ยาปลุกกำหนัด1
หลังจากที่เฝ้าครุ่นคิดมานานอยู่หลายวันเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้องค์ชายหลี่เซียวเหยาได้หันมาชมชอบและรักนางจากใจจริง เจินเจินจึงอดรนทนไม่ได้ด้วยคิดถึงองค์ชายสี่หลี่เซียวเหยาเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรให้เขาหันมาชมชอบนาง
แต่เจินเจินก็ยังคงตัดสินใจเข้าหาหลี่เซียวเหยาอีกครั้ง
และครั้งนี้หญิงสาวก็ได้ตั้งปณิธานเอาไว้แล้วว่า นางจะทำตัวดีๆ ไม่กระทำการอุกอาจคล้ายจะขืนใจเขาแต่อย่างใด
นางจะพยายามไม่ลวนลามเขาด้วย
นางไม่อยากให้เขารังเกียจนางไปมากกว่านี้
อา...
วันนี้นางแต่งกายด้วยชุดสุภาพด้วยนะ ปกปิดมิดชิดมิดชิดเชียวล่ะ ดูสง่างามเฉกเช่นสตรีสูงส่งเสียด้วย นางเลือกเฟ้นอยู่เป็นนานเลยนะ สำหรับอาภรณ์ชุดนี้ที่นางใส่มา เพื่อให้หลี่เซียวเหยาได้ยลโฉม เขาจะได้พิศมองนางใหม่
เขาจะชมชอบนางหรือไม่กันนะ หากนางทำตัวดีขึ้น เรียบร้อยขึ้น
เจินเจินคิดไปพลางเดินไปตามทางเดินที่เชื่อมต่อทอดยาวไปยังตำหนักของหลี่เซียวเหยา
ภายในห้องๆหนึ่งของตำหนักอันโอ่อ่าระโหฐานขององค์ชายสี่...
หลี่เซียวเหยากำลังควบคุมอารมณ์พลุ่งพล่านบางอย่างอยู่อย่างทรมาน
เขาเริ่มไม่เข้าใจ
ว่าทำไมชีวิตของเขาต้องมาเจอเรื่องบัดซบอย่างนี้อยู่ร่ำไป เกิดมาเป็นชายหนุ่มรูปงามอย่างนี้มันผิดนักหรือไร
“เจ้า... เจ้าเอาอะไรใส่ลงไปในน้ำชานี่” หลี่เซียวเหยาถามออกไปทางนางกำนัลคนหนึ่งหลังจากที่เขาได้ดื่มชาตรงหน้าลงไปเพียงครู่
นางกำนัลคนนี้เขาเริ่มนึกออกแล้วว่าเป็นน้องสาวของอดีตชายาของเขา นามว่าเซียงอวี๋
ชายหนุ่มเพียงนึกแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมนางยังคงคอยติดตามคล้ายหลอกหลอนเขาอยู่อย่างนี้
เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ รู้สึกร้อนรุ่ม รู้สึกมีความต้องการทางเพศอย่างสูง หลังจากดื่มชาถ้วยนี้ลงไป
“ไม่มีนี่เพคะ ไม่มีอะไรเลย” เซียงอวี๋ตอบคำพลางส่งสายตายั่วยวนหยาดเยิ้มให้หลี่เซียวเหยาอย่างคาดหวังแบบเห็นได้ชัดเจน
เรื่องอะไรนางจะบอกเล่า ว่าใส่ยาปลุกกำหนัดลงไปในน้ำชาเพื่อให้องค์ชายหลี่เซียวเหยาได้ดื่มกิน
นางเพียรพยายามอย่างมากที่จะไปสรรหาซื้อมา ด้วยแอบได้ยินนางกำนัลกับสนมคนหนึ่งคุยกันถึงสรรพคุณของมัน ยามนี้ไม่มีใครอยู่ภายในห้องนี้ มีเพียงนางกับองค์ชายหลี่เซียวเหยาเท่านั้น
หึหึ
วันนี้แล้ว
วันนี้
นางกับเขา
จะได้เสียเป็นสามีภรรยากัน
นางจะได้เขา
นางจะได้ร่วมรักกับเขา
แล้วเขาก็จะต้องรับผิดชอบนาง
แต่งงานกับนาง
หึหึ
เซียงอวี๋คิดในใจอย่างหมายมาดกรุ้มกริ่ม
“องค์ชายเป็นอะไรไปเพคะ ไม่สบายหรือเพคะ ให้หม่อมฉันดูใกล้ๆนะเพคะ” เซียงอวี๋กล่าวพลางลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะเดินย่างกรายเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับหลี่เซียวเหยาที่นั่งอยู่บนตั่งที่โต๊ะตรงหน้า
หญิงสาวจงใจเข้าไปหยุดยืนก่อนก้มหน้าลงตรงหน้าของหลี่เซียวเหยาด้วยตั้งใจให้เขาได้เห็นเนินอกอวบอิ่มขาวผ่องนวลเนียนของนางที่ตั้งใจเปิดเผยอออกมายามโน้มตัวลงหาเขา
หลี่เซียวเหยาที่เริ่มหอบหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงจากฤทธิ์ของยาบางอย่างที่ผสมอยู่ในน้ำชานั่น
เขาค่อนข้างแน่ใจว่ามันอาจจะเป็นยาปลุกกำหนัด
อารมณ์ที่เกินจะยับยั้งของเขายามนี้มันบ่งบอกกับเขาได้อย่างชัดเจน
เจินเจินของเขายังไม่เคยใช้วิธีแบบนี้กับเขาเลย
หืม!
เดี๋ยวนะ!
เจินเจินของเขารึ
นี่เขาเผลอคิดอะไรออกไป
บัดซบ!
ชายหนุ่มคิดในใจอย่างขัดเคืองขณะกำลังควบคุมอารมณ์ร้อนแรงของตนอยู่อย่างยากลำบาก
“องค์ชายเพคะ” เสียงออดอ้อนของเซียงอวี๋ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง หญิงสาวเอี้ยวตัวเพื่อเบียดเข้าหาชายหนุ่มอย่างจงใจก่อนเอื้อมมือขึ้นเพื่อจับลงตรงต้นแขนของชายหนุ่มอย่างตั้งใจให้ยั่วยวน
นางยังคงเอื้อนเอ่ยต่ออย่างจงใจให้น้ำเสียงชวนสยิว “ให้หม่อมฉันพาเข้าไปพักที่ห้องบรรทม นะ เพคะ นะ นะ”
หลี่เซียวเหยาพยายามขืนร่างของตนเองเอาไว้ไม่ให้คล้อยตามมือเรียวงามของสตรีน่าสมเพชนี่
เขายังคงนั่งอยู่ตรงตั่งด้วยอาการตัวเกร็งปวดหนึบอย่างสุดจะกลั้น
“อ๊ะ! อุ๊ย!” เซียงอวี๋ที่พยายามดึงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นถึงกับหลุดอุทานด้วยน้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยจริตมารยาเมื่อเสียหลักล้มลงนั่งบนตักแข็งแรงของหลี่เซียวเหยา
และภาพนั้น...
ภาพที่เซียงอวี๋นั่งซบอยู่บนตักของหลี่เซียวเหยาที่กำลังหน้าดำหน้าแดงด้วยแรงอารมณ์ปรารถนาก็ปรากฎอยู่ในสายตาของ เจินเจินที่เดินเข้ามาในห้องแห่งนี้อย่างพอดิบพอดี
ทำเอาเจินเจินถึงกับหน้าม้านชะงักงัน ตกตะลึงตาโต
ภาพนั้น ภาพที่หลี่เซียวเหยาผู้ซึ่งเป็นบุรุษหนึ่งเดียวที่นางพึงใจกำลังนั่งพลอดรักอยู่กับสตรีนางหนึ่ง
