6 ทำได้เพียงแค่มอง
สามีปีศาจ 6 ทำได้เพียงแค่มอง
ยาคุชิพาไอติมมายังห้องห้องหนึ่งซึ่งอยู่ถัดจากห้องของเขาไปไม่ไกล คาดว่าน่าจะเป็นห้องนอนของโยฮัน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับร่างเหน่งน้อยนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอน
“ฮึก” แวบแรกที่ไอติมเห็นหน้าลูกชายถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ลูกของเธอโตขนาดนี้แล้วหรอ เด็กที่นอนอยู่ตรงหน้าคือเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆของเธอที่โดนพรากมาถึงห้าปี
...แม่อยู่ตรงนี้แล้วลูก
ไอติมทำได้แค่พูดในใจมันสุดแสนจะขมขื่นเมื่อเจอลูกชายที่โดนพรากไปจากอกแล้ว แต่ไม่สามารถให้เขาเรียกว่าแม่ได้ ความรู้สึกของคนเป็นแม่มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
“ท่าทางลูกของฉันจะนอนละ”
“...” ไอติมค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปหาลูกน้อยที่นอนหลับอยู่บนเตียง อยากกอดเขาเหลือเกินห้าปีที่ไม่รู้ว่ารู้ตัวเองเป็นใคร หน้าตาแบบไหน ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อมันเหมือนกับตายทั้งเป็น ถึงเธอจะท้องตั้งแต่อายุยังน้อยแต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่รักลูกของตัวเอง
แม่อยากกอดหนูเหลือเกิน
“ร้องไห้ได้แต่ห้ามทำให้ลูกชายของฉันตื่น” ยาคุชิปรายตามองหญิงสาวที่ยืนมองลูกชายด้วยสายตาละห้อย ดวงตากลมโตเจิ่งนองไปด้วยหยดน้ำตา
“ฮึก...ฮื้อๆๆ” ไอติมยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองไว้เพราะกลัวจะทำให้ลูกตื่น “โยฮัน”
หากเขาไม่อยู่ตรงนี้เธอคงคว้าตัวของลูกน้อยมากอดแล้วหอมแก้มเขาให้หายคิดถึง ลูกจะรู้บ้างไหมว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแม่อาลัยอาวรถึงลูกแทบทุกวันจนไม่เป็นอันกินอันนอน
ร่างบางพินิจพิจารณาดูใบหน้าของลูกชายมันถอดแบบจากพ่อของเขามาทุกกระเบียนนิ้ว คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากหยักได้รูป ผิวขาวราวกับหิมะ ชั่งเหมือนผู้ชายใจร้ายที่ยืนอยู่ข้างหลังเหลือเกิน
“ออกมาได้แล้วฉันมีเรื่องจะตกลงกับเธอ”
“ค่ะ” หญิงสาวปาดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนจะค่อยๆก้าวเท้าถอยหลังออกจากเตียงของลูกชาย ต้องเจ็บปวดแค่ไหนเจอลูกชายแล้วแต่ไม่สามารถทำอะไรได้แม้กระทั่งกอด
เพราะรู้ดีว่าสถานะตอนนี้เธอคือพี่เลี้ยงลูกตัวเอง
“ทะ...ทำไมลูกถึงไม่ไปโรงเรียนคะ” ไอติมถามขึ้นหลังจากที่เขาพากลับมายังห้องเดิม
“ลูกของฉันไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจึงไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ฉันจึงจ้างครูมาสอนที่บ้าน”
“แล้วทำไมคุณถึงไม่ให้ลูกไปโรงเรียน เด็กวัยนี้ต้องมีเพื่อนนะคะ” ไอติมทำหน้าไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเขากำลังกักขังตัวลูกชายของเธอด้วยการไม่ให้ไปโรงเรียน
“นั่นเท่ากับส่งลูกไปตาย ศัตรูของฉันรู้ว่าฉันมีลูกแล้วพวกมันจ้องจะเล่นงานโยฮัน ฉันจึงไม่สามารถให้ลูกคลาดสายตาไปไหนได้”
“คุณรู้ตัวว่าคุณเป็นคนอันตรายแต่คุณยังพรากลูกมาจากฉัน” ไอติมมองหน้าคมด้วยความไม่เข้าใจ
ถึงเธอจะยังเด็กแต่ใช่ว่าเธอจะเลี้ยงลูกตัวเองไม่ได้
“เหอะ! ปล่อยให้ลูกฉันไปเป็นขอทานงั้นหรอฝันไปเถอะ ฉันไปสืบประวัติของเธอมาหมดแล้วแค่ลำพังตัวของเธอเองก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง จะเอาปัญญาที่ไหนมาเลี้ยงลูกของฉันซึ่งเป็นถึงนายน้อยแห่งตระกูลคาซามะ”
“ฉันทำงานเลี้ยงลูกของฉันได้! ”
“งานอย่างว่านั่นหรอ” ชายหนุ่มใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางกวนประสาท “เผื่อเธอมีผัวใหม่แล้วผัวของเธอทำร้ายลูกของฉันล่ะ”
“ฉันไม่ใช่คนสำส่อนค่ะและฉันก็ไม่คิดที่จะมีผัวใหม่”
“เชื่อได้หรอของมันเคยๆกัน”
“...” ไอติมคร้านที่จะเถียงเพราะยาคุชิปากคอเราะร้ายเหลือเกิน
“เธอยิงปืนเป็นไหม”
“มะ...ไม่เป็นค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาคมที่เธอเคยมองมันเมื่อห้าปีก่อน แววตาของเขาเย็นกว่าตอนนั้นเสียอีก
“อ่อนหัดแบบนี้จะดูแลลูกของฉันได้หรอ”
“คุณไม่ควรให้ลูกเห็นความรุนแรงนะคะ” หญิงสาวตำหนิชายหนุ่มตรงๆวัยของลูกเธอคือวัยที่กำลังเจริญเติบโตเขาควรมีเพื่อนเล่นและไม่ควรให้เขาเห็นความรุนแรงเพราะนั่นอาจจะทำให้เขาเลียนแบบหรือทำตาม
“นายน้อยแห่งตระกูลคาซามะต้องชินกับปืนและเลือด เพราะฉันเองถูกสอนยิงปืนตั้งแต่อายุ 13 ขวบ”
“...”
“เพราะทางเดินของฉันมีแต่เลือดและเขม่าดินปืน ศัตรูของฉันมีเยอะเกินอย่างเธอมันจะไปรู้อะไร”
“...”
“และขอเตือนไว้อีกอย่าง” ยาคุชิสบตาคนตัวเล็กด้วยแววตาจริงจัง
“...”
“เมื่อไหร่ที่เธอคิดจะพาลูกหนีไปจากฉัน ฉันฆ่าเธอทิ้งแน่!!! ”