สามสาวภรรยาทหารยุค 70

84.0K · จบแล้ว
หยกขาว ปิ่นหยก
60
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สาวสาวภรรยาทหารพวกเธอจะทนได้รึไม่ "คุณไปเรือนลู่หวายทำไม" ชายหนุ่มยืนกอดอกพลันขมวดคิ้ว "คุณเป็นบิดาฉันรึไง ที่ต้องรายงานคุณ" อี้เฟยยังพูดไม่ทันจบ ลู่เหยาบีบแขนเธออย่างแรง "ไม่ใช่บิดาก็เหมือนบิดา ผมสั่งให้คุณไปทางซ้าย คุณก็ต้องไปทางซ้าย" "ปล่อยฉันนะ ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน คุณจะมายุ่งกับฉันทำไม" อี้เฟยพยายามแกะมือเขาออก "ผมสั่งห้ามคุณไปยุ่งกับน้องชายผมอีก" ลู่เหยาผลักคนงามลงที่เตียง เธอมองเขาถอดเข็มขัดออก หมายความว่าอย่างไร "คุณจะทำอะไร" "ผมจะนอนกับเมีย ผมผิดมากรึไร"

นิยายรักโรแมนติกข้ามมิติยุค70โรแมนติกทหาร

1

ชีเหนียงกำลังนั่งเล่นหิมะที่หน้าบ้านของหล่อน หล่อนทะลุมิติมาอยู่ในยุคเจ็ดศูนย์ ห่างจากยุคปัจจุบันห้าสิบปี หญิงสาวนั่งมองท้องฟ้า อยากจะกลับบ้านเดิมเเต่มันเป็นไปไม่ได้เสียจริง

"อาเหนียง เข้ามาในบ้านเถอะลูก นั่งตากหิมะโดนไอเย็นจะเป็นหวัดได้นะ" คนเป็นมารดาเรียกบุตรสาว ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำชีเหนียงก็เปลี่ยนไป และชอบนั่งเหม่อลอยคนเดียวที่หน้าบ้าน

ชีเหนียงปั้นตุ๊กตาหิมะเล่นคนเดียว เห็นมารดาเรียกเข้าบ้าน หล่อนจึงลุกขึ้นแล้วปัดเศษหิมะออกจากใบหน้า หันมามองมารดาด้วยความอ่อนโยน นับแต่ชีเหนียงฟื้นมา หล่อนได้นางอี้เจียวมารดาเจ้าของร่างเดิมดูแลอย่างดี

"ค่ะแม่" ชีเหนียงมองมารดาเจ้าของร่างเดิม เอาใจใส่เธอดีอย่างมาก

ชีเหนียงเดินเข้ามาด้านในบ้าน บ้านสกุลชีนับว่าเป็นผู้ดีเก่ามีเชื้อสายเชื้อพระวงศ์สมัยก่อน บิดาของชีเหนียงหรือชีเหิงนั้นเป็นประธานสมาคมทองคำ ของเมืองจิน ว่าได้ว่าร่ำรวยที่สุดของเมืองจิน แต่ทว่าบิดานั้นรักชีหยางอย่างมาก แม้ชีหยางจะเป็นเจ้าชายนิทรา ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ยามนี้

ชีเหนียงมองพี่ชายของเธอ ใบหน้ากับเธอเหมือนกันจนแยกไม่ออกจริง ๆ

ชีเหนียงมีผมยาวสลวยสีดำขลับ ใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตาเธอราวกับเมล็ดซิ่งทำให้เธอดูอ่อนเยาว์นัก ทั้งที่อายุยี่สิบปีแล้ว

ใบหน้าสองแฝดคล้ายมารดาเจ็ดส่วน อีกสามส่วนเหมือนบิดาเสียมากกว่า

ชีหยางกับชีเหนียงแตกต่างกันเพียงแค่ทรงผมเท่านั้น ทุกอย่างเหมือนกันหมด อีกอย่างคือความสูงชีเหนียงสูงร้อยหกสิบห้า ชีหยางสูงร้อยเจ็ดสิบ

"อาหยางตื่นมาคุยกับแม่เร็วเข้า" อี้เจียวเช็ดตัวไปเรียกบุตรชาย ใบหน้าชายหนุ่มนิ่งงันราวกับคนนอนหลับไป

"ผมกลับมาแล้ว" ชีเหิงเพิ่งกลับมาจากสมาคมทองคำ เขาถอดรองเท้าแล้วนั่งบนโซฟาตัวใหญ่

"มาแล้วหรือคะ ฉันเตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ คุณอย่าได้ตากหิมะมากนะคะ ประเดี๋ยวไม่สบายเอาได้" อี้เจียวหันมามองหน้าสามี

"อาหยางหลับแล้วพวกเรากินข้าวกันเถอะค่ะ"

ห้องรับประทานอาหาร สามคนพ่อแม่ลูกนั่งที่เก้าอี้ไม้จันทน์หอม อาหารห้าอย่างถูกวางบนโต๊ะไม้กลม นางอี้เจียวทำอย่างได้หลายอย่าง ชีเหนียงมองมารดา อี้เจียวอายุสี่สิบแล้ว แต่ทว่ายังหน้าเด็กมากราวกับคนอายุสามสิบ

"อาหนียงกินเยอะ ๆ " อี้เจียวคีบหมูน้ำแดงให้บุตรสาว

"ขอบคุณค่ะแม่" ชีเหนียงคีบรากบัวฝานให้มารดา

"อาเหนียงกินข้าวเสร็จไปหาพ่อที่ห้องทำงานด้วยนะ" ชีเหิงมีบางอย่าง ไม่อยากให้ภรรยารับรู้เรื่องที่จะพูดกับบุตรสาวมันเป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียว

ชีเหนียงคิดในใจว่าเหตุใดไม่พูดตรงนี้ แต่สายตามองเห็นมารดากินข้าวด้วยความอร่อย สงสัยบิดาไม่อยากให้มารดารับรู้ด้วยกระมัง...

"อะไรนะคะจะให้หนูปลอมเป็นพี่ชีหยาง" หลังจากกินข้าวอิ่มชีเหนียงก็มาพบบิดาที่ห้องทำงาน เรื่องที่ทำให้หล่อนตกใจไม่น้อยคือ ชีเหนียงต้องปลอมตัวเป็นชีหยางพี่ชายของเธอ เพื่อสานฝันพี่ชายเพราะพี่ชายอยากจะเป็นทหาร

"คุณพ่อคะ เรื่องนี้ไม่เหมาะมั้งคะ" การไปฝึกเป็นทหารก่อนจะเป็นทหารจริง เข้ากองทัพนั้น เป็นอะไรที่ยากจริง ๆ สำหรับชีเหนียง

"อาเหนียงทำเพื่อพี่แกสักครั้งเถอะ อีกไม่กี่เดือนพี่แกก็จะหายแล้ว แกไปสมัครแทนอาหยาง พออาหยางหาย แกค่อยกลับมา"

ตาแก่ชี ท่าจะบ้าไปเสียแล้ว จะให้หล่อนไปเป็นทหารแทนชีหยาง นั่นมันชีวิตเธอเลยนะ ดูท่าตาแก่ชีเหิงรักลูกไม่เท่ากันเสียแล้วกระมัง

"พ่อคะ แต่ว่า"

"อาเหนียง แกมาดูนี่" ไดอารี่เล่มหนึ่งถูกวางตรงหน้าชีเหนียง

ชีเหนียงได้ไดอารี่มาอ่าน ยามนี้หล่อนอยู่ในห้องนอน สายตามองตัวอักษรที่ชีหยางบันทึกไว้ในสมุดเล่มนี้ ความฝันสูงสุดของอาหยางคือการเป็นทหารรับใช้ชาติบ้านเมือง

ชีเหนียงทบทวนทุกอย่างตั้งแต่เธอมาอยู่ในยุค 70 เข้าร่างของชีเหนียงที่ตายไปแล้ว เพราะประสบอุบัติเหตุ ชีเหนียงในยุคปัจจุบันเป็นเชฟทำอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีครอบครัวพี่น้อง โตมากับสถานสงเคราะห์เลี้ยงเด็ก

แต่ในยุค 70 เธอมีทั้งบิดา มารดาและพี่ชายฝาแฝด ความรักที่เธอไม่เคยได้รับจากบิดามารดา ยามที่อยู่ในยุคนี้ มีมารดาทำอาหารให้กิน มีบิดาที่ซื้อของทุกอย่างให้ ชีเหนียงถึงกับน้ำตาไหล เมื่อนึกถึงภาพเหล่านั้น

เธอจะทำเพื่อชีหยางสักครั้ง ชีเหนียงเดินไปหาบิดาที่ห้องทำงาน

ชีเหิงมองบุตรสาวเดินเข้ามาอย่างเนิบช้า ขอบตาเธอแดงช้ำ

"ลูก..." ในเมื่อเธอไม่อยากไป เขาจะไม่บังคับชีเหนียง

"หนูตกลงค่ะ" ชีเหนียงวางไดอารี่ไว้ คนเป็นบิดาดีใจจนพูดไม่ออก

"อาเหนียง ดีมากลูกพ่อ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าโรงเรียนทหารเปิดรับนักเรียน ยามนี้เมื่อลูกไปเมืองหยางลูกไปหาอาหญิงของลูกก่อนก็ได้"

อาหญิงที่ชีเหิงเอ่ยถึง คือชีหวานน้องสาวเพียงคนเดียวของชีเหิง ชีหวานได้สามีเปิดธุรกิจโรงแรมในเมืองหยาง อีกทั้งสามีของชีหวานได้ตายไปแล้ว ชีหวานเป็นหม้ายสาวทรงเสน่ห์ในเมืองหยาง มีบุตรสาวหนึ่งคน ชื่อเสิ่นหยา

ชีเหนียงนั่งฟังบิดาเล่าเรื่องคราว ๆ ของอาหญิงชีหวานให้ฟังอีกครั้ง ชีเหนียงประสบอุบัติเหตุ ก็ความจำขาด ๆ หาย ๆ คนเป็นมารดารู้ว่าบุตรสาวจะเป็นทหารแทนพี่ชายฝาแฝด นางอี้เจียวด่าทอสามี จนชีเหิงได้นอนนอกห้องคืนนั้น