ตอนที่5 ดูเนื้อดูหนัง
วิวาห์ออกจากห้องนอนมาในช่วงสายของวันหลังจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต้องบอกเลยว่าเมื่อคืนเธอหนักหน่วงแค่ไหน แข้งขาเธออ่อนแรงจนแทบจะล้มทั้งยืนก็ว่าได้ แต่เธอก็ยังลุกออกมาเพื่อหาอะไรกินจากความหิวของตัวเอง
เมื่อเธอผลักประตูห้องนอนออกมาก็เห็นผืนป่าที่อยู่ในกางเกงนอนขายาวตัวเตียวโชว์ร่างกายแข็งแกร่งช่วงบนของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแดงจากเธอ เขาที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่กับจอไอแพดของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงประตูที่เธอเปิดออก
“มากินข้าวสิฉันสั่งไว้ให้แล้ว” เขาที่สั่งอาหารไว้หลังออกจากห้องนอนมารอไว้ให้เธอพูดขึ้น
“.....” วิวาห์ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรเดินตรงไปยังโต๊ะกินข้าวที่มีฝาปิดอาหารครอบอยู่
พอเปิดออกมาก็เห็นว่าเป็นต้มจืดกับปีกไก่ทอดง่ายๆโดยมีข้าวสวยสองจาน
“น่าจะเย็นแล้วเดี๋ยวฉันเอาไปอุ่นให้” ผืนป่าลุกขึ้นมาโดยที่วิวาห์ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาด้วยซ้ำ มารู้อีกทีก็ตอนเขาหยุดซ้อนด้านหลังของเธอพร้อมกับพูดขึ้นและหยิบจานอาหารเดินไปที่โซนครัว
“.....” วิวาห์มองร่างสูงของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าคนรักของเธออยู่แบบนั้นเงียบๆ มองความย้อนแย้งที่เขาชอบทำให้เธอสับสนจนไม่รู้ว่าเป็นเธอเองหรือเปล่าที่คิดมากไป
ขอเธอคบ แต่บางครั้งก็ดูละเลยและไม่สนใจความรู้สึกเธอ
กลับกันบางครั้งก็ดูแคร์เธอและห่วงใยเธอไม่น้อย
และเธอก็ดันทั้งรักและสับสนกับเขาไปพร้อมๆ กันอย่างบ้าบอด้วยเหมือนกัน
“อยากให้ป้อน?” เขาเดินกลับออกมาพร้อมกับถ้วยต้มจืดแล้วเลิกคิ้วถามเธอขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่มองเขา
“สั่งข้าวมาสองจานแล้วทำไมพี่ป่าไม่นั่งล่ะ” วิวาห์ปรับสายตาของเธอแล้วถามขึ้นทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ค่อยชอบกินของหนักในมื้อเช้าเท่าไหร่
“เมื่อคืนเธอใช้แรงเยอะกลัวกินไม่พอเลยสั่งมาสองจาน” เขาดื่มกาแฟไปแล้วและมันก็อยู่ท้องแล้ว
“พี่ป่าก็ใช้แรงไปเหมือนกัน กินด้วยกันสิคะ” เธอไม่อยากคิดลึกกับคำพูดของเขาแต่ก็ยังย้อนคำพูดของเขากลับไปเพื่อชวนเขากินข้าว
“แลกกับอะไร” คำถามดังขึ้นอย่างราบเรียบตรงข้ามกับสายตาที่ปรากฎแรงปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง
“ไม่กินก็ช่างสิคะ คนหิวคือพี่ป่าเองนี่” แลกกับอะไรอีกล่ะในเมื่อเขากัดกินเธอจนไม่มีอะไรจะแลกแล้ว
เมื่อพูดจบเธอก็ตักต้มจืดใส่จานของตัวเองแล้วเริ่มลงมือกินโดยมีผืนป่านั่งอยู่ตรงข้ามมองเธอไม่ละสายตาด้วยสายตาราบเรียบ
“หิวหรอคะ” วิวาห์ที่รู้ว่าตัวเองถูกมองอยู่ตลอดก็เงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขาแล้วถามกลับไปอย่างไม่ค่อยเขินอายเหมือนตอนแรกๆที่ถูกเขามองแล้ว
“หิว” เขาตอบรับออกมาอย่างไม่ปิดบัง แต่สายตาของเขาก็ไม่ปิดบังด้วยเช่นกันว่าหิวอะไร
“หิวก็กินค่ะ” วิวาห์ตักน้ำแกงและหมูสับหนึ่งชิ้นใส่ช้อนตัวก่อนจะจ่อไปตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นราวกับไม่รู้ว่าหิวของเขาหมายถึงอะไร
“มาป้อนตรงนี้สิ” เขาเรียกเธอขึ้นอย่างไม่อ้าปากรับอาหารตรงหน้า
“ไม่ค่ะ” เธอชักมือกลับปฏิเสธเขาแล้วกินเอง
“หรือจะให้ไปหาเอง” มันคือคำขู่ของเขา และถ้าเขาได้ขู่แน่นอนว่าคำร้องขอของเธอในอนาคต(ไม่กี่นาทีข้างหน้า)จะไร้ประโยชน์
“.....” วิวาห์บึนปากขึ้นอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ แต่เธอก็ยกจานข้าวของตัวเองลุกไปหาเขา ดันจานข้าวอีกใบที่ยังไม่ได้กินออกวางจานของตัวเองแทนที่ลงไปและนั่งหันข้างลงตักเขา
“หึ!” เขาแค่นเสียงอย่างพอใจยกมือขึ้นตวัดกอดเอวคอดกิ่วของเธอไว้
“กินข้าวค่ะ” วิวาห์บอกเขาเสียงแข็งเล็กน้อยตักกับข้าวใส่ช้อนและหันไปป้อนให้เขา บอกให้รู้ว่าเธอขอเวลากินข้าวก่อน และถ้าเขาหิวมากก็กินข้าวไปก่อน
“.....” ครั้งนี้เขายอมให้เธอด้วยการอ้าปากรับข้าวในช้อนอย่างไม่หาเรื่องอะไร นั่นทำให้วิวาห์พ่นลมหายใจออกมาอย่างเบาใจและหันมากินตัวเองบ้างก่อนจะสลับหันไปป้อนเขาอยู่แบบนั้นจนข้าวหนึ่งจานหมดลง
วิวาห์เก็บจานไปล้างแม้ว่าจริงๆแล้วไม่ต้องล้างเพราะเดี๋ยวตอนเย็นแม่บ้านของคอนโดจะขึ้นมาเอาแต่เธอก็ล้างทุกครั้งที่สั่งมากิน
พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยวิวาห์ก็ออกจากโซนครัวมาหมายจะเข้าห้องไปพักผ่อนและทิ้งระยะห่างกับผืนป่าสักสี่ห้าชั่วโมงป้องกันเขากัดกินเธออีก แต่เขาก็ดักทางเธอไว้อย่างรู้ทัน
“มาดูหนังด้วยกันสิ” เขาเรียกเธอขึ้นพร้อมกับมุมปากที่เหมือนจะยิ้มไม่ยิ้ม
“วาห์อยากไปนอน” คนอันตรายแบบนี้อย่าได้ไว้ใจล่ะ คำว่าดูหนังของเขาน่ะดูได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรอก ที่เหลือดูเนื้อดูหนังแทน
“มานอนตรงนี้” คำพูดที่แฝงการสั่งดังขึ้นอย่างติดนิสัยของผู้ชอบออกคำสั่งจนเคยชินไปแล้ว
“.....” วิวาห์มองหน้าเขาอย่างไม่ไว้ใจและกำลังชั่งใจกับตัวเองว่าจะทำยังไงระหว่างเข้าห้องหรือเข้าหาเขา
“วิวาห์” คำเรียกขานด้วยชื่อเต็มของเขาคือการเตือนครั้งที่หนึ่งอย่างที่เธอเข้าใจดีที่สุด
“.....” สุดท้ายวิวาห์ก็เดินทิ้งส้นเท้าแรงๆไปหาเขาที่โซฟาอย่างไม่อยากถูกลงโทษ
แม้ว่าห้องนี้มันกว้างใหญ่และมีหลายห้องให้เธอซ่อนได้ แต่เธอซ่อนเขาได้หรือไง แค่เธอต่อต้านด้วยกันหมุนตัวเพื่อไปห้องขายาวๆของเขาก็สามารถก้าวมาถึงตัวเธอได้ทันก่อนถึงประตูแล้ว
คนอย่างเขาต่อต้านได้แต่เราต้องรู้จักดูจังหวะเวลาของตัวเองด้วย ทำสุ่มสี่สุ่มห้ามีแต่ตัวเองนี่แหละที่จะสาหัสอยู่ใต้ร่างของเขา
“เด็กดี” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบยกมือขึ้นพาดโอบไหล่เธออย่างแนบชิดพร้อมกับมืออีกข้างที่กดเปลี่ยนช่องหาหนังที่เขาต้องการ
และหัวใจของเธอก็เต้นระรัวขึ้นมาทันทีเมื่อเขามาหยุดที่หนังสัญชาติโปแลนด์เรื่องหนึ่งที่เป็นกระแสฮ็อตฮิตอยู่ช่วงหนึ่ง หนังเรท 18+ ที่มาเฟียหนุ่มหล่อล่ำจับหญิงสาวมาทำให้รัก
หนังที่เธอรู้ดีเลยว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงเธอจะไม่ต่างจากนางเอกในเรื่องที่ถูกพระเอกหื่นกระหายกัดกินอย่างดุเดือดอยู่ใต้ร่าง
และมันก็ไม่ผิดจากที่วิวาห์คิดไว้เลยสักนิด สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงนอนครวญครางอยู่อย่างนั้นจนเสียงแหบแห้ง กระทั่งเสียงของเธอขาดหายจากการหลับใหลไปอย่างสิ้นแรง