บทย่อ
‘ความแค้น’ เหมือนไฟ แต่ ‘ความใคร่’ สุดเร่าร้อนรุนแรงยิ่งกว่า ไฟราคะของเขาพร้อมจะแผดเผาหล่อน ใช้ความใคร่กลบรอยความแค้น ให้หล่อนมอดไหม้ไปกับ ‘กามตัณหา’ ที่ยากจะหยุดยั้ง แต่สุดท้าย… ใครจะคิดว่าผู้ชาย ‘สุดร้าย’ คนนี้ จะกลายมาเป็น ผู้ชาย ‘สุดที่รัก’ ของหล่อนในที่สุด
ตอนที่ 1
สาวน้อย
บำเรอกาม
ที่บ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์
ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินหญ้าสีเขียวขจี บนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ในอำเภอแม่ริมของจังหวัดเชียงใหม่
ที่ห้องครัวด้านหลังบ้าน ใกล้กับเรือนพักของคนใช้ ‘คมภวัศน์’ หรือที่ผู้คนในบ้านมักจะเรียกชื่อของเขาสั้นๆ ว่าคุณ ‘คมน์’ จนติดปาก
คมน์ตัดสินใจย่องเข้ามาใกล้ห้องครัว เมื่อเห็นว่านาย ‘วศุวัฒน์’ บิดาของตน เดินเข้าไปในครัวด้วยท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย
คมน์ครุ่นคิดด้วยความข้องใจ ว่าเพราะเหตุใดนายใหญ่ของบ้านที่ไม่เคยย่างกรายเข้ามาถึงห้องครัว วันนี้จึงลงมาได้
ดวงตาคมกริบราวกับตาของสัตว์นักล่า เพ่งมองผ่านช่องว่างของบานหน้าต่างที่เปิดแง้มเอาไว้เพียงน้อย เห็นบิดาของตนนั่งอยู่หัวโต๊ะ โดยมีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ข้างๆ
หญิงวัยกลางคนร่างอวบคือ ‘ป้านิ่ม’ เป็นคนรับใช้ที่คมน์รู้จักดี ป้านิ่มทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้มานานนับสิบปี
ส่วนอีกคนเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยสะดุดตา เป็นใครที่คมน์ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน?
รู้แต่ว่าหล่อนใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า ‘หนู’
คมน์ยืนนิ่ง
ฟังสิ่งที่นายพศุวัฒน์ผู้เป็นบิดากำลังกล่าวกับผู้หญิงสองคน คนหนึ่งคือหญิงรับใช้เก่าแก่ และอีกคนนั้นคมน์เพิ่งได้รู้ก็เดี๋ยวนี้… ว่าสาวน้อยหน้าตาสะสวยสะดุดตาคนนี้เป็นใคร?... มาจากไหน?
‘เป็นแบบนี้นี่เอง… ’
เรื่องที่ได้แอบฟังเกือบสิบนาที ทำเอาคมน์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เหตุนี้เอง… ที่ทำให้บิดาของตนต้องเดินเข้ามาถึงห้องครัวของคนรับใช้
‘ร้ายนะคุณพ่อ… กล้าเอาลูกชู้เข้ามาอยู่ในบ้าน’
คมน์รำพึงในใจ
รีบเดินออกมาเสียก่อนที่จะมีใครรู้ว่าเขาเข้ามาแอบฟังความลับของคนอื่นอย่างเสียมารยาท
‘ได้รู้แบบนี้ก็ดี… เดี๋ยวกูจะเอาคืนให้สาสม’
คมน์กำมือแน่นด้วยความโกรธ
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตอนเย็นของวันเสาร์
นานเกือบสัปดาห์ที่คมน์ไม่อยู่บ้าน เพราะว่าต้องเดินทางไปดูแลโรงแรมในกรุงเทพฯ และรีสอร์ตในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวมาแต่ดั้งเดิม
พศุวัฒน์รู้ดี
ว่าคมน์ซึ่งเป็นลูกชายคนโตนั้นเป็นคนเก่งรอบด้าน ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการและการตลาด จึงตัดสินใจยกตำแหน่ง GM (General Manager) ของโรงแรมทั้งหมดที่มีอยู่ในหลายจังหวัดของภาคเหนือและกรุงเทพฯ ให้คมน์เป็นผู้ดูแล
ส่วนเกสเฮาส์เล็กๆ และร้านอาหารในกรุงเทพฯ อีกหลายที่ พศุวัฒน์ยกให้ ‘ราเมศ’ ซึ่งเป็นลูกชายอีกคนเป็นผู้ดูแล โดยที่เขาคอยดูอยู่ห่างๆ
“ป้านิ่ม… นั่นใคร”
คมน์ทอดสายตามองไปยังหญิงสาวที่กำลังเก็บจานของว่างออกไปจากห้องรับแขก
อันที่จริงคมน์รู้…
รู้ตั้งแต่วันที่แอบฟัง… แต่ลองแกล้งถาม ทั้งที่ก็รู้ว่าจะไม่ได้ความจริงจากปากของป้านิ่ม
“อ๋อ… หลานสาวป้าชื่อ ‘ดาวเรือง’ จ้ะ มันเป็นลูกกำพร้า พ่อแม่มันตายหมดแล้ว ป้าสงสารที่เห็นมันเหลือตัวคนเดียว ก็เลยต้องเอาเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ โชคดีที่คุณท่านเมตตารับเข้าทำงาน ไม่งั้นมันคงลำบาก แล้วดาวมันเพิ่งสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ ป้าเลยช่วยเอามาส่งเสียให้มันได้ร่ำเรียนต่อ”
ป้านิ่มกล่าวถึงที่มาของหญิงสาวที่ลูกชายคนโตของบ้านกำลังมองอย่างให้ความสนใจ
คมน์นิ่งฟัง
เหลือบมองไปทางหญิงสาวพร้อมกับเหยียดยิ้มน้อยๆ เพราะรู้ว่าที่ป้านิ่มบอกนั้นไม่ใช่ความจริง
เรื่องสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้อาจจะใช่ แต่เรื่องที่บอกว่าเป็นหลานป้านิ่มนั้นไม่ใช่แน่ๆ
จากที่แอบฟังมา ทำให้คมน์รู้ว่าดาวเรืองเป็นลูกติดมาจากเมียน้อยของนายพศุวัฒน์ผู้เป็นบิดา
“เป็นคนใช้… ถ้างั้นผมจะใช้อะไรก็ได้ใช่ไหม”
คมน์กล่าวพลางเหลือบมองไปยังดาวเรืองอย่างเอาเรื่อง
“ค่ะ… คุณคมน์จะใช้อะไรมันหรือคะ?”
ป้านิ่มถามด้วยความสงสัย เห็นสายตาของคมน์แล้วนึกเป็นห่วงดาวเรืองขึ้นมาทันที
ป้านิ่มเรียกดาวเรืองเข้ามาแนะนำตัวกับลูกชายคนโตของบ้าน
“ดาวจ๊ะ… นี่คุณคมน์”
ป้านิ่มแนะนำชายหนุ่ม ในชุดสูทสีดำยิ่งทำให้คมน์ดูสมาร์ท มีออร่าผู้บริหารเด่นชัด โครงร่างสูงใหญ่แบบลูกครึ่งฝรั่งยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาสะดุดตา แต่แววตาคมดุที่มองมา ก็ทำเอาดาวเรืองรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
“สวัสดีค่ะคุณคมน์… หนูชื่อดาวเรืองค่ะ”
หญิงสาวแนะนำตัวเอง
คมน์จ้องมองดวงหน้าสวยหวาน ตาคมกลมโต จมูกโด่งเป็นสัน ผมสีดำยาวสลวยลงมาประบ่า ริมฝีปากจิ้มลิ้มเซ็กซี่สะดุดตา
“ดาวเรือง… ชื่อเชยจัง”