บทที่ 2
เกือบเที่ยงคืน โทรศัพท์ข้างหมอนสั่นขึ้น—เป็นสายของพ่อ ฉันรับสาย ยังไม่ทันได้ทัก พ่อก็พูดขึ้นทันทีว่า
“ส่งข้อความไม่ปลอดภัย พ่อพูดตรง ๆ เลยนะ หาสมุดมา”
ฉันเปิดโคมไฟ พลิกไปหน้ากระดาษเปล่า ปลายปากกาจ่ออยู่บนกระดาษ
“ค่ะพ่อ ว่ามาได้เลย”
“ข้อแรก” น้ำเสียงพ่อมั่นคงมาก
“คืนก่อนลุคออกปฏิบัติภารกิจ มีคนเห็นเขาดื่มเหล้าเยอะมากในบาร์ อารมณ์แปรปรวน ไม่มั่นคง
แหล่งข้อมูล:คำให้การผู้จัดการบาร์ กับบันทึกเวร ทำโน้ตว่า ‘ดื่มหนัก อารมณ์ไม่เสถียร’”
ฉันเขียนลงไป
“เวลา?”
“สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน พ่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดไว้แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ”
“ค่ะ แล้วข้อสองล่ะ?”
“เพื่อนบ้านให้การว่า—คืนนั้นลุคกับไอลีนทะเลาะกันรุนแรง มากจนได้ยินไปถึงข้างบ้าน คุณป้าข้างห้องยินดีขึ้นศาลเป็นพยาน”
ปลายปากกาฉันชะงัก
“ทะเลาะเรื่องอะไรคะ?”
“นั่นแหละคือข้อที่สาม” พ่อเว้นจังหวะนิดหนึ่ง
“ในระหว่างทะเลาะ มีการพูดถึงอีธาน ชัดเจนด้วยว่ามีเอ่ยถึงเธอกับอีธาน—คำพูดเป๊ะ ๆ จำไม่ได้ แต่ประเด็นนี้ชัดมาก”
ฝ่ามือฉันเริ่มมีเหงื่อออก จับปากกาแน่นขึ้น
“ใครเป็นคนได้ยินคะ?”
“เพื่อนบ้านคนนั้น แล้วก็มีทหารใหม่ที่เดินผ่านระเบียงตอนนั้นได้ยินด้วย พ่อส่งชื่อให้ทนายของเธอแล้ว”
“แล้วข้อสี่ล่ะคะ?” ฉันพับมุมกระดาษเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ
“มีคนเห็นไอลีนออกจากที่พักตอนดึกกับนายทหารอีกคน ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร กำลังตรวจสอบอยู่ เขียนไว้ว่า: ‘นายทหารไม่ทราบตัวตน’”
ฉันขีดคำว่า ไม่ทราบตัวตน ซ้ำสองรอบ
“ข้อสุดท้ายล่ะคะ?”
“ช่วงหลายเดือนที่ลุคไม่ประจำการที่ฐาน ไอลีนถูกถ่ายภาพตอนเดินทางออกนอกพื้นที่หลายครั้ง พ่อให้คนไปดึงข้อมูลตั๋วเดินทางแล้ว แต่ต้องใช้เวลา ตอนนี้ให้จดไว้ก่อนว่า: ‘อาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม’”
ฉันสูดหายใจลึก วงกลมล้อมทั้งห้าข้อไว้ทั้งหมด
“หนูจะไม่พูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียวค่ะ”
“ใช่ ลูกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”พ่อเว้นไปครู่หนึ่ง ก่อนเสริมว่า
“ในโทรศัพท์ก็เหมือนกัน อย่าแสดงความคิดเห็น ทำแค่บันทึก ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้พ่อจะไปหาลูก แล้วเรามาทำสำเนาเอกสารตัวจริงด้วยกัน”
“ค่ะ” ฉันปิดเอกสารลง
“ขอบคุณนะคะ พ่อ”
“ไม่ต้องขอบคุณ” น้ำเสียงพ่อนุ่มลง
“จำไว้นะ เธอแค่ต้องรับผิดชอบต่อ‘ข้อเท็จจริง’ส่วนที่เหลือปล่อยให้กระบวนการจัดการเอง แล้วก็…อย่าแบกคนเดียว ถ้าต้องการพ่อ โทรมาได้ตลอด เวลาไหนก็ได้”
“หนูรู้ค่ะ”
ฉันวางสาย ถ่ายรูปบันทึกทั้งหมดเก็บเข้ากล่องแฟ้มเข้ารหัส เสียบแฟลชไดรฟ์ สำรองข้อมูลอีกชุด
ตั้งชื่อไฟล์: ลุค—คำถาม—ฉบับร่าง
ปิดไฟ ในความมืดเหลือเพียงเสียงหัวใจตัวเอง ฉันปรับลมหายใจให้เสถียร บอกตัวเองต้องดูให้ชัด แล้วค่อย…สรุปทุกอย่าง
ตีห้าแล้ว กระจกริมหน้าต่างขึ้นฝ้าขาวบาง ๆ ประตูห้องรับรอง “แกร๊ก” เปิดออก อีธานเดินออกมาอย่างเงียบที่สุด ฉันวางกาแฟตรงหน้าเขา
“เธอตื่นอีกแล้วเหรอ?”
“อืม ฉันอยู่เป็นเพื่อนจนเธอหลับ” เขากดเสียงต่ำ
ฉันทวนทีละคำ
“ไปนั่งข้างเตียงเธอ?”
ในตาเขามีบางอย่างวูบผ่าน
“ก็แค่ไม่กี่นาที”
“จากไม่กี่นาทีถึงตีห้าครึ่ง?”
แก้วในมือฉันกระทบโต๊ะดัง กริ๊ก—ใสชัด
เขาขมวดคิ้ว
“เคต อย่าเป็นแบบนี้เลย ตอนนี้มีแค่เราสองคนที่เธอพึ่งได้ เราคือครอบครัวนะ”
“ฉันรู้ดีว่าคำว่า ‘ครอบครัว’ จากปากคุณมันมีค่าแค่ไหน”
เสียงฉันเรียบสนิท
“อย่าเอาคำนี้มาปิดปากฉัน สิ่งที่ฉันแคร์คือ คุณยังเห็นฉันอยู่ไหม”
“เคต อย่าทำให้เรื่องยุ่งยาก ฉันกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง นี่คือหลักการ”
ฉันมองเขาตรง ๆ
“ทำไม ‘หลักการ’ ของคุณถึงวนหลบฉันทุกครั้ง?”
ฉันหัวเราะเบา ๆ
“คงที่—นี่คือที่นักจิตบำบัดพูดถึง‘ผู้ให้ความปลอบประโลมประจำ’ หรือคือคนที่คุณตั้งใจเลือกให้คงที่สุด แค่คุณคนเดียว ใช่ไหม?”
ลมหายใจเขาสะดุดนิดเดียว ความเย็นพุ่งออกมาตรง ๆ
“พอได้แล้ว อย่าเอาเรื่องให้สกปรกไปแบบนั้น”
“อะไรเรียกว่า เหมาะสม ไม่ใช่คุณพูดคำเดียวแล้วจบ”
ฉันดึงเส้นความอดกลั้นให้ตึงขึ้น
“คุณจะดูแลเธอ? ได้ คุณจะช่วยเธอ? ได้ แต่ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน? ไม่ได้”
เขาบีบสันจมูกตัวเอง
“ฉันเหนื่อยแล้ว อย่า—”
“คนที่เหนื่อยไม่ใช่แค่คุณ” ฉันตัดบท
“ฉันไม่ได้เป็นภาคต่อของ ‘แผนบำบัด’ ของคุณนะ”
ฉันเน้นทีละคำ
“ตอนฉันอยู่ มันเรียกว่า เส้นแบ่งเขต ตอนฉันไม่อยู่ มันเรียก ล้ำเส้น”
เขามองฉันอยู่นาน ก่อนฝืนพูดออกมาสั้น ๆ ว่า
“ก็ได้…ฉันจะ...ค่อยกลับไปทบทวน”
“ไม่ต้อง ค่อย” ฉันสวนทันที “ตอนนี้เลย”
ฉันหยิบรีโมตกับกุญแจสำรองจากโต๊ะ
“ตั้งแต่วันนี้ไป ของของฉัน พวกคุณสองคนห้ามแตะ คุณอยากเป็นอัศวิน?ก็ไปยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเธอ แต่อย่ามาเหยียบช่องว่างในชีวิตฉันอีก”
เขาไม่ตอบ อากาศในห้องค่อย ๆ เย็นลง เหมือนกำลังจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง
ฉันหรี่ไฟฝั่งหนึ่งของห้องนั่งเล่นให้มืดลง เหลือแค่ไฟทางเดินดวงเดียว—เหมือนดวงตาที่เปิดค้างไว้ เป็นทั้งสัญญาณเตือนและคำประกาศ
“จำไว้ อีธาน ความห่วงใย ไม่ได้แปลว่าต้องชิดใกล้ คำว่าครอบครัว ไม่ได้หมายถึงการนอนเตียงเดียวกัน หลักการ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะตัดฉันออกจากทั้งหมดนี้ได้”
ประตูฉันไม่ได้กระแทก กลอนก็ไม่ได้ล็อกแน่น ฉันให้หน้าเขาและให้ทางถอยตัวเอง
แต่ฉันรู้ดี อีกก้าวเดียว ก็ถึงขีดสุดแล้ว
ฉันมองแสงจาง ๆ บนเพดาน พลิกตัว กลืนความขมลงไป แต่ไม่นานมันก็ย้อนขึ้นมาใหม่
ได้ พรุ่งนี้…ฉันจะไม่แกล้งอีก ฉันจะตรวจทุกอย่างให้หมด
