[EPISODE3 เข้าใจผิดมาตลอด]
สามีปีฉลู [สามีปีนักษัตร]
[EPISODE3 เข้าใจผิดมาตลอด]
สองสามวันหลังจากวันที่เมาย้อมใจกับโชนไป วันนี้วอร์ก็เดินทางมายังต่างจังหวัดซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบ้านคุณย่า มันนานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้มาที่นี่ คงตั้งแต่ชายหนุ่มอายุสิบสองล่ะมั้ง ซึ่งมันนานมากจริง ๆ และทุกอย่างก็ดูเปลี่ยนแปลงจนแปลกหูแปลกตาไปเยอะ
วอร์เดินมานั่งรอคนที่ป้าม่อมบอกว่าจะมารับอยู่แถวม้านั่งยาวใกล้กับร้านเบเกอรี่นมสด สายตาคู่สวยแสนมีเสน่ห์ราวลูกกวางน้อยกวาดมองไปยังบรรยากาศรอบตัวอย่างสนใจ ก่อนจะเห็นว่าจู่ ๆ ก็มีรถกระบะตอนเดียวสภาพกลางเก่ากลางใหม่ซึ่งบรรทุกถังใส่นมสดมาเต็มหลังรถ ได้แล่นเข้ามาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นได้มีเด็กวัยรุ่นผู้ชายซึ่งทำหน้าที่พลขับเปิดประตูลงมาจากรถก่อนจะกระโดดขึ้นท้ายกระบะไปยกถังนมลงมาตั้งไว้ที่หน้าร้านเบเกอรี่
วอร์มองภาพนั้นอย่างสนใจ จนกระทั่งเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำ เมื่อวัดจากสายตาคร่าว ๆ เดาว่าเขาคนนั้นคงสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบขึ้นไปแน่ ๆ ผิวกายขาวเหลืองที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเนื้อสวยภายใต้เสื้อยืดสีขาว เข้าคู่กับกางเกงยีนส์ขาดเข่ารองเท้าบูทและหมวกคาวบอย ทำให้เขามีกลิ่นอายสไตล์คันทรี่ไม่น้อยเลย
“ถังเดียวนะครับพี่คนสวย” เสียงของเด็กผู้ชายร้องถามเจ้าของร้านคนสวยที่ออกมารับบิล
“ใช่จ้า ยกเข้ามาให้พี่ด้วยสิ เดี๋ยวพี่ชงกาแฟให้” สาวเจ้าเอ่ยกับเด็กหนุ่ม ทว่าสายตานั้นกลับมองเลยไปยังคนที่หยิบสมุดบิลออกมาเขียนอะไรยุกยิกอยู่
ให้ตายเถอะ! ในสายตาของวอร์ผู้ชายคนนั้นมันช่างดึงดูดสายตาเขาเหลือเกิน ใบหน้าคมคายที่ก้มลงจนปีกหมวกลงมาปิดซ่อนแววตาคู่คมของเขาไว้มันช่างดูดีเหลือเกิน วอร์ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าถ้าเสื้อยืดนั่นถูกเลิกขึ้นสูง มวลกล้ามท้องที่ปรากฏลอนคลื่นยามที่สายลมพัดไปกระทบผืนผ้านั้นมันจะน่าดูแค่ไหน
‘ไม่น่าเชื่อว่าที่แบบนี้จะมีคนหล่อวัวตายควายล้มพับอยู่เป็นอาหารตาให้ฉันซะด้วย อ่า...เขาดูฮอตสุด ๆ’
ทางด้านของหนุ่มส่งนมที่กำลังยืนเขียนบิลให้กับลูกค้าสาวเจ้าของร้านเบเกอรี่นมสดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกหนาว ๆ ชอบกลจนขนอ่อนบนร่างพร้อมใจกันลุกเกรียว ราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างกำลังพุ่งเป้าหมายมาที่เขาอย่างนั้นแหละ
ตืด...ตืด!
แต่ชายหนุ่มก็คิดได้เพียงแค่นั้น เมื่อโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหลังกางเกงสั่นเตือนว่ามีสายหนึ่งกำลังโทรเข้ามา
[แม่สร้อย...กำลังโทรเข้า]
“ครับแม่” เสียงทุ้มติดแหบห้าวเอ่ย ทำให้ใบหูขอวอร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลกระดิกดิ๊ก ๆ แอบฟังเสียงของเขาอย่างไม่ตั้งใจ
‘เสียงหล่อแถมฟังดูมีเสน่ห์น่าค้นหาสุด ๆ อ๊าก! ฉันควรจะแอบถ่ายรูปพ่อหนุ่มส่งนมให้ไอ้เพื่อนโชนดูไหมนะ ว่าฉันเจอผู้หล่อที่นี่’ วอร์ได้แต่กรีดร้องในใจอย่างคนที่เจอของแรร์ในต่างจังหวัด หนุ่มเมืองกรุงพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด เมื่อสายตาคมของใครคนนั้นเหลือบมาทางเขาอย่างสงสัย ก่อนที่พ่อหนุ่มงานดีคนนั้นจะกลับเข้าไปคุยโทรศัพท์ในรถ
“ให้รับใครเหรอครับ”
[“ตาวอร์ไงจ๊ะ จำพี่ชายข้างบ้านที่เราไปเล่นด้วยบ่อย ๆ ไม่ได้เหรอ หลานของคุณย่าวลีไง”] ถ้อยความที่ ‘สงคราม’ ได้ยินในสายทำให้ชายหนุ่มได้แต่ขมวดเรียวคิ้วมุ่น พี่ชายข้างบ้าน หลานชายของคุณย่าวลีงั้นเหรอ ทำไมเขาถึงจำไม่ได้เลยล่ะว่าคุณย่ามีหลายชายด้วย คุณย่าวลีไม่ได้มี ‘หลานสาว’ หรอกเหรอ
“คุณย่ามีหลานชายด้วยเหรอครับ ทำไมผมไม่รู้” สงครามย้อนถามผู้เป็นแม่อย่างข้องใจ
[“ตายจริงตาคราม อย่าบอกนะว่าเราเข้าใจว่าพี่วอร์เขาเป็นผู้หญิงน่ะ แต่เอ...ตอนตาวอร์เด็ก ๆ ก็ดูหวานมากเลยนี่นา”] เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็ได้แต่คิดย้อนกลับไปถึงความทรงจำในอดีต ในตอนที่ยังเด็ก ๆ นั้น สงครามมักจะไปขลุกอยู่กับหลานของคุณย่าวลีแทบทุกวัน เพราะชื่นชอบในความอ่อนโยนและใจดี จนกระทั่งคิดไปว่าถ้าเขาโตขึ้น เขาจะแต่งงานกับพี่สาวคนสวยคนนี้ให้ได้ ทว่าความฝันของสงครามก็ต้องจบสิ้นลงเพราะพี่สาวข้างบ้านจู่ ๆ ก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น เมื่อสอบถามคุณย่าวลีก็รู้เรื่องราวว่าพี่เขาถูกญาติฝ่ายแม่พาตัวไปอยู่กรุงเทพฯ เพื่อรอเวลารับช่วงต่อมรดกจากพ่อแม่ที่เสียชีวิตไป
สงครามเฝ้ารอการกลับมาของพี่สาวข้างบ้านวันแล้ววันเล่าตามคำบอกกล่าวของคุณย่าวลี ทว่าก็ไม่มีแม้แต่เงาของคนที่รอคอย พี่สาวคนนั้น...ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลยกระทั่งคุณย่าวลีจากโลกนี้ไป
“รู้แล้วครับ ผมจะรับพี่เขากลับไป ว่าแต่พี่เขาอยู่ตรงไหนของท่ารถครับ ผมคิดถึงหน้าตาตอนนี้ของพี่เขาไม่ออกจริง ๆ” สงครามย้อนถามผู้เป็นแม่
[“รอแม่ก่อนนะ แม่จะให้พี่เขาเซลฟี่รูปส่งมาให้ แล้วแม่จะส่งให้เราอีกทีนะ”]
“ได้ครับ งั้นผมวางนะ” สงครามเอ่ย แล้วกดตัดสายไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ นี่เขาเข้าใจผิดมาตลอดเลยงั้นเหรอ ‘พี่วอร์คนนั้น...เป็นผู้ชาย’