ตอนที่ 5
ระเบียบ มันแสดงออกถึงสภาพจิตใจและนิสัยของผู้เป็นเจ้าของ
“สวัสดีค่ะ..ฉันดีใจที่คุณมาถึง แม้ว่าจะมาค่ำไปสักนิด..”
น้ำเสียงหวานหูดังมาจากเบื้องหลังของเขาที่ยืนอยู่กลางห้องกว้างแล้วกำลังมองภาพของชายวัยกว่าหกสิบคนหนึ่งที่ติดตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ผนัง
“นั่นภาพสามีของฉันเองค่ะ..”
เธอแนะนำให้เขาได้รู้จักอย่างเต็มปากเต็มคำก่อนจะเดินเข้ามาหยุดใกล้ ๆ เขาแล้ว มองดูใบหน้าที่คมขรึมของเขานิ่งพลางส่งยิ้มหวานเยือนมาให้อย่างตั้งใจ
“ฉันให้แม่ครัวเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว..”
“ผมยังไม่หิว..”
เธอมองหน้าเขาอย่างสังเกต
“นั่งคุยกันก่อนไหมคะ..บางทีความเคยชินของลูกคนละพ่อคนละแม่แล้วมาเจอกันตอนโต..เราอาจจะต้องปรับตัวเข้าหากัน..โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ได้รักกันด้วย..ฉันว่าควรอย่างมากที่จะต้องทำความคุ้นเคย..”
“ก็ดี..”
เธอเดินไปยังเฉลียงด้านนอก โดยมีเขาตามไปห่าง ๆ พลางมองไล่กวาดสายตามองตั้งแต่ศีรษะของเธอที่มีเส้นผมดัดหยิกยาวสยายแผ่นเต็มแผ่นหลังเป็นกรอบทำให้เห็นดวงหน้าหวานสดใสน่ารักราวกับตุ๊กตา
บ่าไหล่กลมกลึงได้สัดส่วนเอวเว้าคอดกิ่วสะโพกผายกลมมนปลีน่องเรียวสะอาดกลมกลึง
“ผมอยากรู้เรื่องสัญญาที่คุณให้ผมเซ็น..โดยที่ผมไม่ได้อ่าน..”
เธอยิ้มหวาน เผยไรฟันที่ขาวสะอาดอย่างมีสุขภาพดี
“ตราบใดที่ไม่หย่า คุณมีสิทธิ์ทุกอย่างเท่าที่ฉันมี..หากหย่าวันใด ไม่ว่าทรัพย์สินใดที่คุณมีหรือเคยมีต้องตกเป็นของฉันพร้อมกับเงินที่ฉันจ่ายให้วันนี้พร้อมด้วยดอกเบี้ยอีกร้อยละยี่สิบต่อเดือน..”
เขามองสบตาของเธอด้วยแววตาหนึ่ง
“หน้าเลือด..เป้าหมายของคุณก็คือ..ยึดผมไว้ตลอดชีวิต..”
เขาถากเธอด้วยสายตาและน้ำเสียง
“แน่นอนค่ะ..เพราะฉันเสียเงิน..ซื้อคุณมา..คุณก็เป็นสมบัติของฉันแล้วแต่ฉันจะชี้นิ้วหรือออกคำสั่ง..”
“ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง..”
เธอเดินเฉียดมาใกล้เขาแล้ววางมือบางลงบนบ่าก่อนจะลูบไล้มาที่แผ่นอกกว้างที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัด
“โถ..อย่าเปรียบตัวเองแบบนั้นสิคะ..ฉันเพียงแค่ สงสารสมเพชเวทนาคุณก็เท่านั้นเลยยื่นข้อเสนอนี้ให้..”
เขาปัดมือของเธอออกแล้วจ้องหน้าเธอนิ่ง
“บอกมาเลยดีกว่าว่า..ครั้งละเท่าไหร่..นานแค่ไหนผมจะเป็นอิสระ..อย่าเอาสัญญาบ้าบอนั่นมาบังคับผม..”
เธอฟังแล้วอึ้งก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างสดใสแต่ในความเป็นจริงเธอรู้สึกขมขื่นอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่มีวันที่คุณจะเป็นอิสระ..เพราะปัจจุบันคุณคือสามีที่ฉันตีตราเอาไว้แล้ว..และอย่าคิดหวนคืนไปหาอดีตภรรยาของคุณอย่างเด็ดขาด..หากเกิดอะไรขึ้น..จะมาหาว่าฉันไม่เตือนไม่ได้นะคะ..เพราะว่า..”
เธอทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น
“ฉันว่าเราคุยกันพอสมควรแล้ว..หากคุณไม่หิวก็เชิญขึ้นไปอาบน้ำให้สบายเถอะนะคะ..”
เธอเหลียวมองหาสาวใช้ของเธอ
“ไสวพาคุณปรัชญ์ขึ้นไปยังห้องใหญ่ที่จัดเอาไว้...”
“ค่ะ..แล้ว..”
“ฉันจะออกไปข้างนอก..กลับดึกสักหน่อย..”
เธอก้าวผ่านหน้าเขาไปแล้วก็หันกลับมาหาพร้อมกับรอยยิ้ม
“คืนนี้แล้วค่อยพบกันนะคะ..อย่าเพิ่งหลับก่อนล่ะ..หากว่าหลับก่อน..ฉันจะคิดดอกเบี้ยเพิ่ม..”
เธอเปล่งเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะก้าวออกไปยังรถของเธอที่จอดอยู่ใกล้รถของเขาที่ขับมาจอด
แล้วขับออกไปจากรั้วบ้านหลังนั้นท่ามกลางสายตาของเขา ที่มองไปด้วยสายตาที่ยากจะอ่านออก
มธุรดากลับเข้ามาในบ้านของเธอเกือบตีหนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่หลับ ยังนั่งรอเธออยู่ที่ห้องนอนใหญ่
และทันทีที่เธอเปิดประตูเข้าไปเห็นเขานั่งอยู่จึงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วหันมาหาเขา
“นึกว่าหลับไปเสียแล้ว..”
เธอฉีกยิ้มหวานใส่หน้าเขาเมื่อเขาหันมามอง ..ในความรู้สึกของเขาผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรที่เหมือนกับสุชานรีเลยแม้แต่น้อยนิด
มธุรดาดูคล่องแคล่ว ปราดเปรียว แล้วก็สง่างาม เธอคงเจนจัดโลกเพราะผ่านการมีสามีมาแล้วคงจะเคยชินกับการใช้เงินหรือไม่ก็คงจะหาผู้ชายมาปรนเปรอบ่อยครั้งตามความปรารถนาของเธอ
“คิดอะไรอยู่คะ..คงไม่คิดจะหาตัวเลขจากหน้าของฉัน..”
เธอถามเมื่อเห็นเขามองหน้าเธออย่างไม่ยอมละสายตา
“ผมกำลังคิดว่า..ผมเป็นผู้ชายคนที่เท่าไหร่ ที่คุณใช้เงินที่เป็นมรดกตกทอดมาจากสามีเฒ่าของคุณ ซื้อมาเพื่อผ่อนคลายตัณหา..”
เธอยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วก็ก้าวไปที่ห้องแต่งตัวเลือกหยิบชุดนอนออกมา
“เมื่อฉันมาถึงแล้ว..ก็นอนเถอะนะคะ..ตามสบายค่ะ..ความจริงฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้คุณรอฉันหรอก..แต่ไม่คิดว่าจะรอจริง ๆ ..”
เธอหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเข้าห้องน้ำไปสักพักก็ออกมาพร้อมกับสวมชุดนอนเนื้อดีมีราคา คลุมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ เรือนผมหยิกดัดถูกสระล้างอย่างสะอาด
เธอนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหยิบไดมาเป่าผมจนแห้งแล้วก็เตรียมเข้านอน แต่พอหันไปพบสายตาของเขาจ้องมองมาก็ต้องนิ่งงัน
“ไม่ใช้ครีมบำรุงหรือครับ..ไม่กลัวแก่ก่อนกำหนดหรือ..”
เธอยิ้มหวานให้เขา