สามีไร้รัก

60.0K · จบแล้ว
อัญญาณี
45
บท
33.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอชื่อพรนับพัน ที่แปลว่า มากด้วยพรแต่เธอปรารถนาเพียงแค่พรเดียวคือขอให้ได้ความรักจากใครสักคน...แค่คนเดียวก็พอ......................การแต่งงานที่ไร้ซึ่งความรักจากคนที่ขึ้นชื่อว่าสามีนำความปวดร้าวทั้งกายและใจให้เธอไม่น้อยพรนับพันหวังว่า พรที่เธอขอจะสัมฤทธิ์ผลในสักวันหนึ่งวันที่สามีไร้รัก จะรักเธอสุดหัวใจ.......................“ว้าย! พี่พี” ความตกใจที่ชุดนอนขาด และความเจ็บจาการถูกมือใหญ่ตะปบทรวงอกสาวแล้วขยำอย่างแรง ความเจ็บทำให้เธอนิ่วหน้า“ใช่ ฉันเอง ผู้ชายที่เธออยากได้เป็นผัวจนตัวสั่น อยากได้เพราะให้ตัวเองสบาย”พีรภัทรเค้นเสียงพูด มองเธอด้วยความเกลียดชังอย่างล้นเหลือ“ไม่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น” พรนับพันปฏิเสธเสียงสั่น ความกลัวเข้าแทรกในจิตใจ การกลับมานอนบ้านของเขาครั้งนี้ คงไม่ได้กลับมาเฉยๆ แน่ แล้วยิ่งท่าทางที่บอกถึงความโกรธสุมใจ ยิ่งทำให้พรนับพันหวาดหวั่น เนื้อตัวสั่นราวกับนกเปียกน้ำฝน “มันไม่ใช่อย่างที่พี่พีคิดนะคะ”“เธอนี่แสดงละครเก่งจริงๆ ทำหน้าตาใสซื่อ ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นนางฟ้า แต่แท้จริงแล้วเธอน่ะยิ่งกว่าขี้โคลนซะอีก เน่าเหม็นไปทั้งตัวจนฉันไม่อยากแตะต้อง” เขานำตัวมาคร่อมร่างสาว คำรามเสียงใส่อย่างน่ากลัว “ฉันก็เลยต้องดื่มเหล้าย้อมใจ ไม่งั้นคงกระเดือกเธอไม่ลง”“พี่พีจะทำอะไรหมิว อย่าทำหมิวแบบนี้เลย หมิวกลัว”ลูกนกร้องไห้ เธอรู้ดีว่า เรื่องอย่างว่าระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องปกติ ทว่าสิ่งที่พรนับพันกำลังเผชิญตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติ เขากำลังกระทำต่อเธอด้วยความโกรธแค้น ที่หญิงสาวไม่รู้ว่า เหตุใดอารมณ์เขาจึงเป็นเช่นนี้ เธอทำอะไรให้เขาโกรธหนักหนา“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย ทั้งที่ถูกขย่มมานับครั้งไม่ถ้วน” ค่ำนี้พีรภัทรได้เจอกับพลอยพรรณขณะกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนอีกสองคนในผับมารูแอล เขาได้รู้ความจริงอีกหนึ่งเรื่องของพรนับพัน เป็นเรื่องที่ทำให้อารมณ์ของเขาเกิดหงุดหงิดขึ้นมาทันใด

นิยายปัจจุบันนิยายรักโรแมนติกประธานแต่งงานสายฟ้าแลบเศรษฐีดราม่าโรแมนติก

บทที่ 1

“เอามานะพี่หมิว เอาตุ๊กตาของน้องพลอยมานะ”

เสียงเด็กหญิงพลอยพรรณวัยหกปี ร้องบอกพี่สาวต่างสายเลือดวัยแปดปีทั้งน้ำตา มองตุ๊กตาบาร์บี้ในมือของพรนับพันด้วยความริษยา เป็นเพราะพลอยพรรณอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ ทว่าคนเป็นปู่กลับให้พรนับพันแทน

“ตุ๊กตาตัวนี้ของพี่นะพลอย คุณปู่ให้พี่ ของพลอยตัวโน้นไง” พรนับพันบอกน้องสาว ชี้ไปยังตุ๊กตาอีกตัวที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้

“ไม่ น้องพลอยจะเอาตัวนี้ ตัวนั้นน้องพลอยไม่ชอบ” พลอยพรรณเด็กหญิงที่มีนิสัยเอาแต่ใจสุดฤทธิ์ไม่ยอม อยากได้ของที่ไม่ใช่ของตน “เอามานะ เอามาสิ”

พลอยพรรณเข้าไปยื้อแย้ง พรนับพันไม่ยอมดึงตุ๊กตากลับมา

“มันเป็นของพี่นะพลอย พลอยไปเล่นของพลอยสิ” พรนับพันที่ตัวโตกว่าบอกน้องสาวที่ไม่ยอมเช่นกัน การฉุดกระชากตุ๊กตาจึงเกิดขึ้น จังหวะหนึ่งพรนับพันดึงตุ๊กตาเข้าหาตัวสุดแรง พลอยพรรณจึงเสียหลักล้มลง หัวเข่าไปกระแทกกับก้อนหินบนพื้น เด็กหญิงร้องไห้จ้าด้วยความเจ็บปวด

เสียงร้องไห้ดังเข้ามาในบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน พีรภัทรในวันสิบหกปีกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงชิงช้าริมสนามหญ้าได้ยินเสียงนั้นพอดี เขาจำได้แม่นว่าเป็นเสียงร้องไห้ของพลอยพรรณ พีรภัทรจึงเดินไปดูตรงอิฐบล็อกช่องลมที่กั้นเป็นรั้ว เมื่อเห็นว่าพลอยพรรณทรุดตัวมองเข่าตัวเองที่เลือดไหล เขาจึงเดินไปเปิดประตูรั้วที่เชื่อมระหว่างสองบ้าน ก้าวเดินเข้าไปบ้านอีกหลังอย่างคุ้นเคย

“เป็นอะไรน้องพลอย” พีรภัทรถามพลอยพรรณ

“พี่หมิวผลักน้องพลอยค่ะ ฮือ...น้องพลอยเจ็บ” เด็กหญิงร้องไห้จ้า “พี่หมิวแย่งตุ๊กตาน้องพลอยค่ะ น้องพลอยกำลังจะแย่งคืนมา พี่หมิวก็ผลักพลอย...ฮือ”

“ไม่จริงค่ะ ตุ๊กตาตัวนี้ของหมิว ของพลอยตัวโน้น” พรนับพันไม่ได้แก้ตัว เธอพูดความจริง

“ไม่ใช่ค่ะ พี่หมิวโกหก ตุ๊กตาตัวนี้ต่างหากที่เป็นของพลอย” พลอยพรรณยืนกรานคำเดิม

“ทำไมเป็นเด็กนิสัยไม่ดีอย่างนี้นะ มาอาศัยเขาอยู่แท้ๆ ยังจะแย่งของของเจ้าของบ้านอีก นิสัยแย่มาก ทำอย่างนี้เรียกว่าอกตัญญูรู้ไหม...เอามานี่” พีรภัทรเชื่อคำพูดพลอยพรรณ เขากระชากตุ๊กตาในมือพรนับพันที่ไม่ทันตั้งตัว ก่อนส่งตุ๊กตาเจ้าปัญหาให้พลอยพรรณ “นี่ครับน้องพลอย น้องพลอยได้ตุ๊กตาคืนแล้วนะครับ อย่าร้องไห้นะ เดี๋ยวพี่พีพาเข้าบ้านนะ”

พลอยพรรณยิ้มร่ากอดตุ๊กตาไว้แน่น จังหวะที่พีรภัทรประคองเด็กหญิงเข้าไปในบ้าน พลอยพรรณหันมาแลบลิ้นใส่พรนับพันที่ยืนร้องไห้ เจ็บปวดกับคำพูดของพีรภัทร พรนับพันไม่เคยคิดเทียบตัวเองกับพลอยพรรณ เธออยู่อย่างเจียมตัวมาตลอด และยอมพลอยพรรณทุกอย่าง มีครั้งนี้ที่หวงของ หวงตุ๊กตาตัวใหม่ที่ศักดิ์ชัยซื้อให้

พรนับพันไม่ได้โดนแค่พีรภัทต่อว่า เมื่อคนในบ้านอย่างสมสมร คฑาเทพและเนตรนภารู้เรื่อง พรนับพันถูกสมสมรตีและดุด่า แล้วยังกำชับว่า ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับศักดิ์ชัย หาบอกเธอจะโดนตีเพิ่มสามเท่า เป็นเช่นเคยที่พรนับพันเก็บเรื่องที่ตนถูกทำร้ายไว้เป็นความลับ ไม่เคยปริปากบอกศักดิ์ชัยเลยสักครั้ง

เก็บความเสียใจและเจ็บปวดไว้เพียงลำพัง...

....................

งานวิวาห์แสนเรียบง่ายที่มีแต่คนในครอบครัวมาร่วมงาน ไม่ได้มีความสุขอย่างที่เจ้าสาวเคยวาดฝันไว้ว่า ก่อนถึงวันอันแสนสุข เจ้าบ่าวจะพาเธอไปลองชุดแต่งงาน ไปดูของชำร่วยด้วยกัน ถ่ายพรีเวดดิ้งเก็บไว้เป็นที่ระลึก คนในครอบครัวทั้งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างพูดคุยช่วยกันจัดงาน เรื่องสินสอดทองหมั้น และทุกคนที่มาร่วมงานอวยพรให้เธอกับสามีตามแบบที่ควรจะเป็น

ไม่ใช่เลย...ไม่ใกล้ความฝันสักนิดเดียว

มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ชุดเจ้าสาวก็เช่ามาในราคาพันเจ็ดร้อยบาท แต่งหน้าทำผมด้วยฝีมือช่างแต่งหน้าราคาสบายกระเป๋า สินสอดก็น้อยนิดหากเทียบกับฐานะของเจ้าบ่าว มีเพียงเงินสองหมื่นบาท ทองคำแท่งหนักหนึ่งบาท แหวนก็เป็นแหวนทองหนักเพียงสองสลึงเท่านั้น