EP.6 : ยืนตระหง่านท่ามกลางร่างไร้วิญญาณ
มัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา
จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง
ซีเยว่ครุ่นคิดอย่างลำบากใจ เดิมทีมารดาของนางแม้ไม่ต้องสวมใส่ชุดผ้าไหมงดงามเลอเลิศก็เปล่งประกายอย่างหาตัวจับได้ยากยิ่งแล้ว ต่อให้มีลูกสาวลูกชายตามติดเป็นหางแต่ก็เป็นหางที่นุ่มนวลและน่ารัก! ก่อนที่ท่านลุงนายพรานตงฟางจะปรากฏตัวเพื่อเป็นไม้กันหมาเฉพาะกิจ ซีเยว่และซีหยวนในมือไม่เคยขาดสินบนจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในหมู่บ้าน! พวกเขาล้วนมีสายตาเฉียบแหลม นิยมชมชอบส่งขนมจีบไม่ว่างเว้น!
น่าเศร้าที่เว่ยเฉินลี่ไม่ใช่แม่หม้ายสามีตายและยังไม่ถูกหย่าขาด มิเช่นนั้นไม่แน่ว่าปีสองปี อาจจะเปิดใจรับใครสักคน
มาครานี้มีเหล่าสาวใช้บรรจงเลือกสรรอาภรณ์และแต่งแต้มประทินโฉมอย่างพิถีพิถัน สาวงามยิ่งเจิดจรัสปานจะคว่ำแผ่นดิน ทั้งดวงตากลมโตทอประกายสีน้ำตาลอ่อน เส้นผมหยักศกสีเปลือกไม้ ริมฝีปากอิ่มรับกับผิวขาวอมชมพู ภายใต้เสื้อคลุมขนจิ้งจอกขาวยิ่งดูน่าทะนุถนอม โดดเด่นเสียจนเครื่องประดับหยกมันแพะเป็นได้เพียงดอกไม้แซมช่อ
ไม่ว่ามองมุมไหนล้วนแลดูหัวอ่อนแบบบาง
ท้ายที่สุดแล้ว ความงามของมารดาล้ำลึกเกินกว่าศีรษะน้อย ๆ จะหาถ้อยคำมาบรรยาย
ไม่แปลกเลยที่นางกับน้องชายจะเกิดมานุ่มนิ่มน่ารักน่าชัง เพราะถ้าหากว่าน่ารักน้อยกว่านี้สักหน่อย ซีเยว่อาจจะสงสัยชีวิตได้ว่าแท้จริงแล้วเด็กแฝดลอยมากับน้ำ..
โชคดีที่กรรมพันธุ์ไม่ทรยศ!
“ท่านแม่” “ท่านแม่! ”
ก้อนแป้งแฝดเรียกขานเทพธิดาเสียงใส ผละออกจากมิตรสหายบ้านใกล้เรือนเคียงโผเข้าหาเว่ยเฉินลี่เต็มอ้อมแขน ผลัดกันชมคนละหลายประโยค
ซีเยว่ “ท่านแม่ ท่านงดงามมาก! งดงามราวกับเทพธิดา!”
ซีหยวน “ท่านแม่ ท่านงดงามน้อยลงสักนิด หากมีคนมาแย่งท่านไปจะทำอย่างไร”
เว่ยเฉินลี่หอมแก้มลูกสาวลูกชายอย่างนึกมันเขี้ยว “ฝาแฝดของแม่ทาน้ำเชื่อมไว้ที่ปากน้อย ๆ นี่หรืออย่างไร ทำไมจึงปากหวานนัก”
“ฮิฮิ เยว่เอ๋อร์เพียงเอ่ยความจริง”
“หยวนเอ๋อร์ด้วย”
ผู้เฝ้ามองแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งรู้สึกเศร้าสลดราวกับสูญเสียสิ่งล้ำค่าไปจากมือ ทว่าอีกกลุ่มหนึ่งกลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับของรักของหวงกลับคืนมา
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะกลุ่มแรกหรือกลุ่มที่สองล้วนคาดหวังให้สามแม่ลูกมีความสุข
เว่ยเฉินลี่ ซีเยว่ และซีหยวนใช้เวลาบอกลาเพื่อนบ้านไม่มากนัก อีกทั้งยังกล่าวย้ำคล้ายกับเตือนตัวเองก่อนจะขึ้นรถม้าว่าเป็นการไปเยี่ยมเยือนเพียงชั่วคราว ไม่นานนักแล้วจะกลับมา
ด้วยเหตุประการฉะนี้ ช่วงสายในวันหนึ่งของเหมันต์ฤดูซึ่งทิวป่าเริ่มกระบวนการเปลี่ยนสีสันอีกครั้งจึงสามารถเห็นรถม้าสีแดงโดดเด่นเทียมอาชาตัวมหึมาค่อย ๆ เคลื่อนที่บนถนนสายเล็กตัดผ่านภูเขา ล้อมหน้าล้อมหลังด้วยผู้คุ้มกันน่าเกรงขามอาวุธครบมือ และเกวียนนั่งสำหรับบ่าวไพร่ตามหลัง
แน่นอนว่าภายนอกหรูหรามากแล้วภายในย่อมอลังการไม่แพ้กัน เตาอุ่น เบาะนุ่ม หมอนอิงจำนวนมหาศาล และขนมหวานรสกลมกล่อม!
ซีเยว่ปลื้มใจมากก่อนจะพบกับประสบการณ์นั่งรถที่ไม่มีโช๊ค
ขามาเมื่อสองปีก่อนเพราะว่าร้องไห้เหนื่อยจนหลับไปในอ้อมกอดท่านแม่จึงไม่ได้สัมผัสประสบการณ์หฤหรรษ์ ขากลับมีสติครบถ้วนจึงได้สัมผัสเต็มเหนี่ยว อนึ่งการเดินทางด้วยเท้าไปเมืองหูโจวใช้เวลาครึ่งวัน การเดินทางด้วยรถม้าย่นระยะเวลาลงมากทว่าเมื่อมีขบวนยืดยาวย่อมใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วยามครึ่งหรือสามชั่วโม
“อุก-” มือนุ่มตะครุบปากตัวเอง
ปวดตูดไม่พอ! เวียนหัวด้วย!
มายก๊อด!! นี่คือการลอบฆ่าลูกสาวให้ตายอย่างแนบเนียนหรือเปล่าอิพ่อ!
เว่ยเฉินลี่สงสารลูกสาวจับใจ “เยว่เอ๋อร์ ลูกอยากให้รถม้าหยุดพักสักหน่อยหรือไม่? ”
“ไม่เจ้าค่ะ เยว่เอ๋อร์วะ...ไหว อุก-”
ใจบอกไหวแต่สังขารบอกพัก!
ในขณะที่หลอกตัวเองว่าเป็นธรรมดาของร่างกายเด็กเล็ก ทว่าผินหน้าไปอีกด้านซีหยวนคือไม่เป็นอะไรเลย ลูบไหล่ลูบหลังปลอบพี่สาวอย่างเห็นอกเห็นใจ
“เจี่ยเจีย อย่าเป็นอะไรนะ”
“หยวนเอ๋อร์ แอบไปขึ้นรถม้าไม่บอกเจี่ยเจียหรือ”
“??”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด สวรรค์ไม่ปล่อยให้เด็กหญิงทุกข์ทรมานจากอาการเมามายรถม้านานนักแต่ก็ไม่ได้ส่งสถานการณ์ที่ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ลงมา เดินทางออกมาจากหมู่บ้านได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม โดยไม่มีการร้องเตือนห่าฝนธนูจากชายป่าพลันพุ่งแหวกอากาศมาถึง เสียงม้าพยศและเสียงเฮโลของผู้มาเยือนที่ไม่เป็นมิตรดังกระหึ่ม
ข้างหน้าต่าง ท่านลุงกล้ามแน่นนามตงฟางจับลูกธนูคร่าชีวิตที่เกือบจะพุ่งเข้ามาในรถม้าบดขยี้จนแหลกคามือ
กัดฟันกรอดจนสันกรามนูนเด่น คำรามลั่น “ไอ้พวกเวร!!!”
กร้าวใจมากแม่!
อะฮึ่ม ความในใจเป็นอย่างไรไม่สำคัญ ในสถานการณ์คับขัน เว่ยเฉินลี่รั้งร่างเล็กของลูกชายและลูกสาวเข้าไว้กับตัว ดวงตาแน่วแน่เฝ้ามองบานหน้าต่างและบานประตูรถม้าอย่างระแวดระวัง นางไม่ได้ตื่นตระหนกกรีดร้องหอบลูกหอบเต้าหนี ลูกสาวนายพรานมีสติเพียงพอที่จะรับรู้ว่าการอยู่บนรถม้าที่ประกอบจากไม้หนานั้นปลอดภัยกว่ามาก
ไม้สักแดงทนทานแข็งแรง ลูกธนูไม่อาจพุ่งผ่านทะลุเข้ามาเว้นแต่จะเป็นทางหน้าต่างที่เปิดให้ซีเยว่ได้รับลม ทั้งคมดาบหากไม่ใช่ผู้บ่มเพาะที่เชี่ยวชาญวิชาดาบระดับกลางขึ้นไปโดยเฉพาะ ย่อมไม่สามารถตัดไม้ให้เป็นเต้าหู้ได้
สำหรับฝาแฝดหงส์มังกร พวกเขาพบเจอเรื่องน่าตื่นตระหนกตั้งแต่แบเบาะจนชินชา
พูดก็พูดการที่มารดากลับมาบ้านพร้อมกับกระต่ายตัวโตยังอาจจะทำให้หัวใจเต้นแรงเสียมากกว่า
เจนภพในร่างซีเยว่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น วิญญาณโปร่งแสงผสานเข้ากับความทรงจำของเด็กหญิงตัวน้อยแนบสนิท อารมณ์ความรู้สึกบางประการจึงหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นึกแล้วก็ขำ
หากเป็นชาติที่แล้ว มีหรือที่อิเจนของเพื่อน ๆ จะไม่กรี๊ดแตก
เสียงอาวุธมีคมกระทบกันหนักหน่วงดัง ‘เคร้ง!’ ‘คร้าง!’ มีคำสบถจำนวนไม่น้อยที่น่าจดจำนำไปใช้ เหล่าผู้คุ้มกันทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดฝีมือ เห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่งว่าโจรกระจอกไม่สามารถสู้รบปรบมือกับผู้บ่มเพาะและอดีตผู้บ่มเพาะถึงสามคนได้ ไหนจะเหล่าผู้คุ้มกันมากฝีมืออีกหลายสิบ หากไม่ตกตายลงไปข้างชายป่าและบนพื้นถนนขรุขระก็หนีเข้ารกเข้าพงหัวซุกหัวซุน
อย่างไรก็ดี ข้างรถม้าไม่เคยขาดพ่อบ้านหลิวเค่อ คุณลุงนายพรานตงฟาง และคุณอาค้างคาวหานจ้าว
แผ่เมตตานะ ตัวประกอบโจรมาเร็ว เคลมเร็ว ตุยเร็ว
ว่าไปนี่ก็เพิ่งจะเข้าหน้าหนาวได้ไม่นาน ปุยหิมะขาวยังไม่ทันโปรยปราย พืชพรรณธัญญาหารแม้จะไม่อุดมสมบูรณ์เท่าเดิมแต่ก็ไม่ถึงขั้นวิกฤต ยิ่งเมืองหูโจวไม่ใช่เมืองติดขอบชายแดน ทำเลที่ตั้งออกจะค่อนไปใกล้กับเมืองชั้นใน อีกทั้งยังเป็นเมืองการค้าที่เจริญรุ่งเรืองเต็มเปี่ยมอัดแน่นด้วยเศรษฐีมั่งคั่ง ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะมีเหล่าเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนในเส้นทางค้าขายรอบ ๆ บ่อยครั้ง
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดทั้งมวลจึงไม่น่าจะมีโจรป่าได้เลย
โจรชาวบ้าน? อดอยากจึงผันตัวเป็นโจร?
หูโจวเต็มไปด้วยคนรวยไม่ขาดเม็ดเงินและบารมี พวกเขาแทบจะแย่งกันตั้งโรงทานในฤดูหนาว!
เฮอะ! ในความทรงจำของเด็กตัวเล็ก คุณหญิงย่ากับอนุหนึ่งสะใภ้รักของนางก็พบเจอกันเพราะความใจบุญสุนทานชี้ชวนกันตั้งโรงทาน..
จับเด็กยัดกระสอบได้ ใจบุญนักล่ะ!
ตีดิ้ง!
[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปลดล็อกภารกิจย่อย ผู้มีเมตตาตัวจริง ]
[ รายละเอียด ผู้อื่นมีเมตตาหรือไม่ ไม่สำคัญแต่พี่สาวและลูกสาวที่แสนดีจะต้องมีเมตตาต่อสรรพสิ่ง โฮสต์ที่รักจะต้องยืนไว้อาลัยให้แก่ศพโจรป่าเป็นเวลาสามสิบวินาที ]
[ รางวัล ตลับยาสมานแผลครอบจักรวาล จำนวนหนึ่งตลับ ]
ซีเยว่แบมือรอรับ “...”
ย้อนกลับขึ้นไปข้างบนเมื่อหนึ่งนาทีก่อน นางแผ่เมตตาแล้วเผื่อไม่เห็น
เจ้าแต้มนิ่งงัน ประมวลผลชั่วครู่ก่อนจะร้องประท้วง [ โฮสต์ที่รัก กรุณาอย่าโกงระบบ! ]
ระเบิดดอกไม้เปรี้ยงปร้าง
ระหว่างที่ก้อนแป้งคนพี่ทะเลาะตบตีกับอาจารย์ลึกลับไปไกลแสนไกล เสียงเอะอะจากด้านนอกเงียบสงบลงพร้อมกับเสียงเคาะประตูรถม้าเป็นจังหวะเรียบง่าย ตามด้วยเสียงของพ่อบ้านหลิวเค่อ
“ฮูหยิน ด้านนอกปลอดภัยแล้ว พวกท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่”
“พวกเราปลอดภัยดี พ่อบ้านหลิว” เว่ยเฉินลี่พรูลมหายใจ คลายอ้อมกอดจากเด็กเล็กนิดหน่อยเพื่อเปิดประตูรถม้า อนุญาตให้พ่อบ้านและผู้คุ้มกันที่เกรงว่าพวกนางจะหวาดกลัวได้มองสำรวจภายใน
เกี่ยวกับผู้คุ้มกันที่คอยดูแลมาตลอดสองปีโดยไม่เปิดเผย เว่ยเฉินลี่ไม่ขุ่นเคืองแม้แต่น้อย
พวกเขาดีกว่าซีเฉาหยางมาก! ทั้งยังมีความรู้สึกดีและอุ่นใจด้วย!
เมื่อไม่มีสิ่งใดต้องกังวลแล้วจึงต้องการที่จะเดินทางต่อ อย่างไรก็ดีก่อนที่จะได้กล่าวคำ เด็กหญิงตัวเล็กกลับเอื้อมมือออกมาจากอ้อมกอดมารดาจับแขนเสื้อของหลิวเค่อแผ่วเบา
“ท่านแม่ ท่านปู่ เยว่เอ๋อร์อยากอ้วก อุก-”
มีเด็กเมารถม้าไม่หายอยู่ตรงนี้
สถานการณ์เร่งด่วน พ่อบ้านหลิวรีบรับตัวคุณหนูน้อยออกมาทำธุระอย่างฉุกละหุก ซีเยว่ประสบความสำเร็จในการออกมาจากรถม้าแต่ข้าวปลาอาหารที่กักตุนไว้ตั้งแต่มื้อเช้าสำรอกออกมาหมดไส้หมดพุง อย่าให้พูดถึงเจ้าแต้ม เจ้าหน้าต่างดอกไม้หน้าไม่อายไม่ยอมรับการแผ่เมตตาของนางเป็นการไว้อาลัย
แถมมีเงื่อนไขที่ต้องชวนผู้คุ้มกันไปยืนสงบนิ่งบนพื้นใกล้กับศพเพิ่มขึ้นมาด้วย!
ฮึ่ม! ถ้าไม่ใช่เพราะรางวัลดีมากและซีเยว่ต้องการลงจากรถม้าเพื่ออ้วก อย่าได้หวังว่าจะยอมทำเลย!
รับกระบอกน้ำมาจากผู้คุ้มกันแก้มป่อง
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
ซีเยว่ดื่มน้ำอัก ๆ นอกจากข้างขวาจะมีพ่อบ้านหลิวยังขนาบข้างซ้ายด้วยชายรูปร่างสมส่วนอีกคน ช้อนดวงตาพินิจพิศมองหนึ่งในผู้บ่มเพาะที่มักจะขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้านบรรพบุรุษ ท่านอาหานจ้าวผู้นี้มีใบหน้าที่พูดอย่างสุภาพคือค่อนข้างกลมกลืนกับผู้คน ไม่มีส่วนใดโดดเด่นเป็นพิเศษ ข้อดีคือ ดูอายุไม่ออกและอ่านสีหน้าได้ยาก ตั้งแต่พบกันซีเยว่ยังไม่ได้ยินเสียงเขาสักแอะ
อืม.. นี่ไม่ใช่เงื่อนไขที่ดีหรอกหรือ?
ดวงตาหงส์น้อยเปล่งประกายแพรวพราว รอท่านปู่พ่อบ้านเช็ดหน้าเช็ดปากให้เรียบร้อยว่านอนสอนง่ายจึงค่อยทำท่าทีเปราะบางดั่งดอกบัวขาวกุมมือชายชราไว้แน่นขึ้นอีกนิด
“ท่านปู่หลิว เยว่เอ๋อร์ยังไม่อยากขึ้นรถม้า” เด็กหญิงเอ่ยเสียงหวาน ใบหน้าซีดเซียวไม่สู้ดีนัก
“คุณหนูข้างนอกรถม้าอันตรายมาก” พ่อบ้านหลิวเค่ออธิบายอย่างใจเย็น
“เยว่เอ๋อร์ทราบ แต่ แต่ขอจับมือท่านยืนตรงนี้อึดใจเดียว มีท่านปู่ เยว่เอ๋อร์ไม่เป็นไร..”
“นั่น-”
“นะเจ้าคะ เยว่เอ๋อร์จะจับมือท่านอาผู้คุ้มกันอีกข้าง”
จิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์รีบเสนอระหว่างที่ความน่ารักกำลังมีผลต่อใจผู้เฒ่า เหลือแต่ผู้คุ้มกันที่เป็นเป้าหมาย ซีเยว่ฟันธงได้ว่าหานจ้าวไม่ใช่ประเภทไม่รักเด็ก
ต่อให้ไม่พอใจนักก็ไม่น่าจะปฏิเสธลูกอ้อนได้ลงคอ
“ท่านอา ขอเยว่เอ๋อร์จับมือท่านได้หรือไม่”
“...”
หานจ้าวเช็ดมือกับเสื้อตนเอง ยื่นให้เด็กน้อยด้วยใบหูแดงก่ำ
คนหน้านิ่งเขาว่าขี้เขินท่าจะจริง
“อื้อ มือพวกท่านใหญ่แล้วก็อุ่นมาก ๆ เยว่เอ๋อร์รู้สึกปลอดภัยที่สุด” ซีเยว่ส่งเสียงหัวเราะคิกคักปิดท้าย ตรงนี้แม้จะมองเห็นซากหลังต้นไม้ใหญ่ไม่ชัดแต่ก็อยู่ห่างไม่ไกลไปจากศพโจรป่า เหมาะอย่างยิ่งที่จะยืนสงบนิ่งสามสิบวินาที
สูดลมหายใจเข้า ปล่อยลมหายใจออก เหม็นคาวเลือดแต่ต้องแสร้งเป็นว่าชื่นชมธรรมชาติ!
ท่านลุงตงฟางหยุดมองนางด้วยท่าทางขวัญผวาเถอะ!
ซีเยว่รู้ตัวดีว่าไอ้อาการสูดอากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นสนิม ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ซึ่งมีแต่ต้นไม้หักงอพร้อมด้วยเลือดสดเป็นหย่อม ๆ แลดูไม่ปรกติแม้แต่น้อย! อย่าว่าแต่กับผู้ใหญ่เลย! นี่มันไม่ปรกติมาก!!
ห้าวินาที.. ลมหายใจเข้า~
สิบวินาที.. ลมหายใจออก~
สิบห้าวินาที.. ดั่งดอกไม้บาน~
สามสิบวินาที.. ภูผาใหญ่กว้างงงงง~
ตีดิ้ง! ฟุ่บ..!
[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปฏิบัติภารกิจย่อย ผู้มีเมตตาตัวจริง สำเร็จอย่างสวยงาม ]
[ ได้รับรางวัล ตลับยาสมานแผลครอบจักรวาล จำนวนหนึ่งตลับ ]
ในวินาทีที่สามสิบที่มาพร้อมกับความกว้างของภูผา ซีเยว่ตัวน้อย ๆ ได้รับการต้อนรับด้วยเสียงแจกรางวัลของระบบและลูกศรหน้าไม้ซึ่งพุ่งออกมาจากแนวป่า เกือบจะคว้านเนื้อไหล่ซีเยว่ไปแล้วหากไม่ได้องครักษ์ข้าง ๆ ฟันมันเป็นชิ้น ๆ
ขุ่นพระขุ่นเจ้า!
แน่ใจนะว่าโจรป่า ไม่ใช่การลอบฆ่า!!