ตอนที่3 แต่งงาน
ตอนที่3 แต่งงาน
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยแต่ทว่าในยามนี้กลับแสดงสีหน้าอมทุกข์ออกมา น้ำข้าวกลับมาที่บ้านการแสดงสีหน้าไม่มีความสุขของหญิงสาวทำเอาชายชราที่จ้องมองมาถึงกลับไม่พอใจ
"ทำหน้าให้ดีๆ หน่อย เป็นอะไรนักหนา" ภานุพงศ์ถามลูกสาวคนเล็กอย่างไม่ใยดี
"คุณพ่อคะ หนูไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น เขาดูถูกเราคุณพ่อก็เห็น"ชายชราถอนหายใจออกมา ใช่เขาก็ไม่ชอบขี้หน้าของหนุ่มรุ่นลูกสักเท่าไหร่แต่ทำไงได้ เขาติดหนี้ครอบครัวนี้และการแต่งงานเป็นทางออกทางเดียวที่ชายชราทำได้
"เอาเถอะน่า ทนๆ หน่อยเดี๋ยวก็ดีเอง แกก็อย่าไปทำให้เขาโมโหล่ะ ดูคุณจิตรก็ดีกับแกนะหายากแม่ผัวแบบนี้"หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักเงียบไป
"แต่หนูไม่ได้รักเขา"
"ความรักหรอ ความรักมันกินได้ไหมละ อย่าพูดมากหน่อยเลยยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับไอ้นั่น เงินยี่ล้านไม่ใช่น้อยๆ นะ ผู้ชายหน้าไหนที่จะยอมเสียให้แก"ภานุพงศ์เดินขึ้นห้องไปอย่างหัวเสีย น้ำตาหยดใสๆ เริ่มไหลรินอาบแก้มของหญิงสาวอย่างน้ำข้าว เธอไม่คิดว่าสุดท้ายชีวิตของเธอต้องมีจุดจบแบบนี้ การแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักก็เหมือนกับตกนรกบนดิน หญิงสาวถอนหายใจรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเองจะต้องเจอในอนาคต ชีวิตเธอจะมีความสุขไหมไม่มีทางรับรู้ได้เลย
ทั้งคืนร่างบางอรชรนอนดิ้นไปมาทำยังไงเธอก็นอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดเรื่องที่ชายหนุ่มใจร้ายคนนั้นบอกกับเธอ คำพูดที่เหมือนขู่มันคอยหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่หลับตา
สองอาทิตย์ผ่านมา
หลังจากที่เขาและเธอเจอกันในครั้งนั้น ชายหนุ่มร่างกำยำเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ฝั่งนั้นจะยกเลิกงานแต่ง แต่ก็ไม่มีข่าวอะไรเกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มไม่น้อย
"ได้แล้วจะได้เห็นดีกันแน่ ผู้หญิงหน้าเงินอย่างเธอต้องเจ็บและจำไปจนตาย" นฤชิตเอ่ยออกมาอย่างเกลียดชังผู้หญิงที่พยายามเข้าหาเขาที่ผ่านมาผู้หญิงพวกนั้นต้องการแค่เงินของเขาไม่เคยมีใครสักคนที่จะจริงใจ
ณ ร้านพรีเวดดิ้ง
หญิงสาวในชุดเรียบเดินเข้ามาในร้านตามคำสั่งของภานุพงศ์ผู้เป็นบิดา สีหน้าอมทุกข์ของเธอเผยออกมาอย่างขัดเจน พอเปิดประตูเข้ามาเห็นนาถพิจิตรนั่งอยู่หญิงสาวก็รีบยิ้มจางๆ ออกมาให้ทันที
"มาแล้วหรอจ๊ะ หนูน้ำข้าว"หญิงชราถามหญิงสาวที่เดินเข้ามา
"สวัสดีค่ะ ขอโทษที่ให้คุณน้ารอนานนะคะ" น้ำข้าวยกมือไหว้อย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน
"ไม่หรอกจ่ะ นี่แม่ก็เพิ่งมาเอง" แม่เหรอน้ำข้าวได้ยินก็ยิ้มๆ ออกมาเพราะตั้งแต่เธอเกิดมาเธอไม่เคยเจอหน้าแม่เลยสักครั้งนอกจากรูปภาพเก่าๆที่ให้เธอไว้ดูต่างหน้าเท่านั้น
"เชิญคุณน้ำข้าว ลองชุดก่อนนะคะ" พนักงานเดินมาพร้อมยื่นชุดแต่งงานสีขาวสวยหรูให้เธอ หญิงสาวเข้าไปลองอย่างไม่ลังเลเพราะเธออยากจะทำให้มันเสร็จไวๆ จะได้รีบเสร็จรีบกลับบ้าน
ก่อนหน้านี้เธอเห็นเพียงนาถพิจิตร ไร้เหงาของชายหนุ่ม สร้างความดีใจให้กับหญิงสาวมากไม่น้อยที่เธอจะไม่ได้เจอหน้าผู้ชายปากเสียอย่างเขา
หญิงสาวลองชุดแต่งงานเสร็จเรียบร้อยก่อนจะบอกให้ช่างแก้อะไรอีกนิดหน่อยเพราะขุดที่เธอสวมใส่มันหลวมเกินไป หญิงชราแม่ของชายหนุ่มก็เลือกของชำร่วยรอก่อนหญิงสาวจะเดินออกมานั่งใกล้ๆ โดยตลอดการที่พูดคุยเรื่องสัพเพเหระไม่มีแม้เงาของชายหนุ่ม เธอเองก็ไม่ได้ถามถึงเขาแม้แต่น้อยไม่สนใจด้วยว่าเขาจะมาหรือไม่มาเพราะสำหรับเธอการแต่งงานมันก็แค่ละครฉากใหญ่แค่นั้นเอง
ผ่านมาราวชั่วโมงเศษ
"วันนี้ไปทานข้าวบ้านแม่ก่อนนะจ๊ะแม่สั่งแม่บ้านทำไว้รอแล้ว" น้ำข้าวทำตัวไม่ถูกใจไม่อยากไปแต่ก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจของผู้ใหญ่ เธอพยักหน้าพร้อมยิ้มกลับไปให้นาถพิจิตรอย่างอ่อนหวาน
ขณะที่นั่งรถมาที่บ้านของนาถพิจิตร ทั้งสองก็คุยกันตลอดทางโดยที่หญิงชราเล่าเรื่องชายหนุ่มให้ฟังมากพอสมควร
"ป่านนี้ไม่รู้ตาชินเลิกงานยังวันนี้แม่ให้มาลองชุดก็บอกว่าติดงาน แย่จริงลูกชายแม่คนนี้หนูน้ำข้าวอย่าว่าพี่เขานะจ๊ะ"
"ค่ะ หนูก็ไม่ได้เร่งรีบอะไรถ้าคุณชินติดธุระหนูก็ไม่ต่อว่าเขาหรอก"หญิงสาวบอกอีกฝ่าย
"ไม่ได้นะ ต่อไปหนูต้องเรียกว่าพี่ชิน เข้าใจไหมจ๊ะ"นาถพิจิตรบอกด้วยรอยยิ้มไม่ว่าจะมองทางไหนเด็กสาวคนนี้ก็สวยสมใจเขาเสียจริง
"อ้อ.. ค่ะ พี่ชิน"เธอพูดออกมาอย่างฝืนใจเล็กน้อย
'ใช่สิ ใครจะเต็มใจไอ้บ้าปากร้ายนิสัยก็แย่ โอ้ยวันนี้ขออย่าให้เจอหน้าเลยนะพ่อแก้วแม่แก้ว'หญิงสาวนึกในใจไม่ได้พูดอะไรต่อ
ไม่นานมากนักรถเก๋งวิ่งมาจอดในโรงรถ เธอมาถึงที่นี่ไวจนไม่ได้เตรียมใจเลยสักนิด เธอไม่รู้ว่าถ้าเจอหน้าผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะต้องโดนอะไรอีกแค่คิดหญิงสาวก็กลัวขึ้นมา
น้ำข้าวก้าวเท้าตามนาถพิจิตรมาติดๆ เสียงหายใจที่ดูตื่นเต้นไม่น้อย เธอมองไปรอบๆไม่เห็นอีกฝ่ายทำเอาเธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ทำไมกลับมาช้าจังคับคุณแม่" เสียงดุๆเข้ม ของชายหนุ่มถามขึ้นมา ทำให้น้ำข้าวหันหลังไปตามเสียง สีหน้าที่ไปไม่ถูกของหญิงสาวเผยออกมาอย่างชัดเจนเพราะอีกฝ่ายกำลังจ้องเธออย่างไม่เป็นมิตร
"ช้าตรงไหน แม่รีบสุดๆแล้วนะ ว่าแต่กลับมานานยัง"
"สักพักแล้วครับ ไงไม่คิดว่าจะเจอกันอีกนะเราสองคน"นฤชิตหันหน้าไปพูดกับน้ำข้าวเสียงเข้ม เธอไม่ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้าลง
"ตาชิน ทำไมถามน้องแบบนั้นล่ะ ดูซิน้องเขินหมด"
"ห้ะ!"น้ำข้าวเผลอออกเสียงออกมาด้วยความตกใจ 'หนูไม่ได้เขินนะคุณป้า'น้ำข้าวได้แต่คิดไม่พูดอะไรต่อ เธอก้มหน้ากลับไปเหมือนเดิม
"กับข้าวเสร็จรึยังจ๊ะ"นาถพิจิตรหันไปถามแม่บ้าน
"อีก10นาทีคะ คุณนาย"
"โอเคจ่ะ งั้นตาชินพาน้องไปเดินเล่นหน่อย รู้ไหมน้องชอบดอกไม้มากเลยนะที่ไร่เราก็มีดอกไม้สวยๆเยอะพาน้องไปหน่อยนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า/ได้ครับ" เสียงชินและน้ำข้าวพูดพร้อมกันสีหน้าน้ำข้าวจ๋อยไปทันที
"เดินตามมาซิ น้องน้ำข้าว" เขาลากเสียงยาวก่อนจะเดินออกไป
น้ำข้าวเดินตามมาอย่างที่นาถพิจิตรบอก ทั้งสีหน้าที่ไม่ได้ดูมีความสุขบวกกับเสียงถอนหายใจของน้ำข้าวทำเอาชายหนุ่มมีความสุขมากขึ้นไปอีก
"ว๊ายยยยยย"ชายหนุ่มจู่ๆ หยุดเดินแล้วหันหลังไปกอดเธอแน่นจนเนื้อชิดเนื้อ การกระทำของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวตกใจไม่น้อย
"จะร้องดังทำไม เก็บเสียงไว้ครางดีกว่านะน้อง"ชายหนุ่มพูดจายั่วกวนอีกฝ่ายอย่างนึกสนุก
"ใครเป็นน้องนายไม่ทราบ อย่ามาทำกิริยาแบบนี้กับฉันนะ"ใบหน้าสวยแดงก่ำเพราะโกรธที่ชายหนุ่มทำแบบนี้กับตน
"อืม ลืมไปเธอไม่ได้มาเป็นน้องฉันสักหน่อย" ชินพูดพร้อมมองต่ำสำรวจร่างกายเธอ
"ไอ้! ไอ้บ้าอย่าทำสายตาแบบนั้นกับฉันนะ ฉันเกลียดนายจำไว้ด้วย"
"เกลียดแล้วอยากเป็นเมียฉันทำไม เอ่อเพราะเงินซินะ"ร่างแกร่งที่รัดเธอแน่นขึ้นไปอีกน้ำข้าวพยายามเกะมือนานสองนานก็ไม่หลุดจากเขาได้สักที
"ฉันทำเพราะพ่อ แต่ถึงจะเพราะเงิน นายก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกฉันแบบนี้นะคะ"
"อ้อเหรอ ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าให้ยกเลิกงานแต่งนี้ซะ เเต่ดูท่าว่าเธอจะติดใจถึงไม่ทำตามที่ฉันบอก" ชินบีบคางเธอแรงจนน้ำข้าวรู้สึกถึงความเจ็บ
"อย่าทำแบบนี้นะคะ ฉันไม่อยากมีปัญหา ฉันก็มีเหตุผลของฉัน งานแต่งงานครั้งนี้มันมีความหมายกับครอบครัวของฉันมาก ถ้าคุณไม่อยากจะให้ฉันเป็นภรรยาเราก็ไม่ต้องจดทะเบียนสมรสกัน ฉันจะทำงานชดใช้หนี้เเทนพ่อให้กับคุณเอง แต่อย่าทำให้งานแต่งล่มนะคะ ฉันไม่อยากทำให้คุณพ่อเสียใจในตัวฉันอีก'' น้ำข้าวพูดดีๆกับชายหนุ่มหวังว่าเขาจะเห็นใจเธอบ้าง
"เฮ้อออ เธอมันผู้หญิงหน้าเงินจริงๆ ซินะ" ชินถอนหายใจพร้อมเอามือลูบใบหน้าเธอไปมา
"ได้ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะใช้หนี้ฉันหมดไหม" ชินปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณที่คุณเข้าใจ"
"หึๆ ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ แต่คนอย่างเธอฉันให้เวลาสองอาทิตย์เธอก็คงหนีกลับบ้านไปล่ะ"
"ฉันไม่หนีแน่นอนค่ะ ฉันจะหาเงินมาคืนคุณให้ได้"
"เก่งจริงๆ จะเอาตัวเข้าแลกผู้ชายหน้าไหนอีกละ?"
"คุณ!"น้ำข้าวขึ้นเสียง
"ทำไม มีปัญหาเหรอ" นฤชิตจ้องมองกลับอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอ
"เปล่าค่ะ คุณแม่ เอ่อคุณป้าคงรอแล้วฉันเข้าไปก่อนนะคะ"เธอเห็นท่าทางที่ชายหนุ่มจ้องกลับ ทำเอาไม่กล้าต่อกรกับชายหนุ่มต่อ
หญิงสาวร่างบางอรชรรีบเดินห่างออกจากเขากลับมาในบ้าน การร่วมโต๊ะอาหารมื้อนี้น้ำข้าวไม่มีความสุขเลยสักนิดก็เพราะมีสายตาดุที่เอาแต่จ้องเธอราวจะฆ่าเธอให้ได้ เพราะใบหน้าของชายหนุ่มถึงจะหล่อแต่ก็ดูดุไม่น้อย เธอกลับมาถึงบ้านร่างบางอรชรก็แทบทรุดตัวลง
"แม่คะวันนี้หนูเหนื่อยจังเลยค่ะ ถ้าแม่ยังอยู่หนูคงมีความสุขกว่านี้ แม่คิดถึงลูกสาวคนนี้ไหมคะ หนูคิดถึงแม่จัง หนูเริ่มไม่มีเเรงที่จะสู้ต่อแล้ว ทำไมต้องเป็นหนู ทำไมไม่มีใครรักหนูบ้างเลย" จู่ๆน้ำตาของน้ำข้าวก็ไหลรินออกมาเต็มสองแก้ม เธอได้แต่พูดคนเดียวเวลาที่ท้อ ร้องไห้คนเดียวเช็ดน้ำตาให้ตัวเองเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ถึงเธอจะมีแม่นมแต่เธอก็ไม่อยากให้แม่นมคิดมากเรื่องของเธอไปมากว่านี้
ณ วันแต่งงาน
สถานที่จัดงานที่ไร่ของชายหนุ่ม งานแต่งงานจัดแบบง่ายๆ สบาย ตามที่น้ำข้าวต้องการเธอไม่ชอบสถานที่ ที่คนเยอะๆ ชายหนุ่มเองก็ไม่ต้องการให้ใครมางานเขามากมาย เจ้าสาวเดินออกมาในชุดสีขาวที่ดูสะอาดตา ชินยอมรับว่าเขาเผลออดไม่ได้ที่จะมองความสวยของเธอ
พิธีตอนเช้าได้เริ่มขึ้นเวลา09:09 ถานุพงศ์มาร่วมงานถึงแม้ว่าเขาไม่อยากมาก็ตาม มีแต่พี่สาวของเธอกลับไม่เห็นแม้เงาเธอไปเที่ยวกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดยังไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำเพราะการแต่งงานนี้สำหรับพิมพ์ประพายไม่ได้มีความสำคัญอยู่แล้ว
"ชินสวมแหวนให้น้องซิ" ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะจับแหวนเพชรของเก่าของแก่ของตระกูลสวมให้กับเธออย่างรุนแรง น้ำข้าวมองหน้าด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เธอก้มลงกราบที่ตักของเขาอย่างที่ผู้ใหญ่บอกจนฝ่ายน้ำข้าวสวมให้ชิน เธอก็ทำตามที่ผู้ใหญ่สั่งทุกอย่างเพราะหวังว่าพิธีการนี้จะได้จบไปอย่างรวดเร็ว
"ลูกน้ำข้าว ขยับเข้าไปไหว้อกพี่เขาสิจ๊ะ ตาชินสวมสร้อยให้น้องด้วย" น้ำข้าวทำหน้าไม่ถูกจะว่าเขินก็ไม่น่าใช่ เธอก็ทำตามที่นาถพิจิตรบอก ชินสวมสร้อยให้เธอ จมูกเขาโดนหน้าผากเธออยู่นานในยามนี้ร่างกายกำยำของเขารู้สึกแปลกไปไม่น้อย
หลังจากจบพิธีตอนเช้าน้ำข้าวก็ขึ้นไปบนห้องแต่งตัวรอพิธีเย็น ตอนเย็นเป็นพิธีสบายๆ ใส่ชุดเดรสทำกิจกรรมในส่วนของไร่องุ่น มีพนักงานมาร่วมด้วย คล้ายๆปาร์ตี้ไม่มีผิด เธอยอมรับว่าวินาทีหนึ่งพิธีนี้ก็ดูสนุกไม่น้อยแต่เวลาต้องมองหน้ายักษ์ของชายหนุ่มความสุขก็หายไปทันที
ชายหนุ่มที่นั่งดื่มกับพวกคนงาน ดูเฮฮากันใหญ่ ถ้าอนุพงศ์ไม่ชอบที่ให้คนงานมาร่วมงานด้วย เขาจึงขอตัวกลับทิ้งให้เธออยู่ที่นี่คนเดียว แม่นมก็ต้องกลับไปพร้อมเพราะชายชราไม่ให้อยู่เป็นเพื่อนเธอ สีหน้าน้ำข้าวดูหงอยที่พ่อกลับก่อน งานก็ยังไม่จบน่าจะอยู่กับเธอให้นานกว่านี้ หญิงสาวใบหน้าเศร้านั่งข้างนาถพิจิตรไม่ห่างปล่อยให้ชายหนุ่มสนุกเฮฮาไปเพราะเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร
จนงานเลิกชินก็เมาไปเสียแล้วถึงพิธีเข้าห้องหอทำเอาหญิงสาวกลัวจนตัวสั่น แต่เธอคิดว่าชายหนุ่มไม่ได้พิศวาสเธอเลยเอาใจดีสู้เสือ คนงานหามชินมาที่ห้องนฤชัยผู้เป็นพ่อและนาถพิจิตรส่ายหัวกันยกใหญ่ที่ลูกชายทำตัวไม่ไว้หน้าเจ้าสาวเลยสักนิด
"พ่อกับแม่ต้องขอโทษแทนพี่เขาด้วยนะจ๊ะ เป็นผัวเมียกันแล้วหนักเบาก็ทนกันนะลูก รักกันให้มากๆนะ พ่อกับแม่ขอตัวก่อน"
"ชิน ทำตัวดีๆหน่อย" ชัยเดินไปตบบ่าลูกชายที่นั่งทรุดบนพื้น สภาพที่เมาจนพูดไม่รู้เรื่อง
หลังจากที่ผู้ใหญ่ออกไป น้ำข้าวมองดูห้องรอบๆ ห้องของชายหนุ่มที่ตกแต่งสีเข้มๆแบบผู้ชาย เล่นเอาเธอขรึมไปตามกับบรรยากาศรอบห้องเลยทีเดียว หญิงสาวหันไปมองคนที่เมาอยู่กับพื้นก่อนจะส่ายหน้าไปมาอย่างหมดคำจะพูด
"สู้ๆ ยัยน้ำข้าวเพื่อพ่อท่องไว้" น้ำข้าวพูดคนเดียวก่อนเธอเข้าไปอาบน้ำปรับเปลี่ยนเป็นชุดนอนมิดชิด
ชายหนุ่มที่เมาสายตาคมเข้มมองดูรอบๆ เขาพอจะมีสติอยู่เล็กน้อย ได้ยินเสียงคนอาบน้ำชายหนุ่มไม่สนใจเธออยู่แล้ว เขาถอนชุดออกเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวแล้วนอนลงที่นอนอย่างสบายใจ น้ำข้าวเดินออกมาเธอรีบเอามือปิดตา
"นี่ จะนอนแบบนี้เนี้ยนะน้ำก็ไม่อาบทุเรศ"
"ตัวฉันหอม จะดมไหมอ่ะนี่ๆๆ"ชินลุกขึ้นมาเอาแขนยกใส่เธอ น้ำข้าวผลักตัวออกห่างทันที