ตอนที่ 7 ว่างเปล่า
ห่าวหรานเห็นเช่นนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อเพียงแต่ว่าความสงสัยยิ่งมากขึ้นทวีคูณ ได้แต่เก็บเงียบมิยอมปริปาก (ลูกรักของเขาเปลี่ยนเป็นเฉยชากับเขาผู้เป็นบิดาได้เช่นไร แถมยังทำอาหารได้อย่างคล่องแคล่วไม่เหมือนคนที่เข้าครัวเป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ)
“ท่านพ่อขอรับ หอมเหลือเกิน...”
เสียงท้องร้องทักท้วงของอู๋เจ๋อดังออกมาเป็นระยะ
หลังจากที่ซีซวนเดินจากไป เธอก็ได้เข้าไปหยิบเสื้อผ้าในห้องที่เธอเลือกชุดที่ดูทะมัดทะแมง หนึ่งในนั้นคือชุดที่เป็นสีขาวที่ซีดและมีรอยปะชุนอยู่สามแห่งในกล่องไม้นั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าเก่าและดูเหมือนเด็กเกินไป หากเธอที่มาใช้ร่างนี้ใส่คงไม่เหมาะกับเธอนัก เพราะเหมือนสาวน้อยน่ารักเกินไปและดูเบาะบาง เมื่อเลือกเสื้อผ้าเสร็จเธอจึงได้เดินไปทางธารน้ำแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านนักใช้เวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูปเธอก็กลับมาถึงบ้าน สิ่งที่เห็นคือท่านพ่อและเจ้าสามนั่งอยู่ที่พร้อมกับอาหารที่วางไว้บนโต๊ะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว
“ซีซวน...มาๆ นั่งนี่สิพี่ชายเจ้าตักอาหารขึ้นโต๊ะไว้รอเจ้าแล้ว” เมื่อเดินเข้ามาห้องโถงก่อนเข้าห้อง พ่อในชาตินี้ของเธอก็เรียกเธอไปกินข้าวด้วยหน้าตาเปื้อนยิ้ม ถึงจะรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นลูกสาวในชุดที่แปลกตา ชุดที่เธอใส่นี้เป็นชุดที่นางใส่จนเบื่อแล้ว และเคยบอกว่าไม่ชอบมันเพราะเธอชอบชุดสีชมพูน่ารักๆ ที่ ท่านป้าเหลียน เพื่อนบ้านในระแวกมอบให้บอกว่าซื้อมาให้ลูกสาวแต่ชุดเล็กไปเลยใส่ไม่ได้ถึงได้มอบให้กับนาง ส่วนชุดสีขาวนี้นางชอบใส่ไปวิ่งเที่ยวเล่นในภูเขานั่นเอง จึงมีรอยปะชุนอยู่บ้าง
“เจ้าค่ะ ข้าเอาชุดไปเก็บก่อนปะเดี๋ยวข้าออกมา” นางตอบรับและเดินหันหลังเอาชุดเข้าไปเก็บในห้อง
นางเจียงหลินถูกพยุงเดินออกมานอกห้อง เพราะอยากออกมาชิมอาหารที่ลูกสาวทำครั้งแรกถึงจะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากนัก แต่ทว่านางก็ต้องมาให้กำลังใจซีซวนในครั้งนี้
เมื่อซีซวนเดินออกมาจากห้องเห็นทุกคนนั่งพร้อมหน้า บิดานั่งหัวโต๊ะ มารดานั่งทางซ้ายติดบิดา ทางขวาเป็นน้องเล็กและพี่ใหญ่ เหลือที่นั่งให้นางอีกที่นี่เป็นการพบเจอครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาสำหรับคนมาใหม่อย่างเธอ
ชาติก่อนเธอที่กินข้าวคนเดียวทำอาหารง่ายๆ ไม่ต้องรอใคร อยากกินก็กิน อยากนอนก็นอน เรียกว่าชิวสุดแต่ชีวิตไร้สีสัน
พอมาเจอคนนั่งรอกินข้าวแบบครอบครัวเธอถึงกับตกใจ หัวใจเต้นระรัว เพราะนี่คงเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอไขว่คว้ามาตลอดการกินข้าวพร้อมหน้าพร้อม ในตาที่ร้อนผ่าวของเธอแฝงไปด้วยความยินดี น้ำตาชื้นลิมขอบตาเล็กน้อย เธอผ่านเรื่องเป็นตายมามากมายจนน้ำตาเหือดแห้ง ภาพนี้สะท้านใจยิ่งนัก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยและเดินไปที่โต๊ะอาหาร
“ท่านพ่อ ท่านแม่” เธอกล่าวทักทาย
“มาๆ นั่งลงๆ ข้าล่ะอยากชิมอาหารที่เจ้าทำจะแย่อยู่แล้ว” ท่านพ่อกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้น จนตีนกาขึ้นโชว์บนผากอันกว้างไพลศาลนั่น
“ข้ากินได้หรือยัง” น้องสุดท้องร้องทักครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะได้กลิ่นอาหารที่หอมล่อตาล่อใจจนน้ำลายสอ
“กิน กินสิ...อาหลินข้าตักให้ เจ้าลองกินผัดจานนี้สิ” เมื่อสามีคีบเนื้อหมูให้นาง นางจึงมองหน้าเขาแล้วยิ้มอ่อนหวาน นางค่อยๆ เอาเนื้อชิ้นนั้นใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างละเมียดละไม
“เป็นอย่างไร...ท่านแม่” เจ้าใหญ่ถามขึ้นพร้อมกลืนน้ำลายเพราะทนกลิ่นหอมไม่ไหว
“...อร่อย” นางตอบสั้นๆ พร้อมคีบชิ้นต่อไปมากินเองโดยไม่รอให้สามีบริการเชกเช่นทุกวัน
เมื่อเห็นดังนั้นทุกคนก็เริ่มทยอยชิมคำเล็กมีเพียงน้องเล็กที่กินคำโตเคี้ยวตุ้ยๆ เต็มปากอย่างไม่เกรงใจใคร เมื่อเคี้ยวหมดก็คีบใหม่ คีบแล้ว คีบอีกจนปากมันวาวพร้อมทั้งเลียริมฝีปากอย่างชอบอกชอบใจ
ซีซวนกินโจ๊กและยกถ้วยซุบไข่น้ำซดไปหลายอึก อาหารที่มีเครื่องปรุงรสน้อยนิดนี้ทำให้เธอไม่อยากอาหารเท่าไหร่นัก
แต่ท่านพ่อท่านแม่ และสองพี่น้องกินกันจนแทบแย่งชิ้นหมูชิ้นเดียวกันนิมันอะไรกันเนี้ยยย
(อร่อย อร่อยเหลือเกินข้าไม่ได้กินของอร่อยแบบนี้มาก่อน) เจ้าสามคิดในใจเพราะปากเต็มไปด้วยอาหาร
คงเป็นเพราะกินอาหารที่ลูกชายคนโตทำให้กินมานาน รสชาตินี้แหละข้าตายตาหลับแล้ว ท่านพ่อกินจนอิ่มท้องแต่ปากยังอยากกินต่อ แต่มองไปทางซีซวนเลยตัดใจวางตะเกียบลงอย่างอาวร
เมื่อซีซวนหันไปอีกครั้งเห็นแค่ความว่างเปล่า ภายใต้แสงตะเกียงที่พริ้วไหวตามแรงลมที่พัดผ่านเบาๆ ในห้องโถง
“ท่านพี่ พรุ้งนี้ท่านทำอาหารให้ข้ากินอีกได้หรือไม่” เจ้าสามถามพี่สาวด้วยแววตาอ้อนวอน
“เจ้าสาม...ข้าทำให้เจ้ากินก็ได้หากนางไม่ทำ” เจ้าใหญ่กล่าวโดยใช้ลิ้นเลียปากที่มันแผลบ
“ไม่เอาหรอก ไม่แน่ว่าหากข้ายังกินอาหารที่ท่านทำอยู่อาจตายเข้าซักวัน” น้องเล็กกล่าว
“เจ้าก็กินมาตั้งนานไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่นา”
“ก็ตอนนี้ข้าอยากกินฝีมือพี่สองนี่นา”
เมื่อสองพี่น้องเริ่มจะทะเลาะกันเพราะเรื่องอาหารท่านพ่อจึงบอกว่า “ให้น้องสองเจ้าทำเถอะ ไหนเจ้าบอกจะไปเรียนรู้การตีดาบกับข้าเจ้าปล่อยให้น้องจัดการงานบ้านแล้วมาช่วยพ่อหาเงินไม่ดีกว่าหรือ”
เมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องถึงได้ยุติลง
ซีซวนเก็บถ้วยชามไปล้างโดยไม่พูดจา วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้วจึงอยากรีบทำให้เสร็จจะได้เข้านอน ร่างกายตอนนี้อ่อนแอเกินไป