7 สอนยิงปืน
สามีปีศาจ 7 สอนยิงปืน
ไอติมนั่งคิดนอนคิดทั้งวันว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี ยิ่งรับรู้สภาพความเป็นอยู่ของลูกยิ่งทำใจไม่ได้ ลูกของเธอควรมีอิสระภาพไม่ใช่โดนกักอยู่ในคฤหาสน์แบบนี้
ถ้าสบโอกาสเมื่อไหร่จะพาลูกหนีจากญี่ปุ่นทันทีและจะทวงลูกกลับคืนสู่อ้อมอกให้ได้!
ในระหว่างที่นั่งคิดหาทางออกจู่ๆก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชหาข้อมูลของตระกูลคาซามะ
‘ตะกูลคาซามะ’ เป็นตระกูลมาเฟียเบอร์ต้นๆของประเทศญี่ปุ่นมีธุรกิจมากมายหลายอย่างทั้งสีขาวและสีเทา ส่งผลให้คาซามะรวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นคุณหญิงและคุณชายแห่งตระกูลคาซามะโดนลอบฆ่าเมื่อหลายปีที่แล้ว ทำให้ตอนนี้เหลือแค่เพียงลูกชายคนเดียวของตระกูลคือ ‘ยาคุชิ คาซามะ’ เขาสามารถดูแลคาซามะได้ด้วยวัยเพียง 27 ปี ถือว่าเป็นมาเฟียยุคใหม่ไฟแรงแห่งประเทศญี่ปุ่น
สถานะ : มีคู่หมั้นแล้ว
เพื่อนสนิท : โทคิยะ โยชิทากะ และ ยาคุชิ โยชิดะ
เหมือนมีดกรีดลงที่กลางดวงใจของเธอยาคุชิมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ทำไมกันแค่รู้ว่าเขามีผู้หญิงที่คู่ควรอยู่แล้วใจของเธอถึงได้ฝ่อและห่อเหี่ยวแบบนี้
ยิ่งรู้แบบนี้ยิ่งอยากพาลูกชายหนีไปให้ไกล ยาคุชิเป็นมาเฟียอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นและในอนาคตลูกชายของเธอต้องเดินตามรอยพ่อของเขาอย่างแน่นอน แต่เธอเองไม่ได้อยากให้ลูกชายเป็นมาเฟียอยากให้เขาเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเพราะรู้ดีว่าการเป็นมาเฟียนั้นมันต้องแลกกับอะไรหลายๆอย่าง
“แม่จะพาหนูกลับเมืองไทยให้ได้”
ก็อกๆๆๆ
ในระหว่างที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆจู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นแต่คนเคาะไม่ได้เปิดเข้ามาแต่อย่างใด
“คุณยาคุชิเรียกไปพบที่สนามยิงปืน”
“ค่ะ รอแปปหนึ่งนะคะ” หญิงสาวจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใส่กางเกงวอร์มขายาวและเสื้อยืดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยิงปืน
แม้มือของเธอจะไม่เคยจับปืนมาก่อนแต่ก็ต้องทำเผื่อในอนาคตสามารถปกป้องลูกของเธอได้
“เดินตามฉันมา” ชายชุดดำซึ่งคาดว่่าน่าจะเป็นลูกน้องของเขาทำหน้าขรึม จนเธอรู้สึกกลัวผู้คนที่นี่เขาไม่รู้จักคำว่ามิตรภาพเลยหรือไง
ลูกน้องของยาคุชิพาไอติมเดินลัดเลาะมายังสนามยิงปืนซึ่งใช้เวลาหลายนาทีกว่าเดินมาถึงทำเอาคนนัวเล็กแทบเหนื่อยหอบเพราะคฤหาสน์หลังนี้กว้างใหญ่เหลือเกิน
ดวงตากลมโตมองเห็นชายหนุ่มผิวขาวออร่านั่งเด่นอยู่ที่สนามยิงปืนเขาอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงผ้าสีดำ แม้มองในระยะสองร้อยเมตรก็รู้ว่าเป็นเขาเพราะยาคุชิดูดีจนโดดเด่นมาแต่ไกล
“เธอมาแล้วครับ” ลูกน้องของเขาโค้งศรีษะให้ก่อนจะเดินไปหลบข้างหลัง ในขณะที่ไอติมเองเดินไปหยุดข้างๆชายหนุ่ม
เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูดด้วยความสบายใจ หญิงสาวมองตามไม่วางตาหากเขาดูดบุหรี่ใกล้ลูกคงไม่ดีต่อสุขภาพของโยฮันแน่ๆ
“ไม่ต้องกลัวหรอกฉันไม่เคยดูดบุหรี่ต่อหน้าลูก” ชายหนุ่มปรายตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ หล่อนมีท่าทีชะงักเล็กน้อยเมื่อเขาอ่านความคิดออก
การจะเป็นมาเฟียได้ต้องอ่านความคิดของอีกฝ่ายออกเพราะไม่งั้นก็จะไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้
“ทะ...ทำไมคุณรู้” ไอติมเริ่มเหงื่อตกแค่มองเขาก็ล่วงรู้แล้วว่าเธอกำลังคิดอะไร
“ฉันถูกสอนให้อ่านความคิดของอีกฝ่ายได้ตั้งแต่เด็กๆมันคือคุณสมบัติของมาเฟีย ไม่ใช่แค่ฉันหรอกที่อ่านความคิดของคนอื่นได้เพื่อนสนิทของฉันก็ทำได้เช่นกัน”
“...”
“เพราะงั้นเราจึงสามารถรับรู้ได้ว่าใครจริงใจหรือไม่จริงใจกับเรา”
“...”
“การเป็นมาเฟียเบอร์ต้นๆของประเทศญี่ปุ่นมันอันตรายเกินกว่าที่จะไว้ใจใครได้แม้กระทั้งคนใกล้ตัวเพราะการหักหลังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ”
“...” ไอติมเม้มปากทำความเข้าใจในขณะที่เขายังพ้นควันบุหรี่จนมันขาวโพลน
หญิงสาวถอนหายใจก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิ่งโพลงด้วยความตกใจเมื่อเป้าที่เขากำลังจะสอนเธอยิงปืนนั้นคือเป้าที่มีชีวิต!
“ตกใจอะไร” ชายหนุ่มทิ้งบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้เท้าดับ
“นะ...นั่นคน! ” ร่างบางสั่นไปทั้งตัวเมื่อเบื้องหน้ามีผู้ชายสามคนโดนมัดมือมัดเท้าตรึงแขนติดกับเสา
“ก็ไม่เห็นมีหมาซักตัวนิ” ชายหนุ่มหยิบปืนกระบอกสีดำเหลื่อมขึ้นมาเช็ดด้วยความไม่รู้สึกรู้สาอะไร ในขณะที่ไอติมเองเริ่มเหงื่อแตกเพราะรู้ว่าเป้าที่จะยิงไม่ใช่เป้านิ่ง “สามคนนั้นคือคนที่ทาคาชิส่งมาให้ฉันจัดการ”
“ตะ...แต่ฉันไม่ยิงนะคะ ฉันจะไม่ฆ่าคนเด็ดขาด! ”
“เหอะ! อ่อนหัดจริงๆเธอกลัวหรอ”
“ฉันไม่ใช่คนเลือดเย็นเหมือนคุณที่คิดจะฆ่าใครก็ได้ คนอื่นเขาก็มีชีวิตมีหัวใจเหมือนกันนะคะ”
“แล้วถ้าเกิดสามคนนั้นคิดจะฆ่าเธอล่ะเธอจะปล่อยมันไว้ไหม”
“...” ไอติมหลบสายตาคมที่มองมายังเธอก่อนที่ดวงหน้าหวานจะก้มหน้างุด
“เห็นไหมเธอเองก็คิดเหมือนกันกับฉัน ฉันไม่จับพวกมันถ่วงน้ำก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“....” ไอติมพ่นลมหายใจก่อนจะมองไปยังชายสามคนที่โดนมัดอยู่ ใบหน้าของพวกเขามีรอยเขียวช้ำบ่งบอกให้รู้ว่าคนพวกนั้นคงผ่านการโดนซ้อมมา
ยาคุชิเลือดเย็นกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก
“ฉันจะให้เธอยิงแอบเปิ้ลที่วางอยู่บนหัวของพวกนั้น ตอนเด็กๆฉันถูกสอนมาแบบนี้มันเลยทำให้ฉันยิงปืนแม่นเพราะถ้าใช้เป้านิ่งมือของเธอก็จะไม่นิ่งพอที่จะลั่นไกและอาจทำให้กระสุนเฉียดได้”
“...”
“เพราะงั้นฉันจึงใช้คนเป็นเป้าแทน เล็งดีๆล่ะถ้าพลาดไปโดนหัวรับรองว่าสมองของพวกมันกระจุยแน่”
“...”
“และถ้าพวกมันตายก็ดีเพราะจะได้ไม่ต้องถึงมือของฉัน! ”