บท
ตั้งค่า

EP 7

“แอ้! ทะเลาะกับลุงด้วงเหรอ ถึงได้มานอนบ้านแก้ม เจ้าของสวนไม่ว่าเอาเหรอที่คนนอกเข้าไปยุ่มย่ามน่ะ แล้วมือถือทำไมไม่เปิด สิงโทรหาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบก็ติดต่อไม่ได้ ห่วงแทบแย่”

เพราะปกติเวลาสายหยุดไม่สบายก็ไม่เห็นปาลิตาจะมานอนเป็นเพื่อนอริสาแต่อย่างใดตามที่ได้รู้มา เขาจึงคิดว่าคงจะมีเหตุผลอื่นมาเจือด้วยและเดาได้ว่าคงเป็นเจ้าเก่าแน่จึงรีบเอ่ยถามออกไป แต่ใบหน้าเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจที่ได้เห็นคนรัก

กระเป๋าของเธอเขาก็คว้าไปสะพายไว้ที่บ่าให้แทน แถมมีน้ำใจกับอริสาด้วยการทำแบบเดียวกัน ระหว่างทั้งสามเดินไปตามถนนเล็กๆ เพื่อออกไปขึ้นรถเมล์หน้าปากทาง

“ก็มีปัญหานิดหน่อยจ้ะสิง แต่ไม่รุนแรงหรอก แอ้ว่าเรารีบไปดีกว่านะ วันนี้มีเรียบคาบแรก”

ปาลิตาตัดบทด้วยการเดินจ้ำไปข้างหน้าโดยไม่คิดจะรอใคร และเพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้คนรักเห็นกลุ่มน้ำตาที่เอ่อเต็มเบ้าพร้อมที่จะไหลรินออกมาหากไม่รีบหักห้ามเอาไว้ อริสาเข้าใจเพื่อนดีจึงเดินตามโดยไม่ได้พูดอะไร ส่วนสิงหาก็ไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน เพราะปัญหาทางบ้านของเธอเขารับรู้มาโดยตลอดจึงเห็นเป็นเรื่องเกือบจะธรรมดาด้วยซ้ำ

จึงไม่ได้ไล่เรียงถามซ้ำซาก รังแต่จะทำให้อารมณ์เสียตามไปด้วย จึงรีบก้าวเดินให้ทันสองสาวไปโดยเร็ว ไม่นานทั้งสามต้องรีบพาตัวเอง ให้ไปยืนอยู่ห่างๆ หลุมที่มีน้ำเจิ่งนองในทันที เมื่อเห็นรถที่คุ้นตาแล่นสวนมา เพราะไม่อยากจะกลับไปเปลี่ยนผ้าใหม่อีก สังเกตจากความเร็วแล้วถ้ามัวยืนโอ้เอ้คงไม่รอดแน่

แต่ครั้งนี้ทุกคนเดาผิด เพราะเจ้าของรถชลอความเร็วลงเมื่อเห็นคนที่คิดว่ารู้จัก แต่ก็ไม่ได้คิดจะจอดทักทายแต่อย่างใด นอกจากจะขับไปตามทิศทางอันคุ้นเคยมาหลายปี ส่วนที่ไม่คุ้นก็คือต่อไปนี้จะต้องมีคนมาอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกันนี่ล่ะ ถ้าถามตอนนี้เขาตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่ได้คิดจะพิศวาสเด็กนั่นเลยแม้แต่นิดเดียว

มองปราดเดียวเขาก็บอกได้ว่าเจ้าหล่อนไม่ได้สวยสดงดงามอะไรจนต้องดึงความสนใจจากเขาได้ในเร็วเพียงแรกเห็น ตัวก็ผอมบาง เล็กกระจิดริด หากจะจับจะคลำไปตรงไหนก็คงจะเจอแต่กระดูก หน้าตาก็จืดชืดเหมือนเต้าหู้ทอด

การแต่งกายก็ธรรมดาๆ หรือไร้รสนิยมด้วยซ้ำ มธุรสวาจาหรือก็ยังไม่เห็น ต่างจากผู้หญิงของเขาแต่ละคนราวฟ้าดิน เพราะแต่ละคนล้วนแล้วก็สะสวยสะโอดสะองระดับนางเอกหนังหรือนางแบบทั้งนั้น ปากหรือก็ออดอ้อนน่ารักน่าชังน่าเลี้ยงดู

แต่เขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไรถึงยอมช่วยชีวิตน้อยๆ เอาไว้ ทั้งที่จะทำเป็นไม่สนใจและปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามทางที่ควรจะเป็นก็ได้ อาจจะเป็นเพราะชุดนักศึกษาอันใสบริสุทธิ์

กับท่าทางมุ่งมั่นของเด็กคนนั้นเวลาที่เขาเห็นเดินตั้งแต่ก้นซอยไปถึงปากทางบ่อยครั้งกระมัง หรือจะเป็นเพราะคำบอกเล่าของคนเก่าแก่อย่างอ่วมกับสายหยุดเขาเองก็ตอบไม่ได้จึงเกิดความสงสารขึ้นมา

‘แอ้เป็นเด็กนิสัยดี กิริยามารยาทเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย รู้กาลเทศะ เรียนก็เก่งค่ะคุณท่าน ลูกสาวป้ายังต้องพึ่งให้ติวช่วยตลอดเลยไม่งั้นก็คงต้องออกตั้งแต่เข้าเรียนปีแรกแล้วล่ะค่ะ ป้าเห็นครอบครัวนี้ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ใหม่ๆ โน่นแน่ะค่ะ เห็นว่าลาออกจากราชการเพราะเบื่อ เลยหอบลูกเมียมาเป็นชาวสวน ตอนนั้นแอ้ยังเล็กอยู่เลย ก็ได้แก้มเป็นเพื่อนวิ่งเล่นด้วยกันตั้งแต่นั้นมา

ความเป็นคนรักดี และอะไรที่ดีๆ ในตัวมันคงจะเหมือนผู้พ่อค่ะ แต่จะว่าไปแม่มันก็ไม่ได้เป็นคนแย่อะไรเลยนะคะ จะมาเริ่มเสียก็อีตอนที่พ่อไอ้แอ้เป็นมะเร็งตายนั่นล่ะค่ะ พอขาดเสาหลัก นังมนถึงจำใจต้องหาคนไว้พึ่งพาอาศัย มาช่วยทำสวนเลี้ยงดูลูก เลยได้ไอ้เจ้าด้วงมาทำผัวไงคะ แรกๆ มันก็เป็นคนดีหรอกค่ะ เอาการเอางานสารพัด จะมาดีแตกก็ตอนไม่กี่ปีนี่ล่ะค่ะ หัดกินเหล้าเข้าบ่อน พอเมาได้ที่ก็ซ้อมลูกซ้อมเมียจนร้องไห้เสียงดังคับสวนทีเดียวค่ะ’

‘ซ้อมลูกซ้อมเมีย’

หรือจะเป็นเพราะคำคำนี้ จึงทำให้เขายอมและรับไม่ได้ หรือจะพูดให้ถูกคือเขาเกลียดท่าทีของผู้ชายทุกคนที่รังแกคนไม่มีทางสู้อย่างเช่นลูกเมียตัวเอง แม้วงจรชีวิตระหว่างเขากับของเด็กคนนั้นจะต่างกันคนละขั้วอยู่ไกลกันคนละฟากฟ้า ห่างกันคนละโยด

แต่อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกัน นั่นคือถูกรังแกจากผู้เป็นพ่อ แต่มั่นใจว่าเธอคงจะเจ็บน้อยกว่าเขามาก เพราะนั่นคือพ่อเลี้ยง แล้วอะไรจะเจ็บปวดเท่ากับการถูกพ่อบังเกิดเกล้ากระทำทารุณล่ะ

เสียงปิดประตูรถดัง ‘ปัง’ เรียกให้สายหยุดที่กำลังเก็บกวาดบ้านอยู่ต้องเดินไปชะโงกหน้ามอง แม้จะดีใจที่เจ้านายกลับบ้านได้สักที แต่ก็เก็บไว้แต่ในใจเท่านั้น ด้วยใบหน้าและท่าทีของเจ้านายตอนนี้เดาได้ว่าคงอารมณ์ไม่ดีมาจากไหนแน่

สายหยุดจึงเลี่ยงไปปัดกวาดเช็ดถูกในครัวโดยไม่คิดจะโผล่หน้าไปใกล้รัศมีห้าเมตรกับคนหน้าดุ พูดน้อยต่อยหนักเอาเสียเลย ส่วนอสมาเองพอถึงบ้านก็เข้าห้องปิดประตูเงียบเช่นกัน

เที่ยงตรงถึงได้ออกมาพร้อมเสื้อผ้าชุดสบายๆ อาหารบนโต๊ะเกือบจะเย็นแล้ว แต่ความหิวทำให้เขาขี้เกียจเอาไปเข้าไมโครเวฟ จึงตักเข้าปากโดยเร็ว ตามด้วยผลไม้หลายชิ้น

จากนั้นก็พาตัวเองไปนั่งตรวจตราดูงานเกือบสามชั่วโมงจึงสังเกตเห็นว่ามีคนยืนด้อมๆ มองๆ อยู่ใต้ต้นมังคุดแถวเชิงสะพาน เข้าใจว่าเด็กสาวคงไม่กล้าขึ้นบ้านขณะที่มีเขาอยู่เป็นแน่ เพียงเท่านั้นความเป็นส่วนตัวที่เคยมีมากว่าสิบปีก็หดหายไปในทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel