ตอนที่ 3
ในท่าที่สาวน้อยกำลังก้มๆ เงยๆ
ทำให้คมสะดุดตากับภาพของสะโพกกลมกลึง รัดรึงอยู่ภายใต้ผ้าถุงลายดอกพิกุลถึงซึ่งเป็นชุดฟอร์มของสาวใช้
ผ้าบางแนบเน้นสะโพก เห็นกลีบก้นกลมกลึงเป็นรูปเป็นร่าง ทำเอาคมน์ขยับเข้ามาใกล้ เพ่งมองร่องนมขณะดาวเรืองก้มปัดฝุ่นที่โซฟา
‘โอ้ว… ’
ภาพที่เห็น เต้านมคัพอีอวบใหญ่เบียดอัดกันแน่นอยู่ในเสื้อคอจีนของยูนิฟอร์มสาวใช้ ทำเอาเลือดกำเดาของคมน์แทบสาด
หื่น…
คมน์ยอมรับอย่างไม่อาย หากจะใช้คำนี้นิยามถึงตัวตนอีกด้านของเขา
ใช่… เขาหื่น และไม่ใช่หื่นธรรมดา ผู้หญิงทุกคนที่เคยรองรับอารมณ์ของเขามาแล้ว จะรู้ดีถึงความจริงในเรื่องนี้
“ฉันอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเธอ… ช่วยเล่าให้ฉันฟังอีกที… ฉันต้องการความจริงจากปากของเธอ… ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน”
ร่างสูงใหญ่ทรุดลงนั่งบนโซฟา ตวัดขาไขว่ห้างน่าหวาดเสียวว่าของลับจะโผล่ออกมาทั้งพวง
“นะ…หนู เอ่อ… ก็หนูเป็นหลานสาวป้านิ่มไงคะ… พ่อแม่หนูตายหมดแล้ว ป้านิ่มสงสาร จึงเอาหนูมาอยู่ด้วย”
คำว่า ‘ความจริง’ ที่คมน์อยากได้ยิน ทำให้ดาวเรืองตกใจ เอ่ยอย่างตะกุกตะกัก
ดาวเรืองเริ่มสงสัย
ราวกับว่าคมน์แอบรู้อะไรมา จึงต้องมาเค้นถามเอากับหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ป้านิ่มก็ได้แนะนำไปแล้วเมื่อตอนเจอกันครั้งแรก
“ท่องบทมาเหมือนนกแก้วนกขุนทอง… ไม่ได้ยินหรือยังไงที่ฉันบอกว่าต้องการความจริง”
คมน์เอามือกอดอก เอนหลังพิงพนักโซฟา ตาคมดุจ้องใบหน้าของคนตัวเล็กอย่างคาดคั้น
“ความจริง… ก็อย่างที่หนูบอก”
ดาวเรืองไม่รู้ว่าเขาแอบฟังเรื่องราวในครัวเมื่อวันนั้น
‘โกหก… เธอมันแพศยาเหมือนแม่เธอไม่มีผิด ไม่งั้นแม่เธอคงไม่ร่านมาเป็นเมียน้อยพ่อฉัน’
คมน์กราดน้ำเสียงอยู่ในใจ
รอยแค้นเมื่อวันก่อน…
ถึงตอนนี้ยังไม่จาง เขาไม่เคยลืมวันที่นายพศุวัฒน์ผู้เป็นบิดาสารภาพกับผู้เป็นมารดาว่านอกใจ แอบเลี้ยงดูเมียน้อยอีกคนไว้ที่บ้านเช่า เมียน้อยซึ่งก็คือแม่ของดาวเรือง
“งานเสร็จแล้วนะคะ… หนูไปได้หรือยังคะ”
ดาวเรืองถาม ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้หญิงสาวอยากออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด… แต่ไม่ง่าย
“จะรีบไปไหน… ทำไม ท่าทางของฉันน่ากลัวนักหรือยังไง”
คมน์ถาม ดาวเรืองนึกตอบในใจว่า ‘ใช่’ เขาน่ากลัวมาก
คมน์เดินมาที่หัวเตียง
ทำท่ากวาดสายตามองหาของบางอย่างอึดใจสั้นๆ ก่อนจะตวัดสายตามาที่ดาวเรืองอย่างเอาเรื่อง
“ฝีมือเธอใช่ไหม… ยัยตัวดี”
เสียงของคมน์เข้มจนน่ากลัว
“อะไรคะ… ”
ดาวเรืองหน้าเสีย ไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร
“แหวน… แหวนหมั้น จำได้ว่าก่อนเข้าไปอาบน้ำฉันวางเอาไว้ตรงนี้”
“ไม่มีนะคะ… ”
ดาวเรืองส่ายหน้า หล่อนมั่นใจว่าไม่เห็นจริงๆ
“เธอนี่มันสิบแปดมงกุฎ… ในห้องนี้มีแค่เธอกับฉันเท่านั้น ยังจะมีหน้ามาปฏิเสธ”
“ไม่มีค่ะ… ”
ดาวเรืองยืนกราน
“ปากแข็ง… ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ขโมย เธอจะต้องยอมให้ฉันค้นตัว”
คมน์หรี่ตามองเรือนร่างเอิบอิ่ม ผิวขาวสะอ้าน ทรวงอกอวบใหญ่สะดุดตาจนความคิดหื่นผุดวาบเข้ามาในหัวของเขา
“ค้น… ยังไงคะ… ”
คนโดนปรักปรำย้อนถามเสียงแผ่ว
“ก็ค้นตัว… และต้องค้นทุกซอกทุกหลืบ จนกว่าจะแน่ใจว่าแหวนไม่ได้อยู่กับเธอ”
คมน์สืบเท้าเข้าประชิดร่าง
“หนูไม่ได้ขโมยแหวนของคุณนะคะ”
ดาวเรืองส่ายหน้า
ถอยร่นจนแผ่นหลังติดผนัง ก่อนจะยืนนิ่งอย่างจำยอม เพราะมั่นใจว่าแหวนของเขาไม่ได้อยู่กับหล่อนอย่างแน่นอน
หรือจะต้องให้เขาค้น…
เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ดาวเรืองคิดในใจ
“คุณคมน์… ”
ดาวเรืองเอามือปัดป้อง คมน์พยายามจะแกะกระดุมเสื้อของหล่อน
“อย่าเล่นตัวน่ะ… ถ้าเธอฉลาดก็ควรอยู่ให้เป็น ถ้ายังอยากอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป… เธอก็น่าจะรู้ ว่าควรจะตามใจเจ้าของบ้านอย่างฉัน”
คมน์หยุดแกะกระดุม รวมมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กขึ้นมาล็อกเอาไว้เหนือศีรษะ
“ไม่นะ… อย่าทำ”
ดาวเรืองส่ายหน้า
คมน์ไม่ฟัง
ซ้ำยังสอดมือเข้าใต้ชายเสื้อ ลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอด สัมผัสเนื้อหนุ่มของหล่อน สอดนิ้วล้วงเข้ามาใต้ขอบบราเซียแล้วกอบกุมสองเต้าอวบใหญ่ล้นมือ บีบขยำอย่างนึกมันเขี้ยว
“โอ้ว… ”
คมน์เผลออุทานออกมา คลี่นิ้วสัมผัสความนุ่มเนียนของปทุมคู่งาม บีบขยำจนเนื้อขาวปลิ้นออกมาตามซอกนิ้ว
“อ๊า… ”