บทที่ 12 ขึ้นรถมันง่าย แต่ถ้าจะลงคงยาก
บทที่ 12 ขึ้นรถมันง่าย แต่ถ้าจะลงคงยาก
“ ร่วมมือกับผม ทำเรื่องเมื่อคืนให้จบ “
โห้หลีเฉินพูดอย่างไม่เกรงใจ น้ำเสียงดูเด็ดเดี่ยวจะทำให้ได้
เป็นเรื่องนี้อีกจริงซะด้วย ความหวังเสี้ยวนึงในใจเธอได้ดับลง
เธอมองหน้าเขาแล้วพูดอย่างปากแข็ง “ คุณโห้คะ พรุ่งนี้ฉันจะส่งโครงสร้างออกแบบมาให้คุณแน่นอนค่ะ
“พูดจบ เธอไม่กล้าหันไปมองเขาอีก รีบเก็บของตัวเองอย่างเร็ว “ ฉันขอกลับก่อน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ ”
เธอไม่กล้าอยู่กับเขาในห้องนี้สองต่อสอง หยิบกระเป๋าตัวเองแล้ววิ่งหายไปเลย
ตอนเธอเดินออกมาถึงประตูบริษัท กลับเห็นฝนเม็ดใหญ่เท่าเมล็ดถั่วตกลงพื้นไม่หยุด
ทั้งลมพัดทั้งฝนตกพัดเข้ามาหาเธออย่างแรง อยู่ๆเธอก็หนาวสั่นขึ้นทันที รีบมองไปข้างนอก ไม่เจอแท็กซี่สักคัน
ผ่านมาเลย อากาศที่เร็วร้ายแบบนี้ คนขับแท็กซี่ก็คงเลิกงานกลับบ้านกันหมด เพื่อนๆที่ทำงานก็กลับไปหมด
เธอไม่พบร่มมาด้วย ตอนนี้ เธอคงได้แต่ต้องวิ่งตากฝนไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟใต้ดินที่อยู่ห่างหลายร้อย
เมตร ......
เธอลังเลอยู่สักครู่ มองไปฝนที่ตกอยู่ข้างหน้า เธอกัดฟันแล้วรวบรวมความกล้าจะวิ่งฝ่าสายฝนไป
ในเวลานั้น มีรถลัมโบร์กีนี่รุ่นลิมิเต็ดขับมาจอดอยู่ตรงหน้าเธอ หน้าต่างบานข้างหลังค่อยๆเปิดลงมา เห็นหน้าที่
หล่อเหลาทำให้คนเกือบจะหยุดหายใจของโห้หลีเฉินปรากฏออกมา เขามองหน้าเธอ ริมฝีปากบางค่อยๆขยับ
“ ขึ้นรถ “
เธอยืนอยู่กับที่ไม่ได้ขยับตัว รู้สึกลังเล ถ้ามีคนแวะไปส่งมันก็ดี แต่เธอไม่ค่อยกล้าขึ้นรถของเขาไปสักเท่าไหร่
โห้หลีเฉินเม้มปากริมฝีปากบางของเค้า สายตาที่จ้องเธอดูจะอันตราย
“ ทำไม ผมดูน่ากลัวขนาดนั้นเลย ? “
“ ไม่ใช่ค่ะ “
เธอรีบปฏิเสธพูด ถึงเขาจะน่ากลัวจริง เธอก็ไม่กล้าพูดต่อหน้าเขาโดยตรง
เธออ้ำอึ้งอยู่สักครู่ ก็เดินขึ้นรถไป “ ต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ “
พอเธอขึ้นรถ ทั้งตัวที่เปียกฝนของเธอ ก็ทำเบาะหนังบนรถเปียกเลอะไปด้วย หน้าเธอแดงขึ้น และรู้สึกเกรงใจ
เธอพยายามนั่งให้ชิดฝั่งประตู “ มีทิชชูมั้ยคะ ? “
โห้หลีเฉินที่นั่งอีกฝั่งร่างที่สูงใหญ่ ทำให้ในรถดูแคบไปเลย
ไม่รู้ว่าเขาไปเอาผ้าขนหนูสีขาวมาจากไหน ยื่นให้เธอไป
“ ขอบคุณค่ะ “
เธอรีบรับมา แล้วเอาไปเช็ดเบาะนั่งที่เธอทำเปียก
ตอนเห็นท่าทีของเธอแล้ว เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วหยิบผ้าขนหนูมาอีกผืนยื่นให้เธอไป
เขาพูดขึ้นเสียงต่ำ “ เช็ดตัวคุณให้แห้ง “
นั่งรถคนอื่นแล้ว ยังหาเรื่องมาให้ เธอรู้สึกเกรงใจมาก
เธอใส่หัวปฏิเสธ “ ไม่เป็นไรค่ะ คุณส่งฉันลงที่สถานีรถไฟใต้ดินก็พอค่ะ “
จู่ๆเขาก็ใกล้เธอเข้ามา เอาผ้าขนหนูวางที่หัวเธอ ท่าทีดูเผด็จการและไม่อาจปฎิเสธ
“ จะให้ผมช่วยคุณเช็ดใช่มั้ย ? “
เธอตกใจรีบถอยติดประตู เธอแตกตื่นทำอะไรไม่ถูกมองหน้าชายที่อยู่ตรงหน้า
“ ฉัน ..ฉันเช็ดเองค่ะ “
เธอได้ยกมือแล้วรีบไปจับผ้าขนหนูไว้ ท่าทางเร่งรีบ เธอไม่ทันระวังแล้วไปจับโดนมือเขาที่วางอยู่บนหัวของเธอ
ผิวของเค้ารื่นและร้อนมาก จับแล้วรู้สึกสบาย ........
เธอรีบเตือนสติตัวเองที่กำลังคิดฟุ้งซ่าน แล้วรีบดึงมือของตัวเองออก
แววตาของเขามืดลงนิดๆ จ้องเธออยู่ แววตาดูซับซ้อน มือเธอที่แตะโดนเขาเมื่อกี้ มันเย็น แต่เหมือนมีไฟกำลังวิ่ง
ผ่านตัวของเขา ทำให้หัวใจเขาเต้นเร็วแปลกๆขึ้น
เธอถูกเขาจ้องจนเธออึดอัดไม่สบายตัว เธอเลยหันหน้าไปมองข้างนอกทางกระจกรถ
เธอเห็นสถานีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านในกระจก เธอเลยรีบพูดขึ้น “ เลขาเว่ย จอดรถให้ฉัน ฉันลงตรงนี้ก็พอ “
“ ขับต่อไป “
โห้หลีเฉินพูดปฏิเสธคำขอของเธอโดยตรง เขาก็ไม่ได้คิดจะปล่อยเธอลงอยู่แล้ว