
ผ่านไปสองก้านธูปเสียงฟ้าร้องและลมที่พัดกระหน่ำได้หยุดลงเหลือเพียงเสียงฝนที่ยังตกอยู่ ฝนตกเบากว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก การที่ฝนตกอย่างกระทันหันและลมกระโชกแรงนี่ นานครั้งถึงจะเกิดขึ้นสักคราช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะยิ่งนัก
โชคดีที่หลังคากระเบื้องเก่านี้สร้างขึ้นมาแข็งแรงทนทาน ไม่เช่นนั้นคงถูกลมพัดปลิวไปตามแรงลม
เธอปิดตาลงและคล้อยหลับด้วยความเหนื่อยล้า ด้านนอกเสียงฝนยังตกกระทบหลังคากระเบื้องเก่านั้นอยู่ทว่าคนในบ้านก็หลับสนิดไปแล้ว