บทย่อ
เพราะความมึนเมาเป็นเหตุ ทำให้แม่ดาวร้ายดาวยั่วพลาดพลั้งเสียท่า จึงจำเป็นต้องจดทะเบียนภายใต้เงื่อนไขสัญญา แต่ทว่าเมื่อเธอกับเขาอยู่รวมบ้านกัน ทำไมคนเย็นชาไร้ใจ มันถึงได้หื่นได้ขนาดนี้นะ เรื่องย่อ สะดุดรักยัยนางร้าย ลู่เจียวอิง บังเอิญว่าเมาหนักไปจนทำให้เกิดเรื่องงามหน้าขึ้นมา แม่นางร้ายดาวยั่วข่าวเหม็นเน่าไปทั่ว จึงต้องจำใจจดทะเบียนกับผู้ชายที่เพิ่งนอนด้วยกัน จ้าวหยางเฉิน จำใจต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงหน้าด้านคนหนึ่งเพราะคำสั่งของผู้นำตระกูล หากเขาขัดคำสั่งแน่นอนว่าผู้หญิงที่เขารักย่อมต้องเดือดร้อน โดยมีข้อตกลงระหว่างที่อยู่ด้วยกัน แต่แล้ว...เขากลับเป็นฝ่ายทำผิดสัญญาเสียเอง .............................................. “หยางเฉินคะ ฉันเรียกคุณแบบนี้ได้หรือเปล่า หากเปลี่ยนจากหยางเฉินเป็นที่รักได้ไหมคะ” “ก็ได้แล้วแต่คุณจะเรียก” เขากดยิ้มขึ้นเล็กน้อย แววตาเจ้าเล่ห์เหมือนหมาป่ากระหาย เขาเอื้อมมือดึงข้อมือเล็กของเธอ จนภรรยาคนสวยล้มลงมาใบหน้าแนบอก “ผมก็จะเรียกว่าที่รักเหมือนกันดีไหมครับ” เขากล่าวขึ้นมา ดวงตาของเขาช่างพราวระยับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์แสนร้าย “แต่ว่าที่รักมีรางวัลให้ไหม ผมขอจูบอีกครั้งได้หรือเปล่าเป็นรางวัลไง”
ตอนที่ 1 เข้าห้องผิดชีวิตเปลี่ยน
ลู่เจียวอิงเงยหน้ามองบนท้องฟ้า ในยามนี้ดูเหมือนฝนใกล้ตกลงมาแล้ว ในมือของเธอถือแก้วเครื่องดื่มสีอำพันเอาไว้กลิ่นมันช่างยั่วยวนจริง ๆ ใบหน้าสาวแสนสะสวยไม่อาจซ่อนความหดหู่และโศกเศร้าผ่านดวงตาคู่งามได้เลย ยามเมื่อทอดสายตาเหม่อลอยออกไปบริเวณระเบียงของผับชื่อดัง
เธอหัวเราะทั้งน้ำตา
เย้ยหยันโชคชะตาที่บัดซบสิ้นดี คนรักของเธอกำลังจะแต่งงาน และความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเพิ่งจบลงเมื่อวานแบบลับ ๆ จะให้เธอดีใจกับเขาได้อย่างไรกัน เพราะผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานกับเขาคือพี่สาวของเธอ
ส่วนเธอเป็นเพียงแค่เด็กในบ้าน ลูกคนใช้ จะมีสิทธิ์อะไรล่ะ
เธอคือนางร้ายเจ้าบทบาทเพิ่งโลดแล่นในวงการบันเทิงได้เพียงแค่ปีกว่า ๆ เธอพบอุปสรรคมากมายนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ที่บ้านตระกูลลู่ จวบจนเธอมาทำงานในวงการ เพราะเธอสะสวยคล้ายพี่สาว แน่นอนว่าไม่ใช่โชคช่วย เธอดิ้นรนขวนขวายอยากเอาชนะ จึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นแม่ดาวยั่วของวงการบันเทิง
ลู่เจียวอิง ยกเครื่องดื่มขึ้นมา เธอฟังเพลงคลอเบา ๆ ในผับหรูย่านเมืองหลวง สวมชุดดำรัดรูปทำให้เธอเป็นที่ดึงดูดสายตาใครต่อใคร แม้ว่าจะนักแสดงดาวร้าย แต่เธอเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่ ผู้ชายที่เธอมีใจให้เขาคนนั้นคือพี่ชายที่แสนดี
ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเก็บเป็นความลับมาสองปี ก่อนที่เธอก้าวเข้าไปแสดงละคร แต่ทว่าความรักของเธอที่มอบให้เขาเพิ่งจบลงเมื่อวาน และพรุ่งนี้จะเป็นงานแต่งของพี่สาว และเขาคนนั้นจะกลายเป็นพี่เขยเธอไปในทันที จะมีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกไหม
เธอเย้ยหยันหัวเราะทั้งน้ำตาไหลมันหยดลงบนเรียวขา มือข้างหนึ่งถือแก้วเครื่องดื่มเอาไว้ เงยหน้ามองท้องฟ้าในราตรีกาลอันแสนหดหู่และเศร้าใจ แสงสลัวปนเมฆครึ้มกำลังเคลื่อนตัวมา อีกไม่ช้าฝนจะตกลงมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นเมฆฝนตั้งเค้ามาจึงคิดว่าสมควรแก่การกลับบ้านเสียที หลังจดจ่ออยู่กับเครื่องดื่มชวนให้คลายความเศร้าและเจ็บปวด ดื่มเท่าไหร่มันก็ยังคงเศร้าอยู่ดี
หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นยืน สภาพนั้นโซเซไม่ต่างจากขี้เมาดี ๆ สักเท่าไหร่ เธอเดินออกไปจ่ายเงินจากนั้นเดินออกประตูหน้าของผับ แต่...ในที่สุดฝนได้เทกระหน่ำลงมาราวกับว่าไม่เคยตกมาก่อน สายตาคู่หวานเหลือบเห็นโรงแรมอยู่ฝั่งตรงข้าม จึงได้สาวเท้าวิ่งฝ่าสายฝนจนตัวเปียกปอนโชกชุ่ม จนกระทั่งเข้าไปด้านในโรงแรม เธอยืนตัวหนาวสั่นงันงก ก่อนจะขอเครื่องดื่มดับความหนาว เจ้าหน้าที่ต้อนรับพนักงานโรงแรม ยื่นคีย์การ์ดให้เธอ
ด้วยความดื่มหนักจนดวงตาพร่ามัว “ชั้นห้านี่เอง” หญิงสาวอาภรณ์ดำสนิท กดลิฟต์ตรงขึ้นไปชั้นห้า สติของเธอไม่เต็มร้อยสักเท่าไหร่ ตัวหนาวสั่นสะท้านไปหมดขนอ่อนลุกซู่เพราะอากาศในโรงแรมช่างหนาวยะเยือก เมื่อถึงจุดหมายแล้ว หญิงสาวหยิบขึ้นคีย์การ์ดมาดูอีกครั้ง
“ห้องไหนนะ” เธอมองไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ ทั้งหนาวและมึนหัวไปหมด ในที่สุดก็พบห้องเข้าแล้ว หล่อน สาวเท้าก้าวเหยาะ ๆ ไปหลายก้าว ก็พบห้องดังกล่าวอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เธอยังไม่ทันได้เสียบคีย์การ์ดเข้าเสียด้วยซ้ำ ประตูเปิดออกมาทันใด ผู้ชายคนหนึ่งยกยิ้มอย่างพึงพอใจและเขาดึงหญิงสาวเมาไม่สติเข้ามาในห้องอย่าวรวดเร็วเธอไม่ทันได้ตั้งหลัก ก็ถูกกระชากเข้าไปร่างบอบบางปะทะเข้ากับแผงอกแกร่งของอีกฝ่าย
ริมฝีปากของลู่เจียวอิงถูกชายหนุ่มร่างสูงโปร่งบดเบียดขยี้อย่างหิวกระหาย มิหนำซ้ำเขายังไม่ฟังเสียทัดทาน กำปั้นน้อย ๆ ทุบตีตามตัวเขาไปมาแต่ไม่เป็นผล ผู้ชายคนนี้แรงเยอะเป็นบ้า หูหนวกตาบอดหรือไงกัน เขาไม่ฟังเสียงเล็ก ๆ จากเธอเสียด้วยซ้ำ บดเบียดสอดแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากครั้งแล้วครั้งเล่ากระหวัดเกี่ยวรัดอย่างชำนิชำนาญ
เพราะเครื่องดื่มทำให้เธอมึนเมาหลงใหลกับรสจูบแสนร้อนฉ่าที่เขามอบให้ ชายร่างสูงใหญ่กระชับตัวเธอเข้ามาให้แนบชิดขึ้นอีก เขารีบร้อนปลดซิบด้านหลังของเธออย่างว่องไวเพราะกำหนัดของเขามันพุ่งสูงจนแทบจะแตกซ่าน นำร่างบอบบางเย็นเฉียบนอนลงบนเตียง ลู่เจียวอิงคล้ายไร้สติอื้ออึงไปหมด ยังคล้อยตามเขาตอบสนองเข้าให้อีกด้วย
หญิงสาวถูกปลดชุดรัดรูปออกกองอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มคนนี้ยังคงจูบเธออย่างเนิ่นนาน สุดท้ายเข้าปลดบราของเธอออกมาแล้วโยนมันทิ้งไปราวกับขยะ เขาเลื่อนมือมากอบกุมคลึงเคล้าเค้นเต้างามสล้างทั้งสองข้าง ก่อนจะดันแม่สาวสวยนอนให้นอนราบบนเตียง
เขาดูดดึงเสียงดัง จ๊วบ จ๊วบ ร่างบอบบางอ่อนระทวยร้องเสียงครางกระเส่าออกมาเป็นระยะ ลิ้นสากแสนร้ายกาจนั่นฉกชิงชิมยอดถันของหล่อนราวกับว่ากระหายหิวมาเป็นแรมปี ความร้อนรุ่มที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มนั้นทำให้ชายหนุ่มไม่อาจต้านทานความต้องการเอาไว้ได้
เขาคร่อมทาบทับบดเบียดความต้องการมากมาย จนหญิงสาวผ่อนคลายกลายเป็นฝ่ายกอดคอของชายหนุ่มแปลกหน้า มือหนาลูบไล้เนินเนื้ออวบอูมก่อนจะปลดกางเกงในตัวจิ๋วของหล่อนออกมาอยู่ปลายข้อเท้าข้างหนึ่ง นิ้วกลางเรียวยาวแหวกกลางกายสาวให้เปิดอ้าแบะออก จากนั้นเขาเร่งสอดนิ้วเข้าไปปลุกเร้าคนตัวเล็กใต้ร่าง
ชายคนนี้ยังไม่หยุดยั้งความต้องการ ภายในห้องมีเพียงแค่แสงสลัว ๆ เท่านั้น หน้าตาเขาเป็นเช่นไร ลู่เจียวอิงไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป แต่บทเพลงสวาทนี้ที่เขามอบให้ มันทำให้เธอร้อนรุ่มซาบซ่านกระสันเสียว หญิงสาวเผลอปล่อยตัวทอดกายให้เป็นไปที่ต้องการ สุดท้ายแล้ว เธอกับเขาก็ละเลงบทเพลงรักและหลับกันไปในที่สุด
ลู่เจียวอิงหลับไปนานเท่าไหร่เธอไม่รู้เสียด้วยซ้ำไปจวบจนได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา เธอค่อย ๆ ขยับแพขนตาหนางอนงามขึ้น เอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ ปัดขึ้นไปเพียงแค่ครั้งเดียวเป็นอันว่ารับ “มีอะไรทำไมโทรมาแต่เช้า” เสียงต้นสายเป็นเสียงผู้หญิงนั่นคือลู่เจียวอิง
อีกฝ่ายนิ่งเงียบเพียงแค่ฟัง แล้วจึงได้สอบถาม สุดท้ายแล้วเธอกำลังแนบใบหูฟังอีกฝ่าย เธอพยายามขยับแพขนตาอันหนักอึ้งขึ้นแต่ก็ไม่เป็นผล เธอเหนื่อยจนแทบขาดใจและเสียงปลายสายนั่นทำให้เธอลืมตาโพลงขึ้นมาอย่างตกใจ “ว้าย!” เสียงร้องตกใจแหลมเล็กแสบแก้วหูใครที่นอนหลับอยู่
“เธอเป็นบ้าอะไรจะแหกปากแต่เช้าทำไมกัน ไร้มารยาทที่สุด” ชายหนุ่มสบถด่าเธอเข้าให้ เจียวอิงมองหน้าเขาชัด ๆ จากนั้นเธอตวัดฝ่ามือฟาดเข้าไปทันทีหลายครั้ง แต่ทว่าสุดท้ายแล้วเขาจับข้อมือของเธอเอาไว้ได้
นาทีนั้นเองเธอจึงได้ตะคอกเสียงใส่เขา “ไอ้บ้าแกทำอะไรฉัน” หลงลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเธอ พอรู้ตัวเหมือนมีบางอย่างหายไป จึงได้มองสภาพโป๊เปลือยนั่น ทว่าเขาสำรวจเพียงแค่ปราดเดียวเขาถึงกับตาวาวโรจน์ราวกับเห็นเนื้อกวางอันแสนหวาน
เขากดยิ้มราวกับปีศาจราคะ น้ำเสียงห้วน ๆ แข็ง ๆ กล่าวขึ้นมาทันใด “เธอต่างหากล่ะ” เขาถือดีที่สุด พลางหย่อนเท้าลงจากเตียงนอน ลุกขึ้นยืนอย่างหน้าไม่อาย มือหนาเอื้อมหยิบคว้าผ้าเช็ดตัวที่มันหล่นกองอยู่บนพื้นนั่นมาพันไว้ที่เอวของตนทันที
เจียวอิงตวัดสายตาอย่างแค้นเคืองเธอแสนจะอับอายเป็นที่สุดชีวิตของเธอทำไมมีแต่เรื่องน่ารันทดอนาถขนาดนี้ ความสาวของเธอถูกเขาย่ำยีจนป่นปี้ไปหมด “จะบ้าเหรอเมื่อคืนฉันก็เข้าห้องตามคีย์การ์ดของโรงแรม” กล่าวจบกระชับผ้าห่มปกปิดสัดส่วนเว้าโค้งของเธอเอาไว้ให้มิดชิด เพราะสายวาววับคู่นั้นจับจองอย่างไม่วางตา
เขาอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นย้อนนึกขึ้นมา เป็นเขาเองที่เปิดประตูและกระชากเธอเข้ามา “เธอเป็นใคร” เขาถามน้ำเสียงแข็ง ๆ ท่าทีเย็นชาและไร้ความรู้สึกผิด
“มันไม่สำคัญว่าฉันเป็นใคร ถือเสียว่าฉันยกให้หมามันกินฟรี ๆ ก็แล้วกัน” เธอทั้งโกรธและเกลียดตัวเอง ทำเป็นเหมือนผู้หญิงใจง่ายไปแล้ว อกหักช้ำรักยังไม่พอความสาวยังมาถูกผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ย่ำยีจนน่าอดสู
“ต้องการเท่าไหร่” เขาถามพลางเดินไปเปิดกระเป๋าคิดจะเขียนเช็กให้เธอ เหลือบสายตามองอยู่อึดใจหนึ่ง น้ำเสียงห้วน ๆ นั่นทำให้เจียวอิงไม่พอใจสักเท่าไหร่ จะพูดขอโทษสักคำยังไม่มีจากปากของผู้ชายคนนี้
“ฉันไม่ต้องการ” เธอหยัดกายลุกขึ้น แต่เจ็บแปลบกลางกายสาว ชายหนุ่มมองผ้าบนเตียงนอนมันยับย่นยู่ยี่ไปหมด เมื่อคืนคงหนักน่าดู และยังคงได้กลิ่นคืนวสันต์อบอวลอยู่จาง ๆ สิ่งที่เขาประหลาดใจคือรอยจุดสีแดงนั่นเปรอะอยู่บนผ้าปูเตียง
เธอบริสุทธิ์!
“ชุดเธอคงใส่ไม่ได้ รอก่อนก็แล้วกัน” เขายังมีความเป็นคนอยู่ เมื่อเหลือบสายตามองไปยังชุดสีดำกองอยู่บนพื้นท่าทางจะเปียกไม่เบา พอจำได้รางๆ เธอเปียกชุ่มไปทั้งตัว
“ไม่ต้องฉันมีเงิน” เธอมองซ้ายที ขวาทีแต่ไม่มีกระเป๋าของเธอ พลางขมวดคิ้วมุ่น และมันหายไปไหนกันแน่ ด้านหน้าห้องมีสตรีสูงวัยคนหนึ่ง เธอยืนอยู่นานพอสมควรพร้อมกับกระเป๋าเงินหนังสีดำตกอยู่หน้าห้อง เธอยื่นให้ผู้ช่วยส่วนตัวค้นหาข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นทันที
“เธอเป็นนักแสดงค่ะ รับบทส่วนมากเป็นนางร้าย มาจากตระกูลลู่ค่ะ เป็นลูกสาวคนใช้อีกอย่าง” ผู้ช่วยส่วนตัวกล่าวขึ้นมา
“อะไร” สตรีสูงวัยถามขึ้นมาอีกครั้ง
“เธอมีข่าวไม่ดีนักค่ะคุณผู้หญิง” สิ้นเสียงสาวใช้ ทำให้หญิงสูงวัยขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น จะเป็นไปได้อย่างไร แม่เด็กสาวคนนี้เคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้เมื่อสองปีที่แล้ว หากไม่ได้เด็กนั่นช่วย ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้แน่ ๆ
“ข่าวเน่า ๆ พวกนั้นฉันไม่สน จับตาดูเด็กคนนั้นเอาไว้ หากคุณชายออกจากห้องเมื่อไหร่ให้รีบกลับบ้านทันที”