สากรรจ์(หมอกรรจ์)

60.0K · ยังไม่จบ
ณิการ์
41
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ถอดเสื้อผ้าซิ” สั่งเธอพร้อมกับเคลื่อนตัวขึ้นไปหาคนที่ยังนอนบิดตัวเจ็บจุกอยู่บนเตียง “มะ...ไม่นะ นายจะข่มขืนฉันอีกไม่ได้นะ ฉันเจ็บ อีกอย่างฉัน...” “ถอดเสื้อผ้า ถ้าไม่ถอดจะข่มขืนแบบที่พูดนั่นแหละ” ยอมรับว่าก่อนหน้านี้โกรธที่โดนคุณรักตบหน้า แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำกับหล่อนแล้วมันเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับบาดแผลและความทรงจำในใจของเธอ “ทะ...ทำไมต้องถอด” ถามเสียงสั่นแผ่วพร้อมขยับตัวลุกขึ้นแล้วถอยไปชิดหัวเตียงกว้างเมื่อสากรรจ์ขยับตัวเข้ามาใกล้ “จะถอดเองหรือให้ถอดให้...เลือก!” ไม่ได้ตอบคำถาม แต่สั่งเร่งหล่อนอีกครั้ง “ไม่!” คุณรักยืนยันเสียงแข็ง “ถ้าผมถอดให้ คุณจะใส่มันไม่ได้อีกชุดนี้ หรือต้องการให้ผมถอดให้แบบนั้น” “นะ...นายจะไม่ทำอะไรฉันใช่ไหม” “ไม่ทำหรอกน่า ถ้าคุณไม่เรียกร้องยั่วยวนผม” “งั้นฉันไม่ถอด” “ถอด! เดี๋ยวนี้!” หมอหนุ่มพูดพร้อมทำท่าจะเคลื่อนตัวไปปลดเปลื้องชุดของเธอจนเธอต้องรีบกอดตัวเองแล้วยกมือห้ามเขาไว้

เผด็จการรักนิยายรักประธานหมอนางเอกเก่งเลขาดีไซเนอร์มาเฟียพาลูกกหนีตั้งครรภ์

ตอนที่ 1

“ชนแก้ว!”

เพล้ง!

เสียงแก้วใสดังกระทบกันพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของสาวๆ ที่อยู่ในห้องนี้ วันนี้เป็นวันรวมตัวของแฝดนรกทายาททั้งสี่ของโรงพยาบาลเอกชนภักดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่และร่ำรวยไฮโซที่สุดของประเทศเลยก็ว่าได้ เหล่าดารา นักร้อง นางแบบคนดังต่างพากันมาใช้บริการธุรกิจของครอบครัวปิ่นขจรภักดี และแน่นอนว่าแฝดนรกทั้งสี่เป็นทายาทของเจ้าสัวเผ่าพงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้

“นึกว่ามึงจะผ่าตัดไม่เสร็จซะแล้วไอ้โท” เสียงกร้าวของแฝดคนที่เป็นน้องเล็กสุด ทั้งๆ ที่คลอดวันเดียวกัน แต่เขาได้เป็นน้องคนเล็กก็ไม่เข้าใจ และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นแฝดที่หน้าตาไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนแฝดทั่วไป ก็พวกเขาเป็นแฝดนรกที่ถูกพ่อที่มีเงินรวยล้นฟ้าสร้างขึ้นมายังไงล่ะ

“ระดับมือพระกาฬอย่างกู มีเหรอจะช้าไอ้กรรจ์ ว่าแต่มึงเถอะ เนี่ยที่คลินิกไม่มีคนเหรอถึงได้มาไวกว่าใครเขา”

สาโทถามน้องแฝดคนเล็กที่หน้าตาเหมือนหนุ่มตาน้ำข้าวเหมือนตัวเองและแฝดน้องคนที่สาม ส่วนแฝดพี่ยิ่งแล้วใหญ่นึกว่าไม่ได้พ่อแม่เดียวกัน พวกเขาสากรรจ์ สาหัส ยังว่าหน้าตาละหม้ายคล้ายกัน แต่สาเกนี่สิ พี่ชายแฝดคนโตออกไปทางตี๋ๆ เหมือนหนุ่มเกาหลีที่สาวๆ สมัยนี้กรี๊ดกัน

“วันนี้แค่ฉีดโบท็อกซ์และร้อยไหมให้ลูกค้าสาวๆ ไม่กี่คนน่ะ” สากรรจ์หยักยิ้มตอบแฝดผู้พี่แล้วกระดกน้ำสีอำพันในแก้วต่อ

“เวลานี้ไม่ใช่เวลางาน อย่าพูดเรื่องงาน แค่วันนี้ทำคลอดสามคนกูก็เพลียจะแย่แล้ว ตอนนี้หาสาวๆ มาดีกว่า กูไม่ไหวแล้ว อยากปลดปล่อย” สาเกแฝดผู้พี่ที่หน้าตาโอปป้าเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมกับวางแก้วน้ำสีอำพันในมือลงตรงหน้าแล้วเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางผ่อนคลาย

“จริงอย่างไอ้เกพูด พวกมึงสองคนเนี่ยนะ เวลามาสนุกจะพูดเรื่องพวกนี้ทำไม เสียเวลา” แล้วก็กระดกน้ำสีอำพันในแก้วจนหมดก่อนจะวางลง

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น กูจัดไว้รอพวกมึงทุกคนที่ห้องประจำแล้ว” ศัลยแพทย์ความงามมือหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วลุกขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปจากห้องวีไอพีของตัวเอง

“จะช้าทำไมพวกมึง รีบไปจัดสิวะ ไอ้กรรจ์มันจัดรอท่าอยู่แล้ว” พี่คนโตที่หน้าตาไม่เหมาะกับคำพูดเอ่ยขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นสาวเท้าตามน้องคนเล็กออกไปทันที

“เราจะช้าทำไมไอ้โท รีบสิวะ”

สาหัสลุกขึ้นตบไหล่น้องชายแล้วรีบเดินเร็วๆ ตามสองหนุ่มที่ออกไปก่อนเช่นกัน เหลือเพียงแต่สาโทที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม จังหวะที่กำลังจะลุกตามไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาก่อนจนต้องล้วงออกมากดรับสาย แต่ยังไม่ทันได้กดรับก็เบ้ปากเสียแล้วเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอโทรศัพท์ราคาแพงของตัวเอง

“แม่จ๋าโทรมา ซวยแล้วไง รับดีหรือไม่รับดีวะ” พูดถามตัวเองแล้วก็ต้องตัดสินใจรับสายแล้วกรอกเสียงทุ้มหวานส่งไปในสาย

“ครับ แม่จ๋า...”

“ไม่ต้องเสียงหวานเลย อยู่ไหนกัน ทำไมแม่โทรหาเก หัส กรรจ์ถึงไม่ติดสักคน” พร้อมเพชรถามทันทีเมื่อได้ยินเสียงลูกชายคนที่สองของตัวเอง

‘ไม่น่าลืมปิดเครื่องเลย’ บ่นว่าตัวเอง จะติดได้ไงก็สาเก สาหัส และสากรรจ์ปิดเครื่องกัน เหลือแต่เขา สาโทที่ลืมปิดเครื่อง

“ว่าไงตาโท อยู่ไหนกันฮึ”

“คะ...คือติด...”

“อย่าบอกว่าติดเคสด่วนนะ แม่รู้ แม่ถามพ่อแล้วว่าวันนี้ลูกทั้งสี่คนออกมาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว แล้วทำไมยังไม่กลับบ้าน หรือไปนอนกกสาวๆ ที่ไหน”

“แม่จ๋า...แม่จ๋าฟังลูกโทก่อนนะครับ ลูกโทมาสังสรรค์กับเพื่อนสมัยเรียนครับตอนนี้”

“ที่ไหน”

“ที่...ครับ”

“แน่ใจว่าไปกับเพื่อน ไม่ใช่ไปกันทั้งก๊กแฝดนรกนะ”

“แม่จ๋ารู้ทัน”

“แม่เลี้ยงแฝดนรกของแม่มานะ กลับบ้านมาเดี๋ยวนี้ทุกคน ภายในหนึ่งชั่วโมงถ้ายังไม่กลับถึงบ้าน แม่จะจับแต่งงานกันทุกคนเลย อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว สามสิบเจ็ดปีแล้วนะลูก เมื่อไหร่จะเลิกเที่ยวสนุกสักที แม่อยากอุ้มหลาน”

“อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่บ้านครับแม่จ๋า ส่วนเรื่องอุ้มหลานให้ไอ้พี่เกมันแต่งก่อนเลยครับ” แล้วสาโทก็รีบตัดสายของผู้เป็นแม่ทันที แล้วรีบเดินออกจากห้องวีไอพีไปตามทุกคนกลับบ้าน ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สามจะเกิดขึ้นได้

พร้อมเพชรยืนรอแฝดนรกของตัวเองกลับมาบ้านตามเวลาที่กำหนด ตอนนี้ก็สามทุ่มแล้ว แต่ว่ายังไม่เห็นมีใครกลับมาเลย ทั้งๆ ที่บอกว่าให้เวลาหนึ่งชั่วโมง จนตอนนี้ใกล้จะหมดเวลาแล้ว ในมือเหี่ยวย่นของพร้อมเพชรมีไม้หวายถือแกว่งไปมา

“คุณจ๋า...เข้าบ้านเถอะ อย่ารอไอ้แฝดของเราเลย ลูกๆ โตกันแล้วนะ” เจ้าสัวเห็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากเดินไปเดินมาที่ทางบันไดขึ้นชั้นสองของบ้านก็บอกกล่าว

“เจ้าสัวนะเจ้าสัว เข้าข้างลูกตลอด แบบนี้ไงถึงไม่รู้จักโตกันสักที ลูกแก่แล้วนะคุณ ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว”

เจ้าสัวถึงกับเม้มปากแน่นทันที ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะยิ่งพูดก็เหมือนกับพูดให้ภรรยาต่อว่าตัวเอง ก็จริงของพร้อมเพชร เขาถือหางลูกชายทั้งสี่ตลอด

“นั่นไง เสียงรถมาแล้ว ดีนะที่ยังมาทันในเวลาที่ขีดไว้ เจ้าสัวไปนอนเถอะ ฉันจะจัดการเจ้าแฝดนรกเอง” นางถือไม้หวายในมือแกว่งไปมาพร้อมจ้องมองไปยังเบื้องหน้ารอท่าให้ลูกชายทั้งสี่เดินเข้ามาในบ้าน

“เก...นายเป็นพี่รีบไปก่อนใครเลย แม่จ๋าถือไม้หวายรอแล้วนั่น” สากรรจ์ผลักแฝดผู้พี่ให้เดินนำหน้าตัวเอง และทุกคนก็เหมือนจะรวมใจกันเดินตามหลังพี่ชาย ยิ่งได้เห็นหน้าของผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่ใกล้คนเป็นแม่ก็ยิ่งรู้ว่าตอนนี้คงโดนฟาดก้นซ้ำแน่นอน

“แม่จ๋า...” สาเกเอ่ยเสียงหวานรีบเดินเข้าไปจะโอบกอดคนเป็นแม่ แต่แล้วก็ต้องหยุดกึกเมื่อไม้หวายในมือตวัดมาโดนแขนของเขา

โอ๊ย!

“ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวานอ้อนเลย มายืนเรียงหน้ากระดานเดี๋ยวนี้ทุกคน” เสียงแหบพร่าตามวัยของพร้อมเพชรเอ่ยสั่งพร้อมกับตวัดสายตาดุมาทางสามีไม่ให้เข้ามายุ่ง

“ครับผม” แฝดนรกรีบยืนเรียงหน้ากระดานกันทันที เรียงลำดับจากสาเก สาโท สาหัส และสุดท้ายน้องเล็กสากรรจ์

“เจ้าสัวห้ามเลยนะ ห้ามช่วยแฝดนรกเด็ดขาด ถ้าช่วยนะโดนฟาดแน่” นางหันมาขู่สามีแล้วหันมามองหน้าลูกชายทั้งสี่ของตัวเองทีละคน

“ไหนบอกมาซิ ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่อง”

“ไอ้กรรจ์ชวนครับแม่จ๋า” สาหัสรีบชี้มือโบ้ยไปยังน้องคนเล็กทันที

“เฮ้! ไอ้หัส...พะ...พี่หัสต่างหากชวนครับแม่จ๋า” รีบเปลี่ยนเป็นคำสุภาพทันทีเมื่อสบประสานสายตากับคนเป็นแม่ที่จ้องเขม็งมา