ตอนที่ 10 คนหล่อแผลงฤทธิ์
ตอนที่ 10 คนหล่อแผลงฤทธิ์
“ไม่ได้นะคะ วันนี้ยังไม่ได้ถ่ายเลย น้องธีร์จะกลับไม่ได้ กว่าจะได้คิวนางเอกวันนี้ยากมาก”
ผู้จัดละครรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันทีที่มีลูกน้องไปตาม ว่าพระเอกลูกเทวดาอาละวาดอีกแล้ว
“ทำไมจะไม่ได้ ผมไม่ถ่ายแล้ว ดูทีมงานพี่เอาอะไรมาให้ผมใส่ นี่ชุดอะไร”
“มันก็ชุดตามคาแรคเตอร์ตัวละครนะคะ ฉากอื่นๆ ที่ถ่ายไปแล้วครึ่งเรื่องก่อนหน้านี้น้องธีร์ก็ใส่สไตล์นี้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย”
“แต่ตอนนี้ผมไม่อยากใส่ หาสไตล์อื่นที่มันดีกว่านี้มา”
ดาราหนุ่มปาชุดที่เขาต้องใส่เข้าฉากลงพื้นทันที จนทีมงานต้องรีบไล่ตะครุบเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้นมาปัดเศษฝุ่นออกและแขวนเอาไว้ที่ราวอีกครั้งป้องกันมันยับ
“ตอนนี้เราไม่มีค่ะ ชุดเราเตรียมกันไว้หมดแล้ว คิวหน้าพี่จะหามาเพิ่มให้ แต่วันนี้ต้องใส่ก่อนจริงๆค่ะ คิวนางเอกเราได้แค่นี้ค่ะ”
“ก็ถ่ายแค่นางเอกไปก่อนสิ”
เขาเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดีเพราะรู้ว่าทีมงานทำแบบนั้นไม่ได้แน่ คนหล่อน่าถีบงอแงขั้นสุด ยังไงวันนี้เขาก็จะไม่ยอมถ่ายแน่ จะมีเรื่องให้มันกองแตกไปเลย
“ไม่ได้อีกค่ะน้องธีร์ วันนี้มีฉากเลิฟซีนของพระเอกกับนางเอก สถานที่ก็ต้องที่นี่ เราเอาฉากอื่นเข้ามาไม่ได้จริงๆ เห็นใจพี่หน่อยนะคะ”
ผู้จัดละครพยายามใช้ไม้อ่อนกับเขา เพราะหากพูดจาอะไรรุนแรงไป มีหวังอีกเป็นอาทิตย์พ่อก็ไม่ยอมมากองอีกแน่
“แล้วมีใครเห็นใจผมบ้าง”
“พี่จุ๊บแจงคะ เดี๋ยวลินจัดการเองค่ะ ไหนชุดของพระเอกคะ”
จุ๊บแจง ผู้จัดละครสาวประเภทสอง รู้สึกเหมือนต้นไม้ที่ใกล้แห้งตายแล้วได้น้ำฝนแรกของฤดู ผู้จัดการดาราสาวสวยมาแล้ว มาเป็นระฆังพักยกของเธอกับพระเอกหนุ่มที่ยังไงวันนี้ก็ไม่มีวี่แววหาทางจบได้ เลยรีบสั่งทีมเสื้อผ้าให้เอาชุดมาให้พระเอกไบโพลาร์ทันที
“เดี๋ยวทุกคนออกไปก่อนนะคะ ไปเตรียมงานกันต่อได้เลยค่ะ ลินขอเวลาไม่เกินยี่สิบนาที เดี๋ยวลินพาพระเอกออกไปค่ะ”
“ได้ค่ะน้องลิน พี่ฝากด้วยนะคะ”
หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ ให้ผู้จัดละครสาวสองที่บัดนี้หน้าตาเริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้างแล้ว
“แต่งตัวสิคะคุณธีร์”
เธอยื่นชุดเจ้าปัญหาที่เขาต้องใส่เข้าฉากเลิฟซีนเร่าร้อนในวันนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกพิสดารไปจากเดิม เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวเนี่ยนะ ที่พ่อพระเอกลูกเทวดาของเธอทำให้เป็นเรื่องใหญ่
“ผมไม่ใส่ คุณถามผมสักคำหรือยังว่าผมอยากใส่ไหม”
เขาปัดมือเธอที่ยื่นชุดมาให้เขาทิ้ง จนเสื้อผ้าเหล่านั้นแทบหลุดจากมือเธอ
“ไม่จำเป็นต้องถามค่ะ ชุดที่ทางทีมงานจัดมาแปลว่ามันเป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้แล้วว่ามันเหมาะสมกับคาแรคเตอร์ตัวละครกับบทในเรื่องตอนนั้น”
“ที่คุณไม่ได้ถาม เพราะคุณไม่อยู่ถามต่างหาก”
ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองเธอเขม็ง ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึ้งเหมือนไปโกรธใครมาไม่มีผิด
“ห๊ะ อะไรนะคะ”
“เพราะคุณทิ้งหน้าที่ดูแลผม ไปคุยโทรศัพท์อี๋อ๋อกับผู้ชาย คราวนี้ใครล่ะ พี่ชินหรือเสี่ยคนอื่น”
“ไม่ใช่ทั้งสองค่ะ”
“หึ มีหลายคนขนาดนั้นเชียวหรือ ขาดแคลนเงินหรือขาดเรื่องอย่างว่าไม่ได้”
หนุ่มหล่อแค่นเสียงเย้ยหยันเธอ ในขณะที่ใจแกร่งกลับรู้สึกเจ็บแปลบอย่างหาสาเหตุไม่ได้
หญิงสาวกำมือแน่น กัดฟันข่มอารมณ์ เขาเป็นบ้าอะไรไปอีกถึงมาหาเรื่องเธอแบบนี้ เธอจะคุยกับใครก็สิทธิ์ของเธอหรือเปล่า เสร็จแล้วเธอก็รีบมาทำหน้าที่แล้วไง ถึงแม้จะช้าไปนิดจนพ่อโวยวายเล่นเอากองป่วนขนาดนี้ก็เถอะ
“ค่ะ ทั้งสองอย่างค่ะ พอใจในคำตอบไหมคะ ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยใส่ชุดไปเข้าฉากด้วยค่ะ”
“ได้ อยากให้ใส่นัก ก็ใส่ให้เองแล้วกัน”
พูดจบก็ถอดเสื้อยืดตัวแพงของตนออก แล้วตามด้วยกางเกงขายาววางกองลงที่พื้น จนตอนนี้ร่างสูงเหลือเพียงกางเกงบ็อกเซอร์แบรนด์หรูติดกายแค่ตัวเดียว ยืนอวดลอนกล้ามเนื้อชัดแจ๋วทุกลูกให้เธอดู
“ได้ค่ะ ถ้ามันจะทำให้คุณมีความสุขในการทำงานขึ้น และไม่ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปมากกว่านี้ ฉันจะใส่ให้คุณ”
มิลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหยิบเอากางเกงขายาวตัวสวยที่เขาต้องใส่เข้าฉากมาอ้าออกกว้างอยู่แทบเท้าเขาให้เขาสอดใส่ลำขาแกร่งของเขาเข้ามา ดาราหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนยอมใส่กางเกงที่เธอกางให้แต่โดยดี
เขายืนนิ่งราวหุ่นโชว์เสื้อผ้า หน้าที่รูดซิปและติดกระดุมกางเกงก็คงต้องเป็นของเธอจริงๆสินะ หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกก่อนยื่นมือที่สั่นน้อยๆข้างหนึ่งเข้าไปจับเนื้อผ้าตรงตะเข็บซิปเอาไว้ แล้วยื่นอีกมือหนึ่งที่สั่นไม่แพ้กันไปรูดซิปขึ้นจนสุดราง ก่อนติดกระดุมกางเกงให้เขาจนเรียบร้อย
เท่านั้นไม่พอ เธอยังต้องใส่เข็มขัดให้เขาอีก โดยที่ตัวเธอยืนอยู่ข้างหน้าสอดสายเข็มขัดจากหูกางเกงด้านหนึ่ง ค่อยๆไล่สายไปแล้วเอื้อมมืออีกข้างอ้อมไปดึงปลายเข็มขัดของเขาเพื่อจะเอามาบรรจบกันที่ด้านหน้า จึงกลายเป็นว่า ร่างบางต้องยืนแนบชิดโอบกอดเขาไปโดยปริยาย
ชายหนุ่มหล่อดวงตาแพรวพราว อมยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ จมูกโด่งจัดสูดกลิ่นกายและน้ำหอมอ่อนๆจากหญิงสาวเข้าจนเต็มปอด
ร่างบางตรงหน้าเขาที่กำลังสาละวนกับการหาปลายเข็มขัดเพราะมืออันสั่นเทาทำให้สอดผิดสอดถูกจนต้องสอดใหม่หลายครั้ง ในขณะนั้นเองเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่รินรดตรงซอกคอเธอหลายครั้ง จึงเงยหน้าขึ้นมอง
ทันทีที่ใบหน้างามเงยขึ้นมา ก็สบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ฉายประกายหวานฉ่ำ หญิงสาวสบตาเขานิ่งงันเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มลงมาประกบปากหยักได้รูปเข้ากับปากกระจับอวบอิ่มสีสวยของเธอด้วยสัมผัสอันอ่อนโยนเนิบนาบเชิญชวนให้สาวงามตรงหน้าคล้อยตาม
มิลินผู้ต้องมนต์สะกดหลับตาพริ้มรับสัมผัสอันอ่อนโยนแต่ร้อนแรงของเขา ก่อนขยับปากจูบเขาตอบกลับไปอย่างสติล่องลอย จูบที่แผ่วเบาเนิบนาบค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้าหยอกเย้าดูดดึงปลายลิ้นน้อยของเธอ ซึ่งเธอก็ยินยอมให้เขากระทำได้ตามใจ
คนเอาแต่ใจตักตวงความหอมหวานจากปากสาวจนเป็นที่พอใจแล้วจึงถอนริมฝีปากออกมาเพียงครู่ เขามองดวงตาหวานที่บัดนี้ค่อยๆลืมขึ้นมาจนสามารถสบกับสายตาร้อนแรงของเขา หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ เรียกสติตนเองที่ก่อนนี้กระเจิดกระเจิงไปไกล
“คุณ ทำไมทำแบบนี้”
เสียงหวานแหบพร่าราวกระซิบเอ่ยถามออกไป ซึ่งกว่าเธอจะหาเสียงตัวเองเจอก็ใช้เวลาอยู่นาน แถมพอเปล่งออกไปก็แหบพร่าเสียจนน่าสงสารในสายตาเขา
“คุณทำให้ผมอารมณ์เสีย จนไม่มีอารมณ์ซ้อมบท ก่อนนี้ยังไม่ได้ซ้อมเลย เลยต้องมาซ้อมกับคุณนี่ไงมิลิน คุณต้องรับผิดชอบความผิดทั้งหมดของคุณ”
“แต่ฉันยัง...”
ไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยประท้วงขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง ดาราหนุ่มก็โน้มหน้าลงประกบปากอุ่นบดจูบเธออีกครั้ง ครานี้เขามอบสัมผัสเรียกร้องเร่าร้อนและรุนแรงให้กับเธอตั้งแต่เริ่ม จนเธอหัวหมุนเคว้ง หลับตาพริ้ม ยืนอ่อนระทวยให้เขาตักตวงความหวานในปากเธอจนกว่าเขาจะพอใจอีกครั้ง
จูบที่แสนรัญจวนทำเอาเธอเปล่งเสียงครางหวานออกมาในลำคอเพื่อระบายความเสียวซ่าน ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงปรารถนา จนชายหนุ่มต้องเปล่งเสียงครางต่ำในลำคอเพื่อปลดปล่อยอารมณ์และเรียกสติตนเองไม่ให้ทำอะไรคนปากหวานมากไปกว่านี้
ดาราหนุ่มถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาคมดุที่บัดนี้หวานเยิ้มจ้องมองประสานสายตากับเธอนิ่งนาน แล้วไล่สายตามองลงไปยังปากกระจับที่บวมเจ่อน้อยๆของเธออย่างโหยหา เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับแก้มนวลเบาๆ ก่อนนิ้วหัวแม่มือแกร่งจะลูบไล้วนเวียนอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มแสนหวานที่เขาหลงใหล
“ขอบคุณสำหรับการซ้อมบทที่แสนหวานนะครับ มิลิน”
มิลิน กะพริบตาถี่ๆเรียกสติอีกครั้ง ก่อนขยับร่างถอยหลังหนีจากการรุกรานแสนหวานของเขา เธอกระแอมสองสามครั้งเรียกเสียงให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนหันไปสั่งชายหนุ่มด้วยมาดเข้มเหมือนเดิม
“แต่งตัวให้เรียบร้อยนะคะคุณธีร์ ฉันจะออกไปรอข้างนอก”
พูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้องแต่งตัวสุดสยิวนี่ทันที
ดาราหนุ่มมองตามร่างบางที่ประหม่าอายอย่างน่ารักแล้วเดินหนีเขาออกไปด้วยแววตาหวานล้ำ เขารู้สึกอิ่มเอมในหัวใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เธอ จนต้องหาเรื่องแอบเอาเปรียบเธอนิดๆหน่อยๆอย่างห้ามใจไม่อยู่ ร่างบางหวานหอมนุ่มนวลอมเปรี้ยวแบบนี้นี่เอง ชินดนัยถึงได้ติดใจและหวงแหนนัก
เมื่อนึกถึงว่าเธอเป็นของคนอื่น ใจแกร่งก็รู้สึกวูบโหวงแกว่งไกวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกหวงแหนผู้จัดการส่วนตัวสาวเนื้อหวานคนนี้มาก ไม่อยากให้เธอไปทำแบบนี้กับใครอีกนอกจากเขา แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นของเขา เธอเป็นของคนอื่น