ตอนที่ 2
ทั้งที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก คมน์แซวอย่างไม่ไว้หน้า สำหรับผู้หญิงคนนี้คงไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า ‘มารยาท’ กับหล่อน
“ค่ะ… ดาวเรือง ก็แค่ดอกไม้บ้านๆ สีสันสุดเชยกลิ่นก็ไม่หอม”
เจ้าของชื่อเชยๆ กล่าวอย่างยอมรับ
อันที่จริง… ที่เขาว่าก็ไม่ผิด คมน์ไม่ใช่คนแรกที่เอ่ยแซวเรื่องชื่อเชยๆ ของหล่อน ตอนเรียนก็โดนเพื่อนล้อว่าชื่อเหมือนสาวบ้านนอก
“นวดเป็นไหม… วันนี้ฉันรู้สึกเมื่อย เดี๋ยวเธอขึ้นไปทำความสะอาดบนห้องนอนของฉัน… แล้วก็นวดให้ด้วย”
คมน์กล่าวโดยไม่มองหน้าหญิงสาว สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ ใช้นิ้วปาดจอสไลด์ดูฟีดข่าว
สิ่งที่ได้ยิน ทำเอาป้านิ่มตกใจ!
แต่ก่อนแต่ไรไม่เห็นว่าคมน์จะเรียกสาวใช้คนไหนให้ขึ้นไปนวดถึงห้องนอน วันนี้มาแปลกเหลือเกิน
“นวด… เอ่อ… ”
ดาวเรืองถามอึกอัก
จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของทายาทคนโตของตระกูลอัครพลไพศัลย์ศวัสดิ์ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
“ใช่… เมื่อครู่ฉันพูดชัดแล้วนะ”
เสียงเข้มดุจนน่ากลัว ราวกับโกรธใครมา
“ค่ะ… แต่หนูนวดไม่เก่งนะคะ”
ดาวเรืองรู้สึกหนักใจจึงรีบออกตัว
แม้ที่ผ่านมาจะเคยบีบนวดให้ป้านิ่ม แต่ไม่เคยนวดให้ใครอย่างจริงจัง
มันเหมือนมีลางสังหรณ์
ดาวเรืองรู้สึกกลัวผู้ชายคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ด้วยรับรู้ได้ว่ามีกระแสความร้อนแรงอันประหลาด วูบไหวอยู่เบื้องหลังดวงตาสีน้ำผึ้งชวนฝันของเขา ดวงตาที่อ่านไม่ออก เดาไม่ถูก… ว่าเขาจะมาไม้ไหน?
นี่แค่วันแรกที่เจอหน้ากันเขาก็ทำท่าราวกับว่าเกลียดชังหล่อนมาแต่ชาติปางก่อน
นี่กระมัง ที่ทำให้ป้านิ่มเตือนว่า ‘อยู่ให้ห่างคุณคมน์เอาไว้’ คุณคมน์ไม่เหมือนกับคุณราเมศซึ่งเป็นน้องชาย
ครู่สั้นๆ ต่อมา
อีกมุมหนึ่งภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นจ้องมองผ่านกรอบหน้าต่างห้องนอนออกไปยังสวนดอกไม้ที่หลังบ้าน เห็นแปลงกุหลาบสีขาวผลิดอกสะพรั่งอยู่ทั่วสวน
“ตาคมน์… วันนี้ไม่ออกไปไหนรึ”
คุณหญิง ‘พรรณราย’ มารดาของคมน์ กล่าวกับลูกชายที่กำลังเข็นรถเข็นออกมาที่ระเบียงหลังห้อง เพื่อให้มารดาได้สูดอากาศของยามเย็น แลเห็นพระอาทิตย์สีแดงฉานลอยต่ำใกล้ตกดิน ลมหนาวของเดือนธันวาพัดพาความหนาวเย็นมาสู่คฤหาสน์หลังใหญ่
“ค่ำๆ ผมมีนัดกับ ‘โรส’ ครับ”
คมน์ตอบ
“แกกับหนูโรสเมื่อไรจะแต่งกันสักที… หมั้นกันไว้นานแล้วนะ”
คุณหญิงพรรณรายถาม
‘โรส’ มีชื่อจริงว่า ‘โรสรา’ เป็นลูกสาวคนเดียวของนาย ‘ธนาธร’ นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง สร้างบ้านจัดสรรและคอนโดแบรนด์ดังขายมานานนับสิบปี
“ช่วงนี้งานเยอะครับคุณแม่… เรื่องแต่งงานรอให้พ้นต้นปีไปก่อนดีกว่า”
คมน์ตอบ
“ปีนี้แกก็สามสิบห้าแล้ว… อย่ารอให้นานนักนะแม่อยากอุ้มหลาน”
ดวงตาคมสวยของผู้เป็นมารดาเหลือบขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของลูกชาย
“ไม่ต้องห่วงครับ… ยังไงคุณแม่ได้อุ้มหลานแน่ๆ รออีกนิดนะครับ”
ร่างสูงก้มลงมากอด หอมแก้มมารดาผู้ให้กำเนิดเสียงดังฟอด
คมน์อดคิดไม่ได้… ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ในวันนั้น มารดาของตนก็คงไม่ต้องกลายเป็นคนพิการ ไม่ต้องนั่งรถเข็นเหมือนเช่นที่เป็นอยู่ในตอนนี้
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
ดาวเรืองเดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของคมน์อยู่ครู่ใหญ่ๆ กว่าจะรวบรวมความกล้าเคาะประตูห้อง บอกให้เจ้าของห้องรู้ว่าหล่อนมาถึงแล้ว
“เข้ามา… ประตูไม่ได้ล็อก”
เสียงเข้มของคนในห้องตะโกนตอบ
ดาวเรืองผลักบานประตูเข้ามาช้าๆ พลันสายตาปะทะเข้ากับเรือนร่างกำยำล่ำสันของคมน์
เขาอยู่ในสภาพเกือบเปลือยเปล่า เพราะว่ามีเพียงผ้าขนหนูสีน้ำตาลผืนเดียวพันกึ่งกลางกายช่วงล่างเอาไว้
รูปร่างของคมน์กำยำไปด้วยมัดกล้าม หัวไหล่และต้นแขนเต็มตึง แผงอกกว้างแน่นนูนไปด้วยมัดเนื้อ มีเส้นขนสีดำเป็นแพกระจายคลุมอก ที่ท้องฉาบไว้ด้วยซิกแพ็คเป็นคลื่นลอนสะดุดตา ต้นขาดูแกร่งจนเห็นริ้วลายกล้ามเนื้อชัดเจน รู้สึกได้ถึงความทรงพลังของช่วงล่าง
ให้ตายเถอะโรบิ้น ผู้ชายคนนี้เซ็กซี่นัก
ดาวเรืองเคยเห็นผู้ชายถอดเสื้อมาก็มาก แต่ก็ยังไม่เคยเห็นใครเซ็กซี่เหมือนผู้ชายคนนี้
คมน์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศอย่างเหลือร้าย แค่อยู่ใกล้ก็ทำเอาใจเต้น
“เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำ ระหว่างนี้เธอปัดกวาดห้องไปก่อน รอฉันอาบน้ำเสร็จแล้วค่อยนวด”
คนตัวใหญ่สั่งเสียงเข้ม
“ค่ะ… ”
ดาวเรืองพยักหน้ารับ หิ้วถังน้ำที่มีผ้าเช็ดพื้นอยู่ข้างในพร้อมด้วยไม้กวาดขนไก่เดินไปยังโซฟา เริ่มจากหน้าต่างห้องนอน โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่มุมห้อง แล้วกลับมาเช็ดโซฟา
ราวๆ ยี่สิบนาทีผ่านไป
คมน์ออกมาจากห้องน้ำ สายตาจับจ้องอยู่กับเรือนร่างอรชรของดาวเรือง