ตอนที่ 2 ไปงานแต่ง
เสียงเคาะประตูข้างนอกดังขึ้น ชายหนุ่มนั่งด้วยท่าทีน่าเกรงขาม หญิงสาวอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ เวลาเธอนั่งจะมองเห็นเต้างาม ๆ โผล่พ้นมาให้เห็นแวบ ๆ เมื่อคืนเขากับเธอเล่นบทรักกันหลายรอบ ดังนั้นแม่สาวสวยคนนี้จึงได้เจ็บปวดกลางกายสาวเข้าให้ ไม่บอกก็รู้สดซิงขนาดนี้ ใบหน้าของเธอขาวซีดเพราะพักผ่อนน้อย
“นี่คุณไปเปิดประตูสิ” จะให้เธอออกไปเปิดประตูสภาพแบบนี้ได้ยังไงกัน หากใครมาเห็นเข้า มีหวังได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่ ๆ เธอจึงได้นั่งลงบนเตียงนอนรอชายหนุ่มไปเปิดให้ เขาไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย ขนาดเธอพยักพเยิดให้อีกฝ่ายลุกไปเปิดประตู ยังชักสีหน้าส่งกลับมาให้เธออีกต่างหาก
“จะบ้าเหรอ เรื่องอะไรเธอก็เปิดสิ” เกิดมาเพิ่งจะเจอผู้หญิงบ้า ๆ แบบนี้ครั้งแรก ยังจะมามีหน้าออกคำสั่งอีก เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ตระกูลจ้าว เธอกลอกกลิ้งตาไปมา ทำท่าจิ๊ปากบ่นอุบอิบอยู่นั่น จนเขาต้องพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่พอใจ
แต่ทว่ายัยคนสวยกลับส่งสายตาขวางปาค้นมาให้เขาอีก เขาจึงได้ตัดสินใจเดินออกไปเปิดประตูด้วยความไม่พอใจ เกิดมาเพิ่งจะเคยพบเคยเจอ ที่เปิดประตูให้ก็เพราะหล่อนสะสวยหรอกนะ
“ชุดมาแล้วครับคุณชาย” คนสนิทเขากล่าวขึ้นมา พร้อมกับชุดเดรสสีชมพูกลีบบัว เมื่อหล่อนเห็นเข้าให้ ตาลุกวาวทันที เดินสาวเท้ามาพลางหยิบชุดขึ้นมาเชยชม หน้าระรื่นอย่างเห็นได้ชัด เธอคลี่ยิ้มหวานดวงตาเป็นประกายวาววับน่าค้นหา ใบหน้าสะสวยงดงามขึ้นสีเลือดฝาดเพียงแค่เธอแย้มยิ้มเท่านั้น
‘ผู้หญิงคนนี้น่าดึงดูดขนาดนี้เชียว’ เขาคิดอยู่ในใจ
“แพงน่าดู เนื้อผ้าดีมาก ๆ” เธอเชยชมสมใจ เขาเผลอหัวเราะเบา ๆ กับท่าทางตลกพิลึกพิลั่น จากนั้นเธอจึงเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำไม่นาน ชุดสวย ๆ ถูกสวมใส่โดยหญิงสาว เมื่อเธอเดินออกมาทำให้อีกฝ่ายตกตะลึงพึงเพิดเข้าให้ กับความงดงามดุจเจ้าหญิง ผิวพรรณขาวนุ่มนวล ใบหน้าเรียวเล็กจมูกโด่งคิ้วสวยยาวรับเข้ากับดวงตากลมโตดูสดใส
“นี่นายเรื่องของเราช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะ” เธอพูดขึ้น สีหน้าเหมือนไม่ติดใจอะไร แต่...นั่นครั้งแรกของเธอนะและเต็มใจกับอีกฝ่ายก็ตามทีเถอะ แต่เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วจะให้ทำยังไงได้
ชายหนุ่มหันเหสายตามองมาที่เธออย่างกังขา ปกติแล้วผู้หญิงส่วนมาก มักจะเรียกร้องให้ผู้ชายรับผิดชอบ แต่เธอไม่ มันน่าแปลกที่สุดเท่าที่เคยผ่านผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้า อีกอย่างเธอยังบริสุทธิ์ไร้ราคีใด ๆ อีกด้วย เขาสำรวจรูปร่างสัดส่วนของเธอผ่านทางสายตาคมกริบ นึกถึงว่าเขาสัมผัสส่วนใดของเธอบ้าง พอคิดถึงกลางกลายขึงเคียดขึ้นมาทันใด
“นี่นายอย่ามองแบบนี้ได้ไหม” เพราะสายตาของเขาทำให้เธอนึกหวาดกลัวขึ้นมา เขาดูมีทีท่ายิ่งยโส สายตาเย็นยะเยือกชวนขนลุกอีกอย่างเขาดูเหมือนเสือผู้หญิงท่าทางแบดบอยอีกด้วย ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเปรียบเทียบ
“บ้านเธออยู่ไหน” เขาใจดีจะไปส่ง เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้นั่งรถไปกับเขา มีเพียงแค่ผู้หญิงที่เขารักเท่านั้น แต่ผู้หญิงคนนี้คือข้อยกเว้น เห็นว่าเธอสะสวยดีหุ่นพอเหมาะพอดีและยังสดใหม่อีกต่างหาก คิดจะควบเล่น ๆ คร่าเวลาก็คงดีไม่น้อย
“ทำไมฉันต้องบอกคุณ” เจียวอิงหมุนตัวไปมา เพราะชุดนี้ทำให้เธอดูสวยสดกว่าทุกครั้ง ราคาคงแพงน่าดู “นี่ขอยืมเงินหน่อยสิ กระเป๋าเงินฉันหายน่ะ แล้วอีกอย่างวันนี้พี่สาวของฉันแต่งงาน” พูดถึงก็หดหู่ใจชะมัด
ดวงหน้าของเธอเศร้าสลดลงมา เมื่อนึกถึงเขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นพี่เขยของเธอแล้ว ลู่เจียวอิงทำได้เพียงแค่เดินไปที่หน้าต่าง เงยหน้ามองบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาแทนที่จะสดใสและร่วมยินดีกับคู่แต่งงาน แต่เธอมีแต่ความโศกสร้อยอยู่ในดวงตาคู่หวาน
“ได้สิ” เขาเหยียดยิ้มขึ้น ในที่สุดก็เผยธาตุแท้ออกมาจนได้ จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ไม่ต้องการเงิน และต่อไปแผนของเธอคงจะต้องให้เขารับผิดชอบแน่ ๆ ลูกไม่ตื้น ๆ แค่นี้ทำไมจะมองไม่ออก “อยากได้เท่าไหร่ล่ะ” เขาถามขึ้นมาเจตนานั้นดูเหยียดหยามเธอผ่านทางคำพูด
เจียวอิงไม่ยิ้มแย้ม ใบหน้าของเธอเรียบเฉยและไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ “ขอแค่ค่าแท็กซี่ก็พอค่ะ ฉันจะต้องไปโรงแรม”
“ถ้าเธออยากฉันจัดให้เธออีกรอบก็ได้นะ ไม่เห็นจะต้องไปที่อื่นให้ยุ่งยาก” เขาแสยะยิ้มขึ้นมาอย่างเจตนาหวังสิ่งที่พึ่งพูดไป ยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ดึงดูดเขาเข้าให้ คิดจะควงเธอเล่น ๆ เบื่อก็โยนทิ้งมอบเงินให้สักเล็กน้อย น่าจะพอใจ
“ไอ้บ้าฉันจะไปงานแต่งพี่สาว” เจียวอิงเกิดมาเพิ่งเคยพบคนพูดจาแบบนี้ สองแง่สองง่ามฟังดูแล้วน่าชวนแพ่งกบาลเข้าให้สีกทีสองที แค่เมื่อคืนนี้ก็สุดจะกล้ำกลืนแล้ว
เธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ
“ในสภาพแบบนี้” เขาเหลือบตามองชุดของเธอ เดรสชมพูกลีบบัวเสมอเข่า เห็นเรียวขาขาว ๆ นั่นก็นึกอยากลูบไล้ เมื่อคืนเหมือนไม่หนำใจ แต่ก็หลายยกและเธอก็สลบไปในยกที่สอง ว่าแต่ใครกันที่ใส่ยาบ้า ๆ นั่นให้เขากินจนเกิดกำหนัดขึ้นมา หรือว่าเป็นผู้หญิงคนนี้
“ชุดนี่ก็สวยดี ราคาก็แพง เอาไว้ฉันจะจ่ายคืนให้นะ แต่ตอนนี้เอาเงินมาให้ฉันยืมก่อนแล้วเอาเบอร์โทรด้วย” แม่นางร้ายกล่าวขึ้นมา ยืนแบมือขอเงินผู้ชายที่นอนด้วยเมื่อคืน แม้จะมีก้อนแห่งความขมขื่นและก้อนแห่งความอัปยศนั่นและเธอก็เลือกกลืนมันลงไปในที่สุด
“เธอจะไปโรงแรมอะไร ฉันจะไปส่ง” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนทันที มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปอยู่ในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าค่อนข้างคมคายหล่อเหลา และสมส่วนเป็นอย่างดี สวมชุดดูหรูหราราคาแพงหูฉี่ ต่อให้เธอทำงานสิบปีก็ไม่กล้าซื้อชุดแพง ๆ ขนาดนี้ใช้
เขาดูเท่สุด ๆ
“ขอบคุณมากค่ะ” คำพูดของเธอดูนอบน้อมก่อนจะแจ้งว่าเธอต้องการไปโรงแรมในเมืองหลวง เพราะเป็นสถานที่แต่งงานของคู่บ่าวสาวที่เธอนึกอิจฉา พลันเมื่อเปิดประตูห้องออกมา ก็พบว่ามีสตรีคนหนึ่งยืนอยู่และยื่นกระเป๋าเงินให้เธอ
“ของคุณลู่ค่ะ ทำตกไว้เมื่อคืน” ผู้หญิงคนนี้รีบยื่นกระเป๋าเงินให้ และสำรวจมองผิวพรรณคร่าว ๆ ผ่านทางสายตา มาสะดุดบริเวณซอกคอขาวระหงนั่นมีรอยจ้ำ ๆ สีแดงสามสี่แห่ง เนินหน้าอกมีบ้างเล็กน้อย เธอยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะกล่าวกับชายหนุ่มเบื้องหน้าของหล่อน
เจียวอิงอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ดีที่ไม่มีคนเดินแถว ๆ นี้ มิเช่นนั้นเธอได้ข่าวเพิ่มขึ้นมาอีกแน่ ๆ นางร้ายอย่างเธอจะสู้นางเอกเจ้าน้ำตาได้ยังไงกัน มีแต่คนตราหน้าเธอทั้งนั้นเป็นผู้หญิงไร้ยางอายคิดยั่วว่าที่สามีพี่สาว เธออยากจะตะโกนออกไปจริงว่า ฉันกับเขาเรารักกันต่างหาก สุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นก็ไม่เลือกเธอเพียงแค่เพราะเธอเป็นลูกคนรับใช้ ลูกนอกทะเบียนสมรส
“คุณชายใหญ่คุณผู้หญิงให้รีบกลับบ้านหลังจากเสร็จธุระแล้วค่ะ” ผู้หญิงคนนี้เป็นมือขวาและเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งของมารดาจ้าวหยางเฉิน นักธุระชื่อดัง และไม่เคยมีข่าวพาดหัวใด ๆ ทั้งสิ้น
“รู้แล้ว” เขาพยักหน้าแล้วยังออกคำสั่งอีกครั้ง “จะต้องพาเธอไปงานแต่งที่โรงแรมเฉินตู” นั่นเป็นโรงแรมของเครือตระกูลจ้าว
“งั้นฉันจะบอกคนขับรถให้ค่ะ” เธอกล่าวขึ้นแล้วจึงได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมา กดไปยังชื่อของใครบางคนไม่ถึงอึดใจ พวกเขาทั้งสามเดินมาแล้วลงลิฟต์ ด้านหน้าพบรถยนต์คันหรูหราราคาหลายสิบล้านก็ว่าได้ หญิงสาวตาลุกวาว
“เกิดมายังไม่เคยนั่งรถแบบนี้สักครั้ง นับว่าวันนี้ก้นของฉันมีโชคหล่นทับแล้ว” เธอกล่าวขึ้นมาหลงลืมไปสิ้นว่าเธอยังเศร้าใจเรื่องของชายคนหนึ่ง
จ้าวหยางเฉินไม่บอกว่าตนเองเป็นใคร ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่บอกด้วยเหมือนกัน พวกเขาทั้งสามขึ้นรถมามุ่งหน้าไปยังโรงแรมเฉินตูเพียงแค่ห้ากิโลก็ถึงจุดหมาย รถยนต์ของแขกเหรื่อมากมายต่างทยอยเข้ามาจอดเทียบ ส่งผู้ร่วมงานจากนั้นจึงไปจอดเอาไว้ด้านหลัง
หญิงสาวลงจากรถโดยมีคนขับเปิดประตูให้ เพียงแค่เธอก้าวลงมานักข่าวทั้งหลายต่างพากันมารายล้อมเธอเต็มไปหมด จ้าวหยางเฉินขมวดคิ้วมุ่น กล่าวถามขึ้นมากับผู้ช่วยของมารดา “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”
“คุณชายใหญ่เธอคือนักแสดงของบริษัทที่เราร่วมลงทุนค่ะ อีกอย่างรับบทเป็นนางร้าย มักจะมีข่าวฉาวบ่อย ๆ” เธอกล่าวขึ้นแค่นั้น พื้นเพเบื้องหลังเพิ่งได้ข้อมูลมาก่อนหน้านั้นไม่ถึงสิบนาที มารดาของเธอเป็นสาวใช้ เป็นลูกนอกทะเบียนของตระกูลลู่
“ข่าวฉาวเหรอ” เขากล่าวขึ้น
“ส่วนมากจะเป็นเรื่องผู้ชายค่ะ”