ยาปลุกกำหนัด2
เจินเจินถึงกับหัวใจเต้นแรงแบบผิดจังหวะ เลือดสูบฉีดแบบผิดปกติ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นางหายหน้าไปจากเขาไม่กี่วันก็จริง
แต่นางคิดถึงเขา
นางคิดถึงเขามาก
นางคิดหาวิธีการมากมายเพื่อที่จะเอาชนะใจของเขา
แต่ดูเขายามนี้
นอกจากไม่คิดจะชอบตอบนางยังจะมาพลอดรักกับสตรีนางอื่นต่อหน้าต่อตา
อืม...
นางควรตัดใจใช่หรือไม่
ใช่!
นางควรตัดใจ
แต่ว่า
แต่…
ก่อนตัดใจ ขอตัวหัวสตรีนางนี้ก่อนเป็นไร
ร่างงามของเจินเจินเร็วเท่าความคิด
เพียงเสี้ยวเวลาเดียวหญิงสาวก็พุ่งตัวมาจนถึงร่างของหลี่เซียวเหยาและเซียงอวี๋
นางจับกระชากร่างของเซียงอวี๋ออกจากตักแกร่งของหลี่เซียวเหยา จนร่างเซียงอวี๋กระเด็นออกไปจากร่างของหลี่เซียวเหยาในทันที
“กรี๊ด!” เซียงอวี๋ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ทำนางกระเด็นออกมา
และเสียงกรีดร้องของเซียงอวี๋ทำให้เจินเจินพลันได้สติในทันที “อา... ข้าขอโทษ เจ็บหรือไม่” เจินเจินรีบเดินมาดู เซียงอวี๋ที่กลิ้งอยู่กับพื้นด้วยฝีมือของนางเอง
นางไม่ควรทำร้ายสตรีของหลี่เซียวเหยา เขาจะชมชอบใครมันก็เป็นสิทธิ์ขาดของเขา นางไม่มีสิทธิ์ทำลายจังหวะพลอดรักของใคร หากพวกเขาเต็มใจมีใจให้กัน
ซึ่งมันแตกต่างจากการที่บุรุษพยายามเอาเปรียบสตรี
ถ้าเป็นเหตุการณ์นั้น นางต้องกระชากบุรุษออกมาสังหาร มิใช่กระชากสตรีออกมาทารุณ
อา...
นางเป็นเอามากนะนี่
กับหลี่เซียวเหยาผู้นี้
เจินเจินคิดเอาเองอยู่ภายในใจขณะทอดสายตามองกลับไปทาง หลี่เซียวเหยา
วันนี้นางตั้งใจมาทำให้เขาประทับใจในตัวนาง
แต่กลับกลายเป็นว่า มาขัดจังหวะหฤหรรษ์ของเขาเสียนี่
นางจะทำอย่างไรดี…
หลี่เซียวเหยายังคงนั่งตะลึงงันกับสตรีผู้เข้ามาใหม่
นางเหมือนนางฟ้ามาโปรดเขา
เขาคิดอย่างนั้นในเวลานี้
“เจ้า...เจ้า..” เซียงอวี๋ส่งเสียงเกรี้ยวกราดอยู่ด้านหลังของเจินเจิน
หญิงสาวพยายามประคองร่างของตนเองให้ลุกขึ้นยืนก่อนบันดาลโทสะใส่เจินเจิน “เจ้ามันสตรีน่ารังเกียจ ออกไปนะ!”
เจินเจินไม่ได้กล่าวสิ่งใดตอบกลับ นางเพียงกัดริมฝีปากยืนตัวแข็งทื่อ
อยากจะเดินออกไปอยู่นะ แต่ขามันก้าวไม่ออก ฮือ... ทำใจไม่ได้...
“ออกไป” เสียงแหบพร่าทุ้มต่ำของหลี่เซียวเหยาพลันเอ่ยขึ้น
“ออกไป...” เขาย้ำด้วยประโยคที่บาดใจเจินเจินเหลือเกิน
หญิงสาวคิดอย่างนั้น ก่อนหลับตาลงเพื่อพยายามข่มใจของตนให้ก้าวเท้าเดิน หมายจะออกไปจากห้องแห่งนี้ตามคำ นางพยายามยกเท้าขึ้นเพื่อย่างก้าวอย่างยากลำบาก
จู่ๆมือของเจินเจินพลันกระตุกอย่างแรงพร้อมกับรู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนลวกซึ่งจับดึงกระชากตัวของนางให้กลับเข้ามาในห้อง
ในจังหวะเดียวกันร่างของสตรีของหลี่เซียวเหยาคล้ายกับถูกผลักจนกระเด็นออกไป หญิงสาวมองตามร่างบางที่กระเด็นหายออกไปนอกห้องก่อนจะหันมามองเจ้าของฝ่ามือที่จับแขนของนางอยู่
นางเห็นเป็นหลี่เซียวเหยาก้มหน้ามองลงมาในระยะประชิดด้วยสายตาร้อนแรง ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากแดงสดเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ก่อนจะเผยอออกแล้วเคลื่อนเข้ามา
หลี่เซียวเหยาก้มหน้าลงจูบเจินเจินอย่างเร่าร้อน สองมือของเขาจับประคองสองไหล่ของนางเอาไว้แน่น
เจินเจินถึงกับยืนตัวแข็งทื่อตาโต ขณะถูกเขาครอบครองริมฝีปาก
เพียงไม่นานร่างบางระหงของเจินเจินก็ถูกหลี่เซียวเหยาโอบอุ้มเข้ามายังห้องนอนด้านในอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มยังคงขบเม้มไล้เลียริมฝีปากและใบหน้าของหญิงสาวอย่างหนักหน่วงรุนแรงเร่งร้อน
มันหนักหน่วงร้อนเร่าเสียจน....
ผิดปกติ…
เจินเจินรู้สึกได้ว่ามันไม่ถูกต้อง
มันมีอะไรซักอย่างที่นางรู้สึกได้ว่ามันไม่ถูกต้อง มันผิดปกติแปลกๆ
นี่ไม่ใช่หลี่เซียวเหยาที่นางรู้จัก
เมื่อเจินเจินคิดได้ดังนั้นจึงพยายามเอื้อมมือของตนขึ้น
“เดี๋ยว เดี๋ยว หยุด หยุดก่อน” เจินเจินพยายามขัดขืนพร้อมกับจับกุมใบหน้าร้อนผ่าวของหลี่เซียวเหยาให้ออกห่างแม้ร่างของนางจะถูกลำแขนของเขากอดเกี่ยวเอาไว้อย่างแนบแน่นก็ตาม
“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรกับท่านกันแน่” หญิงสาวถามออกไปอย่างมีสติ
ทำให้ชายหนุ่มเองถึงกับชะงักงันกับอาการขาดสติของตนเองทันที
“ใจเย็น ใจเย็นก่อน” เจินเจินถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “ท่านเป็นอะไรไป เป็นอะไรหรือไม่”
“ข้า...” หลี่เซียวเหยากลั้นใจบอกตามจริง
“ยาปลุกอารมณ์... ในน้ำชา... สตรีนางนั้น..นาง..นาง”
ชายหนุ่มกล่าวออกมาอย่างยากลำบากแม้จะไม่จบประโยคแต่เจินเจินกลับเข้าใจได้ในทันที
อา...
ไม่ดีแน่...
เจินเจินคิด
หากเขาจะลุกออกจากเตียงนอนหลังเสร็จกิจ
แล้วเดินจากไปอย่างงุนงงสับสนกับชีวิตเมื่อหมดฤทธิ์ของยาตามที่หงเหม่ยหลงเคยบอกกล่าวเอาไว้…
ไม่ดี
ไม่ดีแน่ๆ
“ท่าน...” เจินเจินพยายามเรียกสติของหลี่เซียวเหยา
“มีสติไว้ ทำสมาธิ ใช่ ต้องทำสมาธิ” หญิงสาวเอ่ยออกไปขณะพยายามแกะมือที่คล้ายคีบเหล็กออกจากตัวเพื่อพาเขาไปนั่งลงที่เตียงนอน
นางยังคงกล่าวต่อเนื่อง “หลับตา ท่านหลับตาก่อน ตั้งสมาธิ เร็ว!”
หลี่เซียวเหยาถึงกับอ้าปากค้าง ในขณะที่เจินเจินกำลังพาร่างกำยำของเขาให้ไปนั่งที่เตียงนอน
ชายหนุ่มยังคงแข็งค้างกลางอากาศ
ทรมานก็ทรมาน
แต่สตรีนางนี้
นาง...
นาง...
ทำไมนางเป็นคนอย่างนี้
บัดซบ!
บัดซบจริงๆ
สวรรค์
ช่วยข้าด้วย....
หลี่เซียวเหยาได้แต่ร่ำร้องร่ำไห้อยู่ในใจ
ขณะถูกเจินเจินบังคับในนั่งหลับตาทำสมาธิเพื่อควบคุมสติที่มีเพียงน้อยนิดอยู่อย่างนั้น
