บทที่ 2-2 กางกรงเล็บ
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
“มีธุระอะไรก็รีบพูดมา”
“อัฐิของคุณพ่อยังอยู่ที่วัดค่ะ”
“แล้วไง ถ้าจะมาขอเงิน คราวหลังให้ติดต่อผ่านทนายของฉัน” คุณลุงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเห็นใจเจือปน ส่วนทอปัดมีรอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
“วางใจเถอะค่ะ ดิฉันแค่แจ้งให้ทราบ มิได้มาเรียกร้องอะไร แต่มาเสนอธุรกิจต่างหากค่ะ”
นายสุวิทย์ยังคงไม่ขยับเขยื้อนส่วนใดนอกจากริมฝีปาก “เลขาของฉันบอกว่ามีคนต้องการซื้อที่ดิน”
“ค่ะ คุณลุงไม่สะดวกใจหรือเปล่าค่ะ”
“ใครเป็นคนซื้อ”
“ดิฉันเองค่ะ”
“เธอ?”
“ค่ะ จะไม่เชิญดิฉันนั่งลงและเสิร์ฟเครื่องดื่มหน่อยหรือคะ”
“ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ไปหาเพื่อนเล่นที่อื่น”
“ได้ยินว่าคุณลุงกำลังพยายามขายตึกเก่าย่านสุขุมวิท และบังเอิญจริงๆ ค่ะที่ดิฉันกำลังมองหาทำเลสวยๆ สักแห่ง”
ทันทีที่เธอพูดจบ ลุงหัวเราะเยาะ บอกว่านี่คือเกมของผู้ชาย ไม่ใช่เรื่องที่เด็กสาวอายุสิบแปดจะแทรกเข้ามาทำตัวโอ่อ่าต่อหน้าเขาได้ และทำเลตรงนั้นถือเป็นไข่มุกเม็ดงามของบริษัท และมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท ทอปัดถือวิสาสะนั่งลง ตาจ้องตา
“ออกไปซะ ฉันไม่คุยกับคนช่างเพ้อที่ไม่มีเงิน”
“การทำอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มต้นด้วยการใช้เงินคนอื่นนี่คะ”
ลุงชะงักนิ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมา “ตึกหลังนั้นยังสร้างรายได้ให้ฉันได้มากอยู่”
โกหก... ตึกนั่นร้างมาเกือบห้าปีแล้วเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ทอปัดเดินทางไปสำรวจทำเลมาทั้งหมดแล้ว และอีกเหตุผลก็คือตึกเก่านั้นเป็นตึกแรกที่เธอเป็นคนตั้งชื่อ คุณลุงเริ่มรู้สึกได้ถึงแววตาคมกริบน่ากลัวของเธอ แต่เมื่อมองดูให้ดีๆ อีกครั้ง เธอก็ยังเป็นแค่เด็กสิบแปดอวดดีที่กำลังยิ้มแย้ม
“ฉันตีราคาขายตึกพร้อมที่ดินนั้นไว้หนึ่งพันล้านบาท ค่าทุบและรีโนเวทอีกไม่ต่ำกว่าห้าร้อยล้าน แล้วใครล่ะที่เป็นเจ้าของเงินทุน”
“เจ้าหนี้เก่าของคุณพ่อไงคะ”
คราวนี้ลุงเป็นฝ่ายกะพริบตา “หมายความว่าเธอจะกลับไปขอกู้ซื้อตึกและที่ดิน ทั้งๆ ที่พ่อของเธอฆ่าตัวตายหนีหนี้เขาไปแล้วงั้นหรือ”
“ถูกต้องค่ะ และนั่นต้องใช้ทีมงานสถาปนิกวางแบบแปลน ทีมผู้รับเหมาและตัวเลขทางการตลาดเพื่อนำไปใช้สำหรับยื่นกู้ คุณลุงถึงเป็นตัวเลือกแรกของดิฉันไงคะ” ทอปัดยิ้ม มีอะไรบางอย่างในน้ำเสียงและแววตาที่บ่งบอกว่าเธอทำได้อย่างที่พูดและจะไม่ยอมให้มีอะไรมาขัดขวาง คุณลุงที่รักจึงชั่งน้ำหนักในใจ คิด... คิด... แล้วก็คิด ถ้าหากขัดขาให้ยัยเด็กนี้ล้มเหลว ก็เท่ากับว่าเขาจะขายอาคารเก่าร้างนั่นโดยที่โขกราคาค่าก่อสร้างได้อีกต่อ
คิดดูแล้วเขามีตึกและที่ดินตกค้างที่ขายไม่ออกอยู่หลายแห่ง สู้ปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นหนังหน้าไฟ ตระเวนกู้เงินมาซื้อตึกเน่าๆ ของเขาให้หมด และเมื่อมันถูกบีบจนตรอกแบบพ่อของมันเมื่อไรก็ค่อยเขี่ยทิ้ง นังเด็กนี่โง่แล้วอวดฉลาดเหมือนพ่อมันไม่มีผิด
“ไม่มีแหล่งเงินทุนที่ไหนให้เด็กที่เพิ่งจบมัธยมกู้หนึ่งพันล้านบวกค่ารีโนเวทหรอกนะ”
“ถ้าไม่มี ดิฉันคงไม่มาหรอกค่ะ”
“รู้ไหม พ่อของเธอล้มก็เพราะกู้เงินแบบนี้”
“รู้สิคะ แต่ดิฉันไม่เหมือนคุณพ่อหรอกค่ะ เสี่ยงมากก็กำไรมาก ดิฉันก็แค่กล้าเสี่ยงกว่า” ทอปัดสบตา รู้ด้วยสัญชาตญาณว่าบรรลุข้อตกลงแล้ว ต่างฝ่ายต่างยิ้ม สุวิทย์เนื้อเต้นด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีเหยื่อเข้ามาเสนอตัวเป็นหนี้ให้แทนถึงที่แบบนี้ หลังจากเรียกประชุมคุยตกลงรายละเอียดและตั้งทีมทำงานเสร็จ เขาก็เอ่ยถามหลานสาวด้วยท่าทีแตกต่างไปจากเดิม เหมือนกับว่าส่วนลึกในใจเริ่มกลัวเด็กคนนี้
“ทำไมถึงเลือกที่นี่”
“กิตติธารา ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป มุ่งมั่นเลือกทำเลที่มีศักยภาพทั้งการคมนาคม แหล่งงานย่านธุรกิจ และมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งแนวสูงและแนวราบ ทรัพย์สินให้เช่า ทั้งพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย และดำเนินกิจการธุรกิจพาณิชย์ แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ดิฉันจะไม่เลือกที่นี่ล่ะคะ”
และดิฉันจะกัดกินไม่ให้เหลือ... เธอพูดต่อในใจก่อนจะหันหลังจากไป