chapter 5 ความในใจจากแบทเทิล
5
และแล้ว...ฉันก็ต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้ยัยฟ่างมันฟังอย่างละเอียดยิบ ตั้งแต่ตอนเมา จนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
"ร้ายว่ะ" ฉันได้ยินคำนี้มาประมาณสิบครั้งตั้งแต่เล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง
"..." เลยได้แต่เงียบกริบเพราะความอับอาย ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทก็เถอะ
"แต่กูว่าพี่เขาก็ไม่เบานะ ถึงจะดูพูดน้อย ดูเข้าถึงยากแต่เขาเล่นกับมึงอยู่กูดูออก" ยัยฟ่างพูดขึ้นแล้วทำท่าทางครุ่นคิด
"ไม่หรอกมั้ง" พูดไปงั้นแต่ในใจก็แอบคิดเบาๆ
"มึงอ่อยต่อไป เดี๋ยวก็ได้กิน" ฟ่างพูดแล้วยิ้มเหมือนมันกำลังคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
"พูดบ้าอะไรของมึงห๊ะ เขาไม่เอากูหรอกน่า คนชอบเขาก็เยอะ" ฉันถอนหายใจแล้วพูดออกมา ลืมคิดข้อนี้ไปได้ยังไงนะ
"ไม่หรอก สำหรับกูคือคิดว่าเขาไม่ได้สนใจคนอื่นด้วยซ้ำ ไม่งั้นไม่กล้ามานั่งกับพวกเราหรอก แล้วมีจับไม้จับมือด้วย อ๊ายยย" แล้วท่าทางของยัยฟ่างก็ทำให้ฉันกลับมาคิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้งอย่างสับสน
"กูไม่ได้หวังให้เขาชอบกูหรอกน่า เราอยู่แบบนี้ก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอ ชอบคนอื่นไปวันๆ" ฉันพูดแล้วยิ้มออกมาบางๆ แต่ในใจก็แอบมีหวังนิดๆ
ไม่อยากจะคิดอะไรไปมากกว่านี้หรอก เพราะถ้าผิดหวังขึ้นมามันจะเจ็บซะเปล่า
"อืม คิดแบบนั้นก็ดี จะได้ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าได้ก็ดีกว่า ฮ่าๆ" แล้วมันก็หัวเราะลั่นเดินขึ้นบันไดไปเรียน
ถ้าเขาชอบฉันจริงๆงั้นเหรอ บ้าน่า ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะทำยังไงอ่ะ ไม่ได้คิดไว้ด้วยสิ
คิดเองเออเองอีกแล้วฉัน...
21:00 น.
Battle's part
"ไง ยอมออกมาเที่ยวกับเพื่อนซักทีนะคร๊าบ" เสียงไอ้ทอร์พูดหยอกล้อผมแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเกือบจะหอมแก้มผมอยู่แล้ว ผมเลยต้องรีบเอามือดันหัวมันออกอย่างรำคาญ
"ก็ว่างแล้ว งานอาจารย์ก็น้อยลง" ผมพูดแล้วกอดอกพิงกับเบาะโซฟาอย่างไม่สนใจ
นี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าเดือนที่มาเที่ยว เพราะปกติแล้วผมจะไม่ชอบมาอยู่ในที่วุ่นวายแบบนี้เท่าไหร่ เสียงก็ดังเอะอะโวยวาย ถ้าอยากดื่มก็ซื้อเข้าไปดื่มในห้องตัวเอง ฟังเพลงเบาๆสบายใจกว่า
"ครับๆ มาก็ดีแล้วครับ ไหนๆก็มาวันนี้มึงต้องเมาให้กูเห็น" พูดจบมันก็เทเหล้าในขวดลงมาในแก้วของผมเกือบครึ่งแก้วแล้วเทโซดาตาม นี่จะให้เมาหรือจะให้ตายกันแน่
"เออ กูอยากเห็นมึงพูดเยอะๆ ช่วยเมาให้กูทีเถอะ" ไอ้เควินพูดเสริมแล้วยกแก้วตัวเองมาชนกับแก้วผม
"กูพูดมากกับคนที่กูอยากพูด" ผมตอบกลับแล้วยกแก้วขึ้นมาดื่มเกือบหมด
"อย่างเช่นคนเมื่อกลางวันเหรอ" ไอ้ทอร์เอ่ยแซว แล้วทำหน้ากวนๆส่งมาให้
คงจะหมายถึงยัยนั่นล่ะมั้ง ยัยผู้หญิงที่ทำตัวแปลกๆนั่น พอพูดถึงเธอแล้วก็ทำให้รู้สึกแปลกๆขึ้นมา ไม่ได้เรียกว่าชอบหรอก แต่เรียกว่าสนใจมากกว่าไม่ถึงกับชอบ
ตอนเจอกันครั้งแรกคือเธอนอนอยู่บนเตียงของผม บอกเลยตอนนั้นทำเอาผมตกใจมาก ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร ถึงจะหน้าตาน่ารักก็เถอะ อยู่ๆมานอนห้องคนอื่นมันก็น่ากลัวนะ ตอนแรกคิดว่าเป็นพวกที่ตามรังคควานผมจากเพจบ้าๆนั่นซะอีก แต่ผมไม่เคยให้ใครรู้ที่อยู่ผมนอกจากเพื่อนและครอบครัว จึงต้องตัดเรื่องนี้ออกไป อีกอย่างหอที่พักอยู่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และปลอดภัย แสดงว่าคนที่เข้าหอนี้ได้ต้องเป็นคนที่พักอยู่เท่านั้น
วันนั้นผมออกมาเจอเธอนอนหลับอยู่บนเตียง หลังจากอาบน้ำเสร็จ พอเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น มีกลิ่นเหล้าด้วยก็คิดว่าคงเข้าห้องผิดแล้วล่ะ เลยปล่อยให้นอนสบายอยู่อย่างนั้นไม่อยากเรียก
อีกอย่างเธอก็น่ารักดี...
พอตื่นมาตอนเช้ายังมีหน้ามาด่าผมว่าเข้าห้องตัวเองอีก ผู้หญิงบ้าอะไรโคตรไม่มีสติ จนกระทั่งรู้ตัวว่าไม่ใช่ห้องตัวเองถึงยอม ตอนนั้นเกือบจะขำออกมาเพราะตลกหน้าที่รู้สึกผิดนั่นแล้ว แต่ดันมีมารมาก่อกวนซะก่อน
ไอ้พวกสองตัวนี้ไง กลายเป็นเรื่องใหญ่กันขึ้นมาอีกเพราะจะให้บอกว่าผู้หญิงเข้าห้องผิดมานอนด้วยก็สงสารเขา แต่ถ้าไม่อธิบายพวกมันก็จะเข้าใจผมผิดอีกว่าพาสาวมานอนด้วย แล้วยัยนั่นดันอยู่ใกล้ตัวผม อยู่ห้องข้างๆกันอีก
เลยโกหกพวกมันไปว่าเธอมาถามเรื่องเกี่ยวกับหอ
แต่ก็หยุดความคิดชั่วร้ายของพวกมันไม่ได้หรอก คิดว่าผมกับเธอกำลังแอบคุยกันอีก ก็เลยปล่อยพวกมันคิดไปเพราะก็ไม่ได้เสียหายอะไร
สามวันต่อมาผมก็มาเจอขนมกับโน๊ตเล็กๆ ที่ยัยนั่นแอบเอามาให้ สงสัยจะรู้สึกผิดมาก ทั้งที่ผมไม่ได้โกรธอะไรเลย แค่นิสัยผมเป็นแบบนี้ ไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่ ไม่อยากให้ใครยุ่งวุ่นวายด้วยนัก ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน
อาจจะเพราะเหตุการณ์บางอย่าง...
อืม นั่นแหละ พอยัยนั่นคิดว่าผมโกรธเลยแอบยิ้มกับความพยายามนั้นขึ้นมา ดูเธอจะขี้อายด้วยแต่ก็ยังอุตส่าห์เอาคำขอโทษนั้นส่งมาให้
เลยมองว่ามันน่ารักดี แถมยังเอามันมาให้ทุกวันอีก แล้วผมก็ยอมกินมันทุกวันอย่างไม่เข้าใจตัวเอง
"สรุปมึงกับน้องเขานี่ยังไง" ไอเควินที่เงียบอยู่นานถามขึ้น
"อะไรคือยังไง" ผมถามกลับไปทั้งที่รู้ความหมายของคำถามนั้นดี
"มึงเป็นอะไรกันไง" มันช่วยอธิบายอีกครั้งให้คำถามนั้นชัดเจนขึ้น
"ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"แล้วทำไมต้องมุ้งมิ้งกัน กูไม่เข้าใจ" ครั้งนี้เป็นไอ้ทอร์ที่ยื่นหน้าเข้ามาเสือก มันเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผมก็ไม่อยากให้มันรับรู้ ดูจากที่มันเคยเอารูปผมไปลงเพจบ้าๆนั่น
แค่รูปตอนกินข้าวยังทำให้ชีวิตไม่เป็นสุข ทำให้ตอนนี้ชีวิตผมไม่ปกติ มีคนทักแชทมาตลอดจนต้องเปิดออฟไลน์เฟสไว้ ไลน์ก็ต้องปิดเสียงเพราะไม่รู้ผู้หญิงพวกนั้นเอาไอดีผมมาได้ยังไง
"เสือก" ผมตอบไปสั้นๆแต่ได้ใจความ
"ถ้าบอกไม่ได้มีอะไรกัน กูว่ามันบังเอิญเกินไปที่จะมาร้านเดียวกัน" ไอ้เควินพูด แล้วชี้มือไปที่ผู้หญิงชุดสีขาวกระโปรงรัดรูปสั้นๆ
ไม่ใช่แค่มันหรอกที่คิดว่าบังเอิญ ผมก็ด้วย เพราะนั่นมันยัยข้างห้องของผม คนที่ส่งเค้กให้ผมทุกวัน แต่วันนี้เธอเปลี่ยนเป็นขนมอย่างอื่นแทนเพราะผมบอกว่ากลัวอ้วน
เออยัยนี่มันตลกดี...
ผมมองผู้หญิงคนนั้นนิ่ง วันนี้เธอแต่งตัวดีกว่าวันนั้น เพราะวันที่ไปนอนห้องผมเธอแต่งแค่เสื้อยืดรัดรูปกับกางเกงยีนส์ขายาว ที่จริงเธอก็เข้าขั้นสวยเลยแหละ แต่เพราะทำตัวบ้องๆเลยทำให้ดูแปลกๆ
วันนี้เธอมากับเพื่อนผู้หญิงคนเดิม แล้วก็มีเพื่อนผู้หญิงคนอื่นที่ผมไม่เคยเห็น เหมือนจะเป็นวันเกิดของใครซักคนด้วยเพราะมีเค้กก้อนโตวางอยู่บนโต๊ะ
"โห มองขนาดนั้นแล้วบอกว่าไม่มีอะไร" ไอ้ทอร์แซวไม่เลิก ผมเลยต้องละสายตาจากคนที่นั่งอยู่โต๊ะห่างออกไป มามองค้อนไอ้ทอร์แทน
"วันเกิดน้องเค้าว่ะ กูเห็นเค้าเป่าเค้กพอดีเมื่อกี้" ไอ้เควินหันมาบอกผมแล้วหันไปมองมินนี่ต่อ
"...อืม"
"สนใจเหรอ" เควินยังคงถามไม่เลิกจนผมต้องมองค้อนมันอีกคน
"..."
"ปกติกูไม่เห็นมึงจะอยากคุยอยากยุ่งกับผู้หญิงคนไหนไง" มันเป็นเพื่อนที่ดูจะอ่านใจผมได้ทุกเรื่องจริงๆนั่นแหละ
"..."
"มัวแต่เงียบเดี๋ยวหมาก็คาบไปแดกหรอก" พูดจบมันก็ชี้ไปที่มินนี่อีกรอบ มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังไปคุยอะไรซักอย่างกับเธอ แล้วก็ยื่นมือถือของมันไปให้ คงไม่ต้องเดาหรอกว่าทำอะไรอะไร
"..."
"ดูไม่ออกเหรอว่าเขาก็ชอบมึง" มันยังคงพูดไม่เลิก และยิ่งทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้วด้วยสิ
"..."
"เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง มัวแต่อมขี้อยู่นั่นแหละ" ไอ้ทอร์เสนอตัวเข้ามาช่วยอีกจนได้
"ไม่จำเป็น..."