บทที่ 4 หอนายโลม (2/2)
เมื่อพ่อบ้านเหลียงเปิดหีบใบโต ดวงตาของซานซานก็เบิกโพลงด้วยความตะลึง แววตาของนางส่องประกายฉ่ำวาวและทอประกาย ก่อนจะยิ้มร่าออกมาด้วยความพึงพอใจ
ด้านในมีเงินตรามากมายมหาศาลหลายตำลึงทอง และหลายตำลึงเงิน หากใช้หมดหีบใบโตก็คงจะสามารถซื้อบุรุษได้นานแรมปีเลยเสียกระมัง
การใช้ชีวิตของเหลียงซานซานจะมีความสุข ก็ต่อเมื่อได้เงินตรามาครอบครอง หลังจากนั้นนางก็ให้หนิงอันส่งพ่อบ้านเหลียงกลับจวนทันที ก่อนที่นางและหนิงอันจะมุ่งหน้าสู่หอจางเหว่ยชุน หอบุรุษอันดับหนึ่งสถานที่ให้ความสำราญแก่สตรีทั่วทั้งเมืองเป่ยเหอ
ตรอกการค้าแห่งเป่ยเหอ หนาแน่นคับคั่งไปด้วยเหล่าผู้คนที่เดินเตร็ดเตร่ไปมา ร้านค้า ข้าวของเครื่องใช้ และอาหารมากมายจนรู้สึกลายตาเต็มทั้งสองฝั่งทาง ผู้คนต่างออกมาเดินชมจับจ่ายซื้อของกันด้วยใบหน้าเบิกบานสราญอารมณ์
ซานซานกวาดสายตาหวานไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตาและตื่นเต้น ตลาดในยุคโบราณเป็นเช่นนี้นี่เอง นางเดินเกาะแขนหนิงอันด้วยท่าทางมีความสุข ใบหน้างามถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มด้วยความสดใส แต่ทว่า…
“แม่นาง แม่นาง ระวัง!”
ซานซานหันหลังปรายสายตาไปทางด้านหลัง สองขากลับยืนนิ่งงันอยู่กับที่อย่างไม่ขยับเขยื้อน ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่สองมือผลักหนิงอันออกไปให้พ้นทาง เมื่อรถม้าเสียการควบคุมมุ่งตรงมาทางซานซานด้วยความเร็วที่ไม่อาจหยุดยั้ง
แต่สายตาของซานซานกลับมองเห็นความผิดปกติของรถม้าและนั่นไม่ได้เป็นเพราะม้าเสียการควบคุม หากแต่ว่าเป็นเเส้เส้นหนาของผู้ควบคุมต่างหากที่เร่งเร้าจังหวะการย่ำฝีเท้าของม้าเหล่านั้นราวกับตั้งใจ
‘นี่เป็นแผนการเอาชีวิตชัด ๆ’
“ระวัง!”
เสียงทุ้มแต่ฟังดูนุ่มลึกดังขึ้นเพื่อเป็นการเตือนอีกครั้ง ก่อนที่จะมีฝ่ามือหนาแข็งแกร่งฉุดรั้งเอวคอดกิ่วของเหลียงซานซานให้หลบหลีกออกจากเส้นทางความเร็วของม้าเสียสติ ให้รอดพ้นจากการถูกเยียบย่ำ
อั๊ก
“อ๊ะ…เจ็บชะมัด”
แม้ว่าอ้อมอกแกร่งของบุรุษที่ฉุดกระชากซานซานให้หลบหลีกจะเป็นเกราะกำบังได้อย่างดี แต่ทว่ากลับป้องกันร่างบางได้ไม่หมดทั้งร่าง เมื่อแขนข้างหนึ่งของซานซานไถลไปกับพื้นหยาบจนเกิดแผลถลอกเล็กน้อยบริเวณข้อศอก
“เจ้า…เป็นอะไรหรือไม่?”
เสียงอันแสนอบอุ่นเรียกสติสัมปชัญญะของซานซานให้ลืมเลือนความเจ็บปวดไปชั่วขณะ ดวงตาหวานหยดเปรยขึ้นมองบุรุษที่หยัดกายชันเข่าข้างหนึ่ง และเอื้อมท่อนแขนแกร่งส่งฝ่ามือหนามาจับแขนเล็กเพื่อดูบาดแผล ‘ชายยุคนี้หล่อเหลาถึงเพียงนี้เชียวหรือ’
เมื่อเห็นว่าบุรุษเบื้องหน้าหล่อเหลาเพียงใด จิตวิญญาณแห่งเจ้าแม่โฮสต์คลับก็ตื่นตัวขึ้นมาทันตา แม้ว่าบุรุษตรงหน้าจะสวมใส่เสื้อผ้าเก่าซอมซ่อขาดวิ่นทำจากผ้าป่านหยาบไร้ราคา แต่ทว่ากลับดูดียิ่งนัก
ใบหน้าคมเข้มเคล้าความหวานประปรายมีเส้นกรามกรอบหน้านูนชัด แฝงไปด้วยหนวดเคราบางเบาสมความเป็นชาย ดวงตายาวรีมีขนตางอนงามยาวหนา คิ้วเค้มเห็นชัดทุกเส้นขน จมูกที่โด่งรั้นตั้งชัน ริมฝีปากบางได้รูปสีแดงอมชมพูราวกับกลีบดอกเหมยกุ้ย [1] ดูเป็นธรรมชาติไร้การแต่งแต้มใด ๆ
ผมสีนิลมัดรวบครึ่งศรีษะดูยุ่งเหยิง แผงอกแกร่งเอ่อล้นออกมาจากขอบผ้าที่แหวกลึก แม้เนื้อตัวจะดูมอมแมมแต่กลับไร้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เขาคือคนประเภทใดกัน ดวงตาหวานของซานซานยังคงจับจ้องบุรุษตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา จน….
“เจ้าขอทาน ออกไปให้ไกลจากคุณหนูของข้า ไป!”
เสียงของหนิงอันตะโกนไล่บุรุษหนุ่มที่นางเรียกเขาว่าขอทานนั้น ทำให้ซานซานรู้สึกโกรธบ่าวรับใช้ของตัวเองขึ้นมาก็วันนี้
หากว่านางไม่ได้ขอทานรูปงามช่วยเอาไว้ เกรงว่าคงจะได้ถูกรถม้าของจวนตระกูลเหลียงของตัวเองเหยียบเข้าให้แล้ว และถ้าซานซานจำไม่ผิดภายในรถม้าคันนั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเมิ่งเซียนหว่านและเหลียงเซียนอี้คู่แม่ลูกจอมมหาภัยเป็นแน่
“หยุดนะหนิงอัน หากไม่ได้เขาเกรงว่าเจ้ากับข้าคงจะถูกรถม้าของนังแม่เลี้ยงใจร้ายเหยียบตายคาตลาดไปแล้วกระมัง” ซานซานปรามการกระทำของหนิงอันเบา ๆ
“ขออภัยเจ้าค่ะ คุณหนู”
“ขอบ…ใจเจ้ามากนะ อะ อ่าว” ซานซานเบนใบหน้าแช่มช้อยเพื่อกล่าวขอบคุณบุรุษที่ใคร ๆ แถวนี้ต่างก็เรียกเขาว่าขอทาน แต่ทว่าเขากลับไม่อยู่บริเวณนี้เสียแล้ว
ไม่เป็นอะไรหากเขาเป็นผู้คนแถวนี้ ไม่ว่าช้าหรือเร็วนางก็คงต้องพบเจอกับเขาในสักวัน เช่นนั้นวันนั้นค่อยแสดงความขอบคุณคงไม่สาย ซานซานลุกขึ้นปัดกระโปรงสีชมพูอ่อนด้วยความรีบร้อน
หากไม่เป็นเพราะโดนสองแม่ลูกมหาภัยกลั่นแกล้งราวกับเอาชีวิต ป่านนี้นางคงได้สำราญกับบรรดาบุรุษที่นางจะจับจ่ายด้วยเงินตราอย่างมีความสุขสราญไปเสียแล้วกระมัง
ว่าแล้วซานซานก็ยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวของหนึงอัน ก่อนจะรุดหน้าไปยังที่หมายเมื่อสายตาหวานฉ่ำเหลือบมองเห็นป้ายที่เขียนเอาไว้ด้วยอักษรลวดลายงดงามนามว่า หอจางเหว่ยชุน อย่างไม่รอช้า
‘วันนี้เหลียงซานซานจ่ายไม่อั้น! เพียงแค่ทำให้ข้าพึงพอใจเท่านั้นก็พอ...’
[1] เหมยกุ้ยฮวา คือดอกกุหลาบ