2
ผ่านเทศกาลไหว้บรรพบุรุษของตระกูลชี ชีเหนียงต้องเตรียมตัวเดินทางไปเมืองหยางแล้ว เธอต้องเดินทางไปก่อนล่วงหน้า
"พ่อ แล้วเรื่องตรวจร่างกายนี้ จะเป็นปัญหาไหมคะ" เรื่องนี้นี่เองที่ทำให้บุตรสาวของเขาคิดหนัก ชีเหิงนึกว่าเรื่องอันใด
"อาหนียง สหายของพ่อเป็นหมอที่เมืองหยาง เพียงลูกมอบจดหมายนี้ให้เขา เขาจะเข้าใจ" ชีเหิงมอบจดหมายให้บุตรสาว สหายของบิดาชื่อฟางเหริน เปิดคลินิกในเมืองหยางมานานหลายปี
กระนั้นทำให้ชีเหนียงพลันสบายใจขึ้นมาหน่อย ในคืนนั้นก่อนที่เธอจะเดินทาง ชีเหนียงกุมมือชีหยางไว้แล้วจะทำความฝันให้เป็นจริง อีกทั้งยังนอนกับมารดาด้วย
ยามเช้ามารดาเตรียมของให้บุตรสาวในกระเป๋า อีกทั้งมองเงินให้จำนวนหนึ่ง
"พ่อจะขับรถไปส่งแกที่สถานีรถไฟเมืองจิน ใช้เวลาหนึ่งคืนกว่าจะถึงเมืองหยาง พ่อโทรไปหาอาของแกเรียบร้อยแล้ว"
"ค่ะ"
ชีเหิงและภรรยาขับรถมาส่งบุตรสาวที่สถานีรถไฟเมืองจิน ชีเหนียงนั่งในขบวนรถไฟ มองบิดามารดาโบกมือให้
ภารกิจนี้ยิ่งใหญ่เหลือเกิน หล่อนหลับตาลงไปอย่างผ่อนคลาย ผมที่เคยยาวสลวยงดงามต้องตัดสั้นเป็นทรงบุรุษสินะ
น่าใจหายยิ่งนัก
พริบ !!! เหมือนมีคนมานั่งฝั่งตรงข้ามเธอ ทั้งที่ตอนเธอซื้อตั๋วรถไฟ เธอเหมาที่นั่งทั้งหมดแล้ว เพราะที่นั่งสี่ที่มันต้องหันหน้าเข้าหากัน ชีเหนียงไม่สะดวก ในการให้คนอื่นมานั่งด้วย กระนั้นเธอจึงซื้อตั๋วทั้งแถวเธอหมดเลย
"คุณ!!! นั่นมันที่ฉัน ฉันเหมาหมดแล้ว" ทั้งที่หล่อนวางของไว้หมดแล้ว แต่ชายร่างใหญ่ทำหน้าหื่นกาม
ชีเหนียงเริ่มใจคอไม่ดี ทั้งโบกี้นี้ มีเพียงเธอกับผู้โดยสารที่เป็นคนชรา
"คนสวย ฉันขอนั่งด้วยคน"
"แต่ฉันซื้อตั๋วแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์นั่ง" ชีเหนียงคิดว่าหล่อนเสียเงินแล้ว จะให้คนอื่นมานั่งได้อย่างไร
"นังนี่วอนเสียแล้ว" แย่แล้วฝ่ามือหนาใหญ่ กำลังจะกระทบใบหน้าเธอ ชีเหนียงได้แต่หลับตา เหตุใดไม่รู้สึกเจ็บเล่า
พอลืมตาขึ้นเธอเห็นชายร่างสูงโปร่งตั้งตระหง่านราวกับต้นสน
"คิดจะทำอะไรในที่สาธารณะ" น้ำเสียงเขาช่างเย็นชายิ่งนัก
"โอ๊ย !!! ปล่อย เจ็บ" ชายร่างใหญ่พลันหน้าเขียวด้วยความเจ็บปวด
"ทีหลังอย่าได้ก่อเรื่อง" ชายคนนั้นปล่อยมือชายร่างหนาทันที
จนเขาวิ่งหลบไปอีกโบกี้ ชีเหนียงยังไม่ทันได้กล่าวขอบคุณเขา ชายหนุ่มก็ไปนั่งที่ของเขาพร้อมใช้หมวกปิดตาไว้
"ของคุณค่ะ" ชีเหนียงเดินไปหาเขา ไม่ไกลจากที่นั่งเธอนัก
"ไม่ต้อง" ส่งเสียงภายใต้หมวกสีดำ กระนั้นชีเหนียงถึงได้กลับมานั่งที ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเธอ ความจริงแล้ว เขาไม่ชอบเห็นใครใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงเท่านั้นเอง
เสียงประกาศของนายรถไฟ ว่าถึงที่หมายแล้ว ชีเหนียงถือของพะรุงพะรังลงจากรถไฟ เธอต้องรออาหญิงที่ชานชาลา
"คุณแม่คะเสี่ยวเหนียงมารึยัง" บุตรสาวของชีหวานถามมารดา เสิ่นหยาเอ่ยถามมารดา
หลายวันก่อนพี่ชายของหล่อนชีเหิงโทรมาจากเมืองจิน ให้หล่อนดูแลหลานสาวอย่างชีเหนียงเป็นกรณีพิเศษ
"คุณอา" ชีเหนียงมองสองแม่ลูกเดินผ่านหน้าเธอไป ชีเหนียงจำรูปที่บิดาให้ดูได้ อาหญิงของเธอชอบทำผมสีทองเหมือนชาวตะวันตก
ทั้งสองคนหันมามองสตรีในชุดคลุมขนสัตว์สีดำ ใบหน้านี้ ชีหวานจำได้
"อาเหนียงหลานอา" ชีเหนียงกอดหลานสาวทันที เสิ่นหยามองมารดากอดลูกพี่ลูกน้องของเธอ
ชีเหนียงมองอาหญิงที่อ่อนเยาว์ยิ่งนัก หญิงสาวโค้งคำนับอาหญิง
"ขึ้นรถกัน พ่อเธอบอกอาแล้ว เธอมาทำธุระอันสำคัญ" เสิ่นหยามองมารดาควงหลานรักขึ้นรถ ชีเหนียงยังสวยเหมือนเดิมในสายตาเสิ่นหยา
รถคันหรูในยุค 70 จอดหน้าโรงแรมหรู ใจกลางเมืองหยาง ท่ามกลางแสงสีเสียง สถานบันเทิงต่าง ๆ ชีเหนียงมองความเจริญของเมืองหยาง
"อาให้คนเตรียมห้องให้แล้ว" มีข้ารับใช้มาขนของชีเหนียง หญิงสาวได้แต่เดินตามหลังอาหญิงกับเสิ่นหยาขึ้นไปบนห้องพัก
ห้องของชีเหนียงอยู่ชั้นบนสุดของโรงเเรมติดกับห้องพักของสองแม่ลูก ช่างหรูหรายิ่งนัก มองลงนอกหน้าต่าง พบกับแม่น้ำโจวไหลผ่านเมืองหยาง ช่างงดงามนัก
"ขอบคุณอาหญิงมากค่ะ" ชีเหนียงของคุณชีหวานอีกที
"อาเหนียง พ่อเธอบอกอาแล้ว เธอต้องเป็นทหารในนามชีหยาง" ชีหวานกุมมือหลานสาวไว้ ให้กำลังใจชีเหนียง ช่างเป็นเด็กสาวน่าสงสารนัก
อายุยี่สิบปีแทนที่จะได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก แต่ต้องมาทำหน้าที่แทนคนอื่น
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณอา"
"เธออยู่กับเสิ่นหยาแล้วกัน ตอนเด็กพวกเธอรักกันมาก อาไปล่ะ" คล้อยหลังชีหวาน เด็กสาวทั้งสองคนอยู่ในห้องด้วยกัน
"อาเหนียงหลายปีมานี้ แม่ไม่พาฉันกลับเมืองจินไปหาคุณลุง ฉันเลยไม่ได้เล่นกับเธอ" เสิ่นหยารักและสนิทกับชีเหนียงพอสมควร
"ฉันมาอยู่นี่ รบกวนเธอแล้ว"
"รบกวนอะไรกัน พวกเราครอบครัวเดียวกัน ว่าแต่เธอจะเข้าโรงเรียนตอนไหน"
"อาทิตย์หน้า หลังตัดผมและตรวจร่างกายเสร็จ" ชีเหนียงบอกเสิ่นหยา
"ฉันพาเธอเที่ยวเมืองหยางเอง"
"ขอบคุณนะ" ในวันนั้นเสิ่นหยาอยู่ในห้องชีเหนียงทั้งวัน ทำให้ชีเหนียงพลอยได้หัวเราะกับเรื่องตลกของเสิ่นหยา
ลูกสาวคุณอาน่ารักจริง ๆ