บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 เผาไม่ไหม้

หลวงตาสั่งเสียงเรียบ ในใจของท่านไหวสั่น สไบไม่เชื่อท่านแต่ท่านต้องทำเพื่อให้วิญญาณของสไบไปสู่สุขคติ พระไชยา พระต่วนและพระพัด เริ่มสวดตามหลวงตาเช้า โกรก ขลุ่ย หันไปเรียกหนุ่มๆ มาช่วยยกศพสไบขึ้นจากน้ำ ไม่มีใครกล้ายก โกรกกับขลุ่ยจึงลงมือเอง

“ไอ้โกรกทางหัว กูทางขาเอง เอ้านะ อึ๊บ”

เสียงขลุ่ยกับโกรกดังพร้อมกันแต่ทั้งคู่หาได้ยกศพดำเกรียมขึ้นจากแอ่งน้ำไม่ ขลุ่ยมองหน้าโกรกแล้วพยักหน้าอีกครั้ง ขลุ่ยใจเต้นแรง รู้สึกไร้เรี่ยวแรง โกรกก็เช่นเดียวกัน ขาสั่น มือสั่น แต่ฝืนออกแรงเต็มกำลัง

“เอ้า...อึ๊บ...ยกโว้ย...อึ๊บ...”

“โอ้ย.”

คราวนี้ทั้งขลุ่ยและโกรกล้มก้นกระแทกลงในน้ำ หนุ่มๆ สองสามคนคอยช่วย ถอยห่างทันที หลวงตาเช้าหยุดสวด ยกมือขึ้น พระอีก 3 รูปหยุดเสียงพร้อมกัน

“นังสไบ เอ็งจะดื้อทำไม อย่าสร้างบาปเลยนะ ปล่อยวาง ไปเกิดเสียเถอะ”

“หลวงตาขอรับ นังสไบอยากอยู่ตรงนี้ เราฝังมันไว้ที่นี่ก็แล้วกัน สวดส่งวิญญาณมันแค่นั้นก็พอขอรับ มันจะไปหรือไม่อยู่ที่ตัวมัน หลวงตาชี้ทางสว่างให้แล้ว ถ้ามันไม่เชื่อก็ทำอะไรไม่ได้แล้วละขอรับ”

โกรกก้าวขึ้นจากแอ่งน้ำ เขาไม่รังเกียจศพสไบ ขลุ่ยก้าวตามขึ้นมายืนข้างโกรก เห็นด้วยกับโกรก สไบไม่ยอมไปไหน เขากับโกรกยกซากศพไม่ขึ้น ศพไหม้เหลือลำตัว ศีรษะ ท่อนขาเหลือจากเอวไปนิดเดียว ลำพังผู้ชายคนเดียวยกขึ้นแต่เขากับโกรกช่วยกันสองคน ยกไม่กระดิก หนักราวก้อนหินมหึมา หากสไบยอมไปเกิด ไม่จองเวรผูกพยาบาทคนทำร้ายหล่อนกับพ่อ ป่านนี้ถูกไฟในกองฟอนเผาเหลือเพียงเล็กน้อย ไม่กลิ้งหนีจากกองฟอนมาหยุดอยู่ตรงร่องมันเทศอย่างนี้

ร่องมันเทศ เดชเป็นคนยกร่องปลูก ยอดมันกำลังแผ่ขยาย ใบงามสะพรั่ง อีก 2 เดือนก็ขุดหัวไปกินได้แล้ว สิ่งนี้ที่เหลือเป็นรูปร่างสมบูรณ์ให้เห็น ใครจะกล้ามาขุดมันไปกิน ใครจะกล้าเฉียดมาบ้านเคลือบ หากศพสไบฝังไว้ตรงนี้

“หลวงตา ฝังมันไว้ที่นี่เถอะขอรับ เราทำบุญให้มันเสร็จก็ถือว่าช่วยมันเสร็จสิ้นแล้วละขอรับ”

“เอาอย่างนั้นนะ เอาก็เอา มันไม่ไปไหนนี่นะ ขุดหลุมลึกๆ ฝังมันไว้ที่นี่ ครบเจ็ดวัน ทำบุญกรวดน้ำให้มันด้วย ร้อยวันก็ทำให้มันด้วย อย่าลืมล่ะ”

“ขอรับหลวงตา”

ขลุ่ยรับคำหลวงตาถึงท่านไม่ย้ำให้ทำบุญถึงเคลือบกับสไบ เขากับชาวบ้านจะทำให้สองพ่อลูกอยู่แล้ว ขลุ่ยสั่งเด็กหนุ่ม ขุดดินอีกฝั่งของร่องมันเทศ หลุมขุดเตรียมพร้อม ไม่มีใครกล้ายกศพสไบ ขลุ่ยกับโกรกมองหน้ากันไปมา หลวงตาเช้าจึงเอ่ยเสียงค่อนข้างดังว่า

“นังสไบ เอ็งอยากอยู่ที่นี่ข้าก็จะให้อยู่ ไม่บังคับเอ็งไปไหนแล้วล่ะนะ ลงไปอยู่เสียเถอะนะ”

จบคำของหลวงตาเช้า ฟ้าแลบแปล๊บ เสียงฟ้าเปรี๊ยะเปรี้ยงดังตามมาและพริบตานั้น ศพดำเป็นตอตะโกกลิ้งขึ้นจากแอ่งน้ำ กลิ้งข้ามร่องมันหล่นลงในหลุมดังตุ้บ ทุกคนผงะถอยไม่เป็นขบวน พระต่วนกับพระพัดถอยกูดไปหลบอยู่หลังพระไชยา

หลวงตาเช้ายังยืนอยู่ที่เดิม พระไชยายืนที่เดิมเช่นกัน ขลุ่ยถอยห่างหลุมออกมา โกรกยืนนิ่งจ้องมองศพสีหน้าตื่นแต่ไม่กลัวส่วนหนุ่มๆ วิ่งไปตั้งหลักห่างจากหลุมเกิน 5 วา สีหน้าซีดไร้สีเลือดไม่ต่างกัน

“สวดส่งมันที”

หลวงตาเช้าพูดโดยไม่หันมามองพระไชยากับพระลูกวัด ท่านส่งเสียงเป็นทำนองขึ้นก่อน พระลูกวัดรับคำสวด เสียงพระสวดต่อเนื่องครู่เดียวก็เงียบเสียง ทุกคนที่เดินมาล้อมดูศพสไบกลิ้งมาหยุดตรงร่องมัน กลับไปนั่งที่เดิมนานแล้วกระทั่งเสียงพระสวดจบและสามหนุ่มไปบอกความเฮี้ยนของสไบจึงมาดูให้เห็นกับตาแต่ไม่มีอะไรสำแดงเดชหรืออิทธิฤทธิ์จากสไบอีก

“กลบหลุมได้แล้ว นังสไบไม่กวนชาวบ้านไม่ต้องกลัวกันไปนะ อย่าร่ำลือหรือเล่าต่อให้มากความนะประเดี๋ยวจะไม่มีใครกล้ามาหมู่บ้านนางามของเรา จำไว้ทุกๆ คนนะ”

“ขอรับหลวงตา”

“เจ้าค่ะหลวงตา”

เสียงรับคำของหลวงตาดังไม่พร้อมกัน บางคนไม่รับคำด้วยซ้ำไปเพราะติดค้างกับสิ่งที่เห็น หากไม่เล่าต่อต้องอัดอั้นอยู่ในใจทำอะไรไม่ได้อย่างแน่นอน ต้องสะสางออกจากอกให้หมดจะได้โล่ง โปร่ง ทำมาหากินต่อไปได้

ดวงตะวันคล้อยเคลื่อนต่ำลงเฉียดยอดไม้ท้ายทุ่งนา กลุ่มก้อนเมฆครึ้มกระจายหายไปจนท้องฟ้าเคลือบทาสีทองล้อมรอบดวงตะวัน ยิ่งใกล้ค่ำ แสงสีทองปนแดงคล้ายสีช้ำเลือด หลวงตาเช้านั่งอยู่บนเสื่อกกที่ชาวบ้านนำมาปูให้ท่านกับพระลูกวัดนั่งสวดหน้าศพ แม้ไฟกองฟอนมอดจนเกือบดับสนิท ท่านยังคงนั่งเป็นเพื่อนขลุ่ยกับโกรก พระไชยานั่งอยู่ด้วย พระต่วนและพระพัดขอกลับวัดก่อน ท่านทั้งสองทำใจยอมรับเรื่องน่าสะพึงชวนขนลุกนั้นไม่ได้ วิญญาณเฮี้ยนที่ชาวบ้านเคยเล่าปากต่อปาก ท่านไม่เคยพบพานสักครั้ง วันนี้ท่านได้พบเห็นด้วยตาของท่าน ความกลัวจึงไม่หลุดพ้นไปจากพระหนุ่มบวชใหม่ทั้ง 2 รูป

พระไชยาไม่ถาม ไม่อยากรู้หรืออยากเห็นมากไปกว่าที่เห็นพร้อมๆ พระพัดกับพระต่วนและทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ศพกลิ้งลงหลุมเอง แต่ถึงแม้ท่านจะไม่เอ่ยปากถามหลวงตาเช้า เมื่อพระหนุ่มๆ รีบกลับวัดไปแล้ว หลวงตาเช้าจึงถามพระหลานชาย

“ท่านไชยา ไม่อยากรู้รึ ทำไมนังสไบลงหลุมไปเอง”

“ไม่หรอกขอรับหลวงตา ผมรู้อยู่แล้ว นังสไบไม่เชื่อหลวงตา ต่อไปนี้ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะขอรับ ผมไม่อยากให้นังสไบตกอยู่ในห้วงของความแค้น”

“ใครห้ามได้ละครับคุณ มันเป็นอย่างที่เราๆ เห็นกัน นังสไบไม่ยอมหยุด ไม่ฟังใคร คุณไม่อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ถ้ามันมีเรื่องเกิด เราก็ต้องรับรู้และช่วยอะไรใครไม่ได้”

ขลุ่ยหันมองไปทางที่ฝังศพสไบ พระไชยาไม่กลัวผีหรือปาฏิหาริย์ใดๆ ความรู้ในทางธรรมมีมากขึ้นเรื่อยๆ เวทย์มนตร์สานต่อจากหลวงไม่มนตร์ไสยเวทย์ทางเร้นลับผิดเพี้ยนจากพระธรรมดา เป็นไปตามกฎระเบียบบางประการที่ควรเรียนรู้ได้เท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel