บทที่ 3 ครอบครัวในฝัน
ระหว่างที่ขับรถกลับบ้าน เซลีนก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับลูกชายคนใหม่ของเธอเพิ่มมากขึ้น แดเนียลเป็นเด็กที่ฉลาด กล้าพูด กล้าถาม กล้าเรียกร้องในสิ่งที่ตนเองอยากได้ แต่เขาก็จะขออนุญาตและถามก่อนว่าถ้าตนเองอยากได้แบบนี้ ต้องทำอย่างไร
“นี่จ้ะ ไอศกรีม” เซลีนแวะซื้อไอศกรีมโคนให้เด็กชาย พร้อมยื่นให้
“ขอบคุณฮะ”
เซลีนรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ที่เด็กชายไม่ดื้อและถือว่าเป็นเด็กดีระดับหนึ่ง อาจจะเพราะเขาเติบโตมาจากบ้านอุปถัมภ์ เขาเลยต้องเข้มแข็งตามสถานที่ที่เติบโตมา จะมัวมาอ่อนแอก็คงไม่ได้ อีกทั้งคงถูกปลูกฝังให้ทำตามคำสั่งมาเยอะ ทำให้เป็นเด็กดี มีวินัยกันมากทีเดียว
“แด๊ดดี้ฮะ อร่อยจังเลยฮะ คราวหน้าซื้อให้กินอีกนะฮะ” แดเนียลหันไปบอกเบนจามิน
“แน่นอนครับ” เบนจามินหันไปยิ้มให้แดเนียล
“ขอบคุณนะฮะหม่ามี้ ที่ซื้อของอร่อยให้ผมฮะ” แดเนียลบอกกับ เซลีน
“ยินดีจ้ะ” เซลีนตอบพร้อมใช้มือเช็ดริมฝีปากของเด็กชายที่เปื้อนเล็กน้อย
เซลินกอดอกมองเด็กชายเดินไปพร้อมกับเบนจามิน แล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข เธอดีใจมากที่เด็กชายเข้ากับเธอและสามีได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ นิสัยของแดเนียลเป็นเด็กที่เรียบร้อยและสุภาพ เป็นเด็กที่กล้าแสดงออก เวลาพูดหรือแสดงออกทางร่างกาย เขาจะทำได้อย่างไม่เก้อเขินเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าเด็กชายก็พร้อมจะรับเธอและสามีเป็นคน ในครอบครัวเช่นกัน
ถึงแม้พวกเราก็ถือว่าเพิ่งพบกันวันนี้เป็นวันแรก เหมือนกับพวกเราเป็น พ่อ แม่ ลูก และรู้จักกันมานานแล้วจริง ๆ
พวกเรา 3 คน ใช้เวลาที่ห้างสรรพสินค้าค่อนข้างนานมากทีเดียว เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องซื้อเพิ่ม เนื่องจากว่าห้องนอนที่จัดไว้ให้เป็นแบบเด็กผู้หญิง ทำให้กว่าจะถึงบ้านก็เย็นมาแล้ว เบนจามินเลยตัดสินใจซื้ออาหารปรุงสำเร็จจากข้างนอกมาทานเป็นมื้อเย็นแทน
ที่โต๊ะอาหาร
“แดเนียลจ๊ะ หม่ามี้กับแด๊ดดี้ขอเรียกหนูว่าแดนนี่ นะจ๊ะ” เซลีน บอกกับเด็กชายที่กำลังจิ้มอาหารเข้าปาก
“ฮะ” เขาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
หลังจากมื้อค่ำ เซลีนก็พาแดนนี่มาที่ห้องนอนที่จัดไว้สำหรับลูกสาวคนใหม่ แต่ตอนนี้คงต้องรื้อออกและจัดใหม่ทั้งหมด ห้องนอนเด็กชายคงไม่เหมาะที่จะเป็นสีชมพู มีคิตตี้น้อยอยู่ด้วย
“แด๊ดดี้ค่ะ รบกวนช่วยเก็บของที่ไม่ได้ใช้แล้วไปเก็บไว้ที่ชั้นใต้หลังคาด้วยนะคะ หม่ามี้จะเอาไปบริจาคให้กับชาริตี้ตอนขาไปทำงานค่ะ เสร็จแล้วมาช่วยหม่ามี้จัดห้องให้แดนนี่ด้วยนะคะ” เซลีนบอกกับสามี
กว่าจะจัดการเรื่องแดนนี่ได้ก็ปาไปสามทุ่มกว่าแล้ว เซลีนและ เบนจามินส่งแดนนี่เข้านอนจนเรียบร้อย ก็เหลือแต่เซลีนกับเบนจามินที่เหนื่อยสุด ๆ ชนิดที่ไม่อยากขยับตัวไปไหนเลย
“เป็นไงบ้างเซลีน” เบนจามินที่นั่งบนโซฟากางแขนให้เซลีนเดินเข้ามานั่งในอ้อมแขนของเขา
“เหนื่อยมากค่ะ” เธอพูดพร้อมทิ้งตัวลงนั่ง แล้วเอนศีรษะลงบนบ่าของสามี
“แต่ผมมีความสุขมาก”
“เซลีนก็ด้วยค่ะ” เธอพูดพร้อมเงยหน้ามองสามี ที่มีแต่รอยยิ้ม
“คุณหลุดเรียกเซลีนนะ” เบนจามินแซวเธอกลับมา
“ก็แด๊ดดี้เรียกเซลีนก่อนนี่นา” เธอพูดกลับ
“แปลก ๆ เนอะ” เบนจามินพูดพร้อมกับจุ๊บบนผมของเซลีนเบา ๆ
“นิดหน่อยค่ะ แต่เป็นเรื่องแปลกที่ดีนะคะ ว่ามั้ย?” เซลีนพูดพร้อมกุมมือของเบนจามินเอาไว้
“แต่เราสองคนก็ต้องปรับตัวนะ เพราะตอนนี้มีอีกหนึ่งชีวิตที่เราต้องดูแล โชคดีหน่อยที่แดนนี่โตพอที่จะคุยกันรู้เรื่อง และเขาก็ดูเป็นเด็กที่เรียบร้อยและไม่ดื้อเท่าไหร่จริงมั้ยคะ?” เซลีนบอกกับสามี เขาพยักหน้ารับ
“ไปนอนเถอะค่ะ” เซลีนจูงมือเบนจามินให้ไปที่ห้องนอน แล้วแยกไปสวดมนต์และนั่งสมาธิตามปกติ กลับมาที่ห้องนอนก็เห็นเบนจามินนอนหลับส่งเสียงกรนเบา ๆ ไปแล้ว
“วันนี้ต้องพิสูจน์ให้ได้ ว่าเรื่องท่านเทพนั้นเป็นแค่ความฝันหรือความจริงกันแน่” เซลีนพูดเบาๆ กับตัวเอง
เซลีนจ้องไปที่แหวนที่อยู่บนนิ้วชี้มือขวาด้วยความชื่นชม เพราะดูๆ ไปก็เป็นแหวนที่สวยมาก ๆ แสงเพชรที่ล้อเล่นกับแสงไฟหัวเตียง ทำให้เซลีนตาพร่ามัวไปเลย ไพลินตรงกลางแหวนก็เม็ดใหญ่เกือบเท่านิ้วก้อยเด็กด้วยช้ำ แต่พอมันมาอยู่บนนิ้วของเซลีน กลับไม่รู้สึกว่าดูเทอะทะเท่าไหร่
ตอนนี้เซลีนรู้สึกตื่นตัวสุด ๆ เธอคิดว่ากำลังหยิบน้ำทิพย์สวรรค์ออกมาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง แล้วเซลีนก็หันไปมอง ปรากฎว่าบนโต๊ะมีขวดแก้วคริสตัลวางอยู่จริง ๆ
“กรี๊ด” เซลีนกรีดร้องขึ้นมาโดยไม่ออกเสียง เพราะเธอเอามือมา ปิดปากตนเองไว้ เซลีนไม่ได้ฝัน แต่มันคือความจริง มันคือพรของท่านเทพแน่นอนไม่ว่าจะเป็นแดนนี่ แหวนมิติ หรือน้ำทิพย์สวรรค์ ต่างก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดต่อหน้าต่อตาของเธอแล้ว
เธอระงับความตื่นเต้นและตั้งสติ ลองหยิบเอาน้ำทิพย์สวรรค์ออกมาอีกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแบบผง แบบน้ำ แบบเม็ด หรือแม้แต่แบบน้ำเชื่อม ปรากฎว่าเธอสามารถจัดการได้ตามที่ต้องการ
หลังจากที่ทดลองจนแน่ใจแล้ว เธอจึงเก็บทุกอย่างเข้าแหวนมิติไปและพยายามนอนหลับไปด้วยรอยยิ้มที่แสนมีความสุข
*****
เช้าวันนี้เป็นวันแรกที่แดนนี่มาอยู่กับเซลีนและเบนจามิน เซลีนตื่นขึ้นมาด้วยสภาพที่สะโหลสะเหล่มาก เพราะเมื่อคืนเธอยังตื่นเต้นอยู่ ทำให้นอนไม่หลับ เพราะมัวแต่คิดนู่นคิดนี่เกือบตลอดทั้งคืน ทำให้เช้านี้เซลีน ตื่นแบบไม่ค่อยจะสดชื่นเท่าไหร่นัก
แต่เพราะตอนนี้สถานะของเธอเปลี่ยนไปแล้ว เซลีนแม้จะยังหลับไม่เต็มอิ่ม แต่เธอก็ขอให้สามีไปปลุกแดนนี่ เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน ส่วนเธอเองจะลงไปเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เด็กชาย
“แดนนี่ ตื่นได้แล้วครับ ลูกต้องเตรียมตัวไปโรงเรียนนะ ลุกมาล้างหน้าแปรงฟันเร็ว หม่ามี้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ในห้องครัวแล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะครับ” เบนจามินปลุกลูกชาย พร้อมกับเดินไปเปิดผ้าม่านหน้าต่าง เพื่อให้แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในห้องของเขา
พอหันกลับมาอีกที แดนนี่ก็นั่งอยู่บนเตียงนอนพร้อมผมเผ้าที่ยุ่งเล็กน้อย ดวงตาของเขายังคงปิดปรือ แต่ก็พยายามที่จะลืมตาขึ้น
เบนจามินมองเด็กชายตัวน้อยพลางคิดในใจว่า ‘ลูกชายของเขาช่างน่ารักอะไรอย่างนี้’
“แดนนี่ แด๊ดดี้เตรียมเสื้อผ้าให้ลูกที่ปลายเตียง อย่าลืมเก็บที่นอนให้เรียบร้อย แล้วเจอกันที่ห้องครัวนะ” เบนจามินบอกลูกชาย พร้อมกับเดินออกห้องนอนไป
ส่วนแดเนียลเองก็ไม่รอช้า เขารีบลุกไปเข้าห้องน้ำทันที ผ่านไปแค่ไม่นาน แดนนี่ก็หิ้วกระเป๋านักเรียนใบโตเดินลงบันไดมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งเขาเห็นเบนจามินนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะก่อนแล้ว
“สวัสดีตอนเช้า แดนนี่ นอนหลับสบายดีไหมครับ มานี่มา มานั่ง ตรงนี้ เดี๋ยวหม่ามี้เอาซีเรียลให้ แดนนี่ ลูกจะอยากใส่น้ำผึ้งหรือน้ำตาลครับ”
เซลีนบอกให้แดนนี่มานั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมถามถึงสิ่งที่แดนนี่ชอบ
“น้ำผึ้งฮะ คุณครูบอกว่ามันดีกว่าน้ำตาลฮะ เด็ก ๆ ทานน้ำตาลมากไม่ดี” แดนนี่ตอบกลับเซลีน
“แด๊ดดี้จะทานอะไรดีคะเช้านี้ จะรับขนมปังปิ้งหรือซีเรียลดีคะ”
“ผมขอเป็นขนมปังปิ้งกับกาแฟดำนะหม่ามี้ ขอพิเศษขนมปัง 3 แผ่นเลยได้ไหม รู้สึกมีความสุขมันเลยหิวนิดหน่อย” เบนจามินตอบกลับพร้อมยิ้มเขิน ๆ
“ได้เลยค่ะ” เซลีนตอบพร้อมหันไปปิ้งขนมปังและชงกาแฟดำให้สามี
เธอวางมันตรงหน้าเขา แล้วรีบไปที่หน้าเคาน์เตอร์ครัวอีกครั้ง เพื่อเอาอาหารว่างใส่ลงไปในกระเป๋านักเรียนของแดนนี่
“แดนนี่ครับ นี่เป็นอาหารว่าง ลูกเอาไว้ทานเวลาหิวนะ หรือระหว่างรอรถโรงเรียนมาส่งตอนเย็น หม่ามี้จะทำอาหารว่างให้ลูกทุกวันที่ไปโรงเรียน ถ้าลูกอยากทานอะไรเป็นพิเศษก็บอกกับหม่ามี้ได้ โอเคไหมคะ” เซลีนวางกระเป๋านักเรียนให้เด็กชาย พร้อมยิ้มให้อย่างอบอุ่น
“ขอบคุณฮะ” เด็กชายเอ่ยตอบไป
“ทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว หยิบกระเป๋านักเรียน และไปใส่รองเท้า สวมแจ็คเก็ตให้เรียบร้อย ไปรอที่ห้องรับแขก พอรถโรงเรียนมารับเดี๋ยวแด๊ดดี้กับหม่ามี้จะไปส่งลูกขึ้นรถ โอเคไหมคะ” เซลีนบอกเด็กชาย ก่อนหันไปเก็บกวาดบนโต๊ะอาหารและทำความสะอาดครัว
ระหว่างรอรถโรงเรียนลูกชายมารับ เซลีนเองก็เพิ่งจะเก็บกวาดข้าวของในครัวเรียบร้อย เธอจึงเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น และแอบเห็นแดนนี่กำลังน้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้ เซลีนตกใจมากรีบเดินไปหาแดนนี่
“แดนนี่เป็นอะไรครับ ลูกร้องไห้ทำไม หม่ามี้หรือแด๊ดดี้ทำอะไรไม่ถูกใจลูกหรือเปล่า” เซลีนถามออกไปพร้อมกับดึงแดนนี่เข้ามากอดไว้
เด็กชายส่ายหัวพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม เขาพยายามกลั้นมันเอาไว้ แต่ไม่สามารถที่จะทำได้ เลยได้แต่เอามือเช็ดน้ำตาออกแบบรีบ ๆ
“เปล่าฮะ หม่ามี้ ผมร้องไห้เพราะผมดีใจต่างหาก มันเหมือนฝันที่ผมมีแด๊ดดี้กับหม่ามี้เหมือนเด็กคนอื่น แด๊ดดี้ไปปลุกผมให้ตื่นนอนตอนเช้า หม่ามี้เตรียมมื้อเช้าให้ผม แล้วหม่ามี้กับแด๊ดดี้ยังไปส่งผมขึ้นรถไปโรงเรียนอีก ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกนี้มาก่อน มันทำให้ผมกลัว กลัวว่ามันจะไม่จริง” เด็กชายพูดไปสะอื้นไป จนเซลีนต้องลูบหลังเขาเบา ๆ เป็นการปลอบใจ
“หม่ามี้ก็ดีใจมาก ๆ ที่แดนนี่มาอยู่กับหม่ามี้กับแด๊ดดี้” เซลีนพยายามบอกกับเด็กชายตัวน้อยที่ยังคงมีน้ำตาอาบแก้ม
“อ้าวเกิดอะไรขึ้นละครับหม่ามี้ แดนนี่ ร้องไห้ทำไมครับ”
เบนจามินที่เดินลงมาจากข้างบนบ้าน ตกอกตกใจเมื่อเป็นลูกชายร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม ที่พยายามเช็ดน้ำตาปอยๆ เขารีบปรี่เข้าหาเด็กชายแล้วมองเซลีนด้วยความสงสัย เซลีนเลยแอบกระซิบบอกเรื่องที่ แดนนี่คิดให้เขาฟัง
“โอ๋ ๆ ไม่ร้องไห้นะครับลูกชายคนเก่งของแด๊ดดี้ มันไม่ใช่ความฝัน มันคือความจริง วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้อยู่ด้วยกัน และมันจะไม่ใช่ วันสุดท้าย และลูกก็จะอยู่กับแด๊ดดี้กับหม่ามี้ตลอดไป หยุดร้องไห้และยิ้มให้แด๊ดดี้กับหม่ามี้หน่อยเร็ว เดี๋ยวตาแดงไปโรงเรียนเพื่อน ๆ จะล้อเอาได้นะ” เบนจามินหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้กับลูกชาย แล้วยิ้มให้กับเขาอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะดึงลูกชายเข้าไปกอดด้วยความรักที่มันล้นออกมาจนอธิบายแทบไม่ได้
เบนจามินเพิ่งเคยมีความรู้สึกรักและผูกพันแบบนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน เขากอดเด็กชายเอาไว้นานพอที่เสียงแตรรถโรงเรียนดังขึ้นที่ หน้าบ้านของพวกเขา
สองสามีภรรยาเดินไปส่งลูกชายขึ้นรถโรงเรียน พร้อมโบกมือให้กับเด็กชาย แล้วยืนส่งเด็กชายจนรถโรงเรียนค่อย ๆ เคลื่อนหายไปพ้นสายตาของเซลีนและเบนจามิน
เซลีนหันมามองเบนจามินที่มองมาทางเธอเช่นกัน ไม่นานรอยยิ้มของทั้งสองก็ค่อย ๆ ฉายออกมาอย่างแจ่มชัด เบนจามินค่อย ๆ จุมพิตตรงขมับเซลีนด้วยความรัก เพราะตอนนี้ครอบครัวของพวกเขายิ่งกว่าสมบูรณ์แบบ และนี่เป็นภาพที่เขาและเซลีนต้องการเห็นมาตลอดชีวิตแต่งงานของทั้งคู่นั่นเอง
*****
ที่ทำงานมีการ์ดอวยพรที่เขียนว่า “Congratulation to new mum! ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่คนใหม่นะคะ”
เซลีนพอเห็นการ์ดอวยพรนั้นก็อดยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้ เพราะไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ก็มีแต่เพื่อน ๆ ร่วมอวยพรเรื่องที่เธอมีลูกแล้ว
“ยินดีด้วยนะเซลีน” พวกเขาเอ่ยเป็นคำพูดเดียวกัน
“เป็นไงบ้าง ลูกสาวน่ารักไหม มีรูปให้ดูหรือเปล่า” เพื่อนคนหนึ่งถามเธอขึ้นมา
“ลูกชายจร้า มีเหตุขัดข้องนิดหน่อย ชื่อว่าแดเนียล อายุ 5 ขวบ ลูกชายฉันก็ต้องน่ารักอยู่แล้วชิจ๊ะ” เซลีนพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี
เพื่อนที่ทำงานต่างก็รู้ ว่าเซลีนกับเบนจามินรอคอยเรื่องการรับลูกบุญธรรมมานานหลายปี และเมื่อวานคือวันที่พวกเขาไปรับลูกบุญธรรมมาอยู่ด้วย ทำให้เพื่อนที่ทำงานของเซลีน ต่างก็ตื่นเต้นไปกับสองคนด้วย
เพราะเซลีนเองมีน้ำใจและเป็นมิตรกับทุกคน เซลีนมักทำอาหารไทยไปฝากเพื่อน ๆ ที่ทำงานบ่อย ๆ เขียวหวานไก่คือเมนูโปรดของเพื่อนที่ทำงานเลยก็ว่าได้ เธอยังสอนให้เพื่อน ๆ ทานเขียวหวานไก่กับเส้นขนมจีนแทนข้าวสวยด้วย และไม่น่าเชื่อ ว่าชาวต่างชาติก็ชอบทานขนมจีนเช่นกัน
ทำให้ทุกคนต่างก็รอคอยวันที่เธอจะได้ทำหน้าที่ของผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเสียที นั่นก็คือวันที่เซลีนจะได้ทำหน้าที่ของ “แม่” ซึ่งเธอรอมานาน
ข่าวเรื่องที่เธอรับเด็กมาเลี้ยง จึงเป็นที่สนใจของพวกเขาเช่นกัน