บทที่ 5 งานมงคล
บทที่ 5
งานมงคล
นับจากพบหน้ากันครั้งนั้น หยางซูมี่ก็ไม่ได้พบเซี่ยเหวินหรงอีกเลย นางเพียงใช้ชีวิตไปอย่างปกติที่เพิ่มขึ้นมาคงจะมีเพียงการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเท่านั้น
ฮ่องเต้ทรงส่งหมัวมามาให้มาอบรมมารยาท และแจ้งลำดับขั้นตอนพิธีการแก่นาง ส่วนเรื่องพิธีการต่างๆ นั้น จะมีขันทีจากในวังมากำกับดูแลอีกที เรื่องสินสอด สินเจ้าสาวนั้นท่านพ่อให้พ่อบ้านหยางเป็นผู้จัดการแทนฮูหยินรองทั้งหมด โดยทุกเรื่องจะต้องแจ้งให้หยางหมิงทราบก่อน นี่คงเป็นโชคดีของร่างนี้ที่มีท่านพ่อและพี่ชายที่รักใคร่อย่างใจจริง
จวนชินอ๋อง
ไป๋เย่องครักษ์คนสนิทของเซี่ยเหวินหรงเดินถือม้วนกระดาษเข้ามาในห้องหนังสือ โดยไม่รอให้เจ้าของห้องรอนาน เขารีบยื่นม้วนกระดาษให้ทันที แล้วเดินถอยหลังเพื่อรอคอยคำสั่งต่อไป เซี่ยเหวินหรงนั่งอ่านอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะเงยหน้าออกมาจากม้วนกระดาษ ในใจให้ขบคิดสงสัยถึงสิ่งที่เขียนอยู่ในนี้
"ไป๋เย่ บุรุษที่ถอนหมั้นหวางเฟยของข้า มันมาจากตระกูลใด" เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามปลายเสียงติดเย็นชาเล็กน้อย
"คุณชายใหญ่เสิ่นอวี้เหยาขอรับ"
"ตระกูลของฮูหยินรองหรือ" คิ้วคมเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ
"ขอรับ คุณชายใหญ่เสิ่นอวี้เหยาเป็นบุตรชายของเสนาบดีกรมโยธาเสิ่นอวี๋ ฮูหยินเอกตระกูลเสิ่นเป็นสหายสนิทของจ้าวฮูหยิน สองครอบครัวจึงได้หมั้นหมายกันไว้แต่เล็ก แต่ครั้นเสิ่นอวี้เหยาไปทำธุระที่ต่างแดน ได้ช่วยเหลือคุณหนูเจียงลี่เอาไว้ ทำให้ทั้งคู่เกิดผูกสมัครรักใคร่กัน
คุณชายใหญ่เสิ่นจึงขอยกเลิกงานหมั้นหมาย คุณหนูหยางซูมี่ทราบเข้าจึงเสียใจมาก นางถึงกับคิดสั้นกระโดดน้ำหวังปลิดชีพตนเอง โชคดีที่คุณชายใหญ่หยางเฟยเทียนกลับมาช่วยไว้ได้ทัน นางจึงรอดมาได้ เรื่องนี้ทำให้ท่านเสนาบดีหยางโกรธมาก ถึงขั้นตัดขาดจากตระกูลเสิ่น ส่วนฮูหยินรองเสิ่นอี๋นั่วเป็นบุตรสาวของนายท่านรองจากตระกูลเสิ่นสายรองขอรับ"
"ตระกูลเสิ่นช่างอบรมลูกหลานมาได้ดีจริงๆ"
ไป๋เย่ถึงกับขนลุกซู่ ทำไมท่านอ๋องถึงได้ยิ้มน่ากลัวเช่นนี้ ยิ้มเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะมีคนตายอย่างนั้นหรือ เขาได้แต่ไว้อาลัยให้กับตระกูลเสิ่นที่ดันไปหาเรื่องว่าที่หวางเฟยเข้า
"สั่งการลงไปองครักษ์ไป๋หู่ 10 นายจงไปคุ้มครองว่าที่หวางเฟยอย่าให้นางรู้ตัว"
"ขอรับ"
ไป๋เย่รีบออกไปทำตามคำสั่งของท่านอ๋อง น้ำหนักในใจของว่าที่หวางเฟยคงจะมีมากจริงๆ ถึงขนาดมีคำสั่งส่งองครักษ์ไป๋หู่ให้ไปคอยอารักขา ไม่ได้ส่งไปแค่หนึ่งแต่ส่งไปถึงสิบ เขาต้องรีบไปแจ้งข่าวให้คนในหน่วยทราบถึงความสำคัญของว่าที่หวางเฟยเสียแล้ว
จวนตระกูลหยาง
หยางซูมี่ถูกเหล่าสาวใช้เข้ามารุมล้อมตั้งแต่เช้า วันนี้คือวันแต่งงานของนางกับชินอ๋อง นางจึงต้องตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นมานั่งในอ่างอาบน้ำ ให้เหล่าสาวใช้เข้ามาอาบน้ำ ขัดตัว ขัดผิวจนผิวของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำไปทั้งตัวแล้ว หลังจากอาบน้ำเสร็จก็มาวุ่นวายกับการแต่งกายต่อ ซินซินกับเจินเจินช่วยสวมชุดคลุมตัวในสีแดงสด ตามด้วยชุดคลุมสีแดงยาวที่เดินดิ้นทองเป็นลายหงส์สยายปีก ดูงดงามสูงค่าตระการตา ชุดแต่งงานนี้ทางจวนอ๋องส่งมาให้ ทราบว่าใช้ช่างปักเย็บถึง 10 คนด้วยกัน
มงกุฎหงส์สีทองอร่ามที่ทำมาจากทองคำบริสุทธิ์ ประดับด้วยอัญมณีสีแดงเลือดนกน้ำงามถูกส่งมาให้ว่าที่หวางเฟยสวมใส่ในวันแต่งงาน มงกุฎหงส์อันนี้เป็นของรักของหวงของพระสนมเอกเว่ยกุ้ยเฟยพระมารดาชินอ๋อง ซึ่งนี่แสดงให้เห็นว่าชินอ๋องนั้นทรงโปรดปรานว่าที่หวางเฟยผู้นี้มากเพียงใด ถึงขนาดนำของรักของพระมารดามามอบให้ในวันแต่งงาน
วันนี้หยางซูมี่ให้ซินซินเป็นคนแต่งหน้าให้ นางไม่อยากให้ใครมาแต่งหน้าให้เหมือนผีหรอกนะ เดิมทีเจ้าสาวต้องผลัดหน้าขาวผ่อง เขียนคิ้วเส้นเล็กโค้งคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ปัดแก้มสีแดงก่ำ ตบท้ายด้วยทาปากสีแดง นางเคยไปร่วมงานแต่งของสหาย จึงตั้งมั่นว่าจะไม่แต่งหน้าเช่นนั้นเด็ดขาด
ซินซินได้เรียนรู้การแต่งหน้าแบบธรรมชาติมาจากนายหญิง นางจึงสามารถเนรมิตให้นายสาวงดงามแบบธรรมชาติ ผลัดแป้งให้หน้าขาวนวลเนียนเผยผิวที่ไร้ราคี เขียนคิ้วตามรูปทรงของคิ้วเป็นเส้นเรียงกันสวย ทาเปลือกตาด้วยผงวิเศษของนายสาว เขียนปลายหางตาให้เชิดขึ้นเล็กน้อย ปัดแก้มสีชมพูอย่างดอกเหลียนฮวา ทาปากสีแดงดั่งผลอิงเถา เมื่อหยางซูมี่ลืมตาขึ้นมองตนเองในคันฉ่อง นางยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วตกรางวัลให้ซินซิน สาวใช้ของนางผู้นี้มีฝีมือแต่งหน้าที่ไม่ธรรมดาเลย
"งามมากเจ้าค่ะคุณหนู บ่าวไม่เคยเห็นเจ้าสาวที่แต่งหน้าได้งดงามเช่นนี้มาก่อนเลยเจ้าค่ะ"
เจินเจินพูดออกอย่างที่คิด คุณหนูของนางปกติก็งามมากอยู่แล้ว ยิ่งได้ซินซินแต่งหน้าให้เช่นนี้ ยิ่งงดงามมากขึ้นไปอีก
เสียงเอะอะดังขึ้นที่หน้าห้องมาพร้อมกับการปรากฏกายของฮูหยินรองหม่าอี่นั่วกับหยางเจียลี่ นางนั้นเป็นถึงนายหญิงของจวนนี้ แต่กลับไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายงานแต่งของลูกเลี้ยงคนนี้ได้เลย ทั้งสินสอด และสินเจ้าสาวสามีของนางก็ให้พ่อบ้านหยางเป็นผู้จัดการทั้งหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจนัก เมื่อเดินเข้ามาเพื่อที่จะมาดูหน้าเจ้าสาว บ่าวรับใช้หน้าห้องก็ขวางทางนางไว้ กว่านางจะเข้ามาได้ก็กินเวลาไปนาน พอมาเห็นใบหน้างามของหยางซูมี่ที่ถอดแบบมาจากจ้าวอ้ายฉิงที่เสียไปแล้ว นางยิ่งริษยาจนแทบกระอักเลือดออกมา
"มี่เอ๋อร์ของเรางดงามจริงๆ แต่การแต่งหน้าเช่นนี้จะไม่ผิดธรรมเนียมไปหรือ"
เสิ่นอี๋นั่วจีบปากจีบคอพูด เดินมาหยุดตรงหน้าเจ้าสาวจากนั้นยื่นของขวัญส่งให้ หยางซูมี่ยื่นมือออกไปรับแล้วส่งต่อให้เจินเจินทันที ไม่ได้เปิดออกดูแม้เพียงนิด
"แม่รองสบายใจได้ ข้าถามหมัวมามาแล้วเจ้าค่ะ"
หยางซูมี่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ หยางเจียลี่ยื่นกล่องของขวัญของตนให้เจ้าสาวบ้าง
"ของขวัญชิ้นนี้ ข้าตั้งใจเลือกมาให้พี่หญิงใหญ่เลยนะเจ้าคะ"
"ขอบใจเจ้ามาก"
"นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว แม่รองจะหวีผมให้เจ้าเอง" เสิ่นอี๋นั่วเดินไปหยิบหวี แต่ก่อนที่นางจะหวีผมให้เจ้าสาวก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาก่อน
"ไม่รบกวนฮูหยินรอง หน้าที่หวีผมเจ้าสาวท่านยายของข้าจะเป็นผู้หวีเอง"
จ้าวเหมยอิงญาติผู้พี่ของหยางซูมี่เอ่ยขัดขึ้นมา นางเดินพร้อมกับฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว เสิ่นอี๋นั่วได้แต่กัดฟันเดินหลีกทางให้ นางไม่อาจทำให้ตระกูลจ้าวขุ่นเคืองใจได้
หยางซูมี่หันมาคารวะฮูหยินผู้เฒ่าจ้าว และฮูหยินจ้าวท่านป้าสะใภ้ของนาง ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวหยิบหวีในถาดมาหวีผมให้หยางซูมี่ พร้อมกล่าวคำอวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุข ฮูหยินผู้เฒ่าจ้าวปลาบปลื้มใจแทนบุตรสาวของนางที่เสียไปก่อน ถ้าบุตรสาวของนางยังอยู่คงจะดีใจมากที่หยางซูมี่ได้ออกเรือนไปกับบุรุษที่ดีพร้อมเช่นนี้ คิดแล้วน้ำตาพานจะไหลออกมา
"ท่านแม่ วันนี้เป็นวันดีของมี่เอ๋อร์ ท่านจะร้องไห้ไม่ได้นะเจ้าคะ"
จ้าวฮูหยินกล่าวเตือนแม่สามี ก่อนจะหันไปหาหยางซูมี่ "ป้าดีใจกับเจ้าด้วยมี่เอ๋อร์ นับจากนี้คงต้องเรียกพระชายาแล้วล่ะสิ"
จ้าวฮูหยินเอ่ยสัพยอกว่าที่พระชายา แล้วหันไปหาบุตรสาวของตน "อิงเอ๋อร์เข้ามามอบของขวัญให้น้องเร็ว"
"ดีใจกับเจ้าด้วย มี่เอ๋อร์"
จ้าวเหมยอิงยื่นกล่องของขวัญให้หยางซูมี่ พลางขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ "เจ้าต้องเปิดตอนอยู่คนเดียวนะ สิ่งนี้ข้าเสียเงินไปถึง 100 ตำลึงทองเชียว"
จ้าวเหมยอิงแอบกระซิบบอกตอนทุกคนเผลอ หยางซูมี่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
เมื่อผู้ใหญ่ออกไปข้างนอกแล้ว สหายสนิทอย่างหม่าฮุ่ยหลิงกับเถาซูเม่ยเดินเข้ามามอบของขวัญให้เจ้าสาว พูดคุยกันได้เล็กน้อย แม่สื่อก็เดินเข้ามาสวมมงกุฎหงส์ แล้วจึงนำผ้าสีแดงมาคลุมหน้าเจ้าสาว เพื่อพาเจ้าสาวออกไปขึ้นเกี้ยว
หน้าจวนตระกูลหยางเต็มไปด้วยผู้คนที่มาร่วมงานแสดงความยินดีอย่างล้นหลาม และคนที่มามุงดูขบวนเจ้าสาว ขบวนเจ้าบ่าวนั้นชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงเดิมทีสวมแต่ชุดสีดำปักลายพยัคฆ์ แต่วันนี้สวมชุดสีแดง ดูหล่อเหลาสง่างามเป็นอย่างมาก บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความชื่นมื่น
เซี่ยเหวินหรงขี่ม้าอาชาโลหิตสีดำนิล เกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหามล้วนเป็นองครักษ์ไป๋หู่ที่ท่านอ๋องคัดเลือกด้วยตนเอง ตลอดทางล้วนโปรยขนมมงคล กลีบดอกไม้ และยังมีตำลึงเงินด้วย ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงล้วนยินดีกันถ้วนหน้า
เจ้าสาวเดินออกมาโดยการประคองของแม่สื่อ ก่อนจะส่งมือเจ้าสาวมอบให้ท่านเสนาบดีหยางหมิงกับคุณชายใหญ่หยางเฟยเทียนประคองไปขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว
"พ่อดีใจกับเจ้าด้วย แม้ว่าเจ้าจะแต่งออกไปแล้ว แต่อย่าได้ลืมว่าเจ้ายังเป็นคนตระกูลหยาง" ปรายหางตาหยางหมิงมีน้ำตาซึมออกมา
"หากชินอ๋องรังแกเจ้า เจ้าจงมาบอกพี่"
หยางเฟยเทียนพูดอย่างหนักแน่นมั่นคง หากชินอ๋องรังแกหยางซูมี่เขาก็พร้อมจะเข้าไปช่วยน้องสาวอย่างไม่ห่วงชีวิตของตนเอง
"ขอบคุณท่านพ่อและพี่ใหญ่เจ้าค่ะ มี่เอ๋อร์จะจดจำไว้"
หยางซูมี่เอ่ยด้วยรอยยิ้มทั้งใบหน้า ตื้นตันใจในความรัก ความหวังดีของทั้งสองคนที่มีให้ต่อนางด้วยใจจริง