EP.7 :บังคับประตูให้เปิดออก
ฟ้าหลังฝนสว่างสดใสเสมอ..
จริงหรือหลอก?
เหตุการณ์ลูกศรหน้าไม้พุ่งเข้าทักทายทำความรู้จักกับซีเยว่ นอกจากจะสะเทือนจิตสะเทือนใจมารดาคนงามและน้องชายตัวน้อยมากเป็นพิเศษ ยังทำมนุษย์ยุคสองพันกว่า ๆ กลืนน้ำลายอึกใหญ่ฝืดคอ เข้าใจก่อนว่าไม่ตกใจโจรภูเขา ไม่ใช่ว่าไม่กลัวตาย
ดีลกับแผ่นเหล็กแหลมคมรูปทรงสามเหลี่ยมบนปลายไม้ต่อหน้าต่อตาระยะประชิดไม่ดีต่อใจ
นาทีระทึกก้อนเนื้อในอกร่วงไปอยู่ตาตุ่ม
บ้าจริง ถ้าไม่ได้หานจ้าวคนขี้เขิน ป่านนี้เนื้อไหล่ซีเยว่อาจจะถูกคว้านไปเป็นก้อน!!
กระซิก..
ด้านนอกผู้คุ้มกันไล่จับผู้ร้ายวุ่นวายลั่นป่า เสียงกรีดร้องโอดครวญดังแว่วมาแต่ไกล ๆ ในขณะที่ด้านในรถม้าซีเยว่ถูกห่อไว้ด้วยอ้อมกอดของมารดาและน้องชาย หนึ่งหญิงสาวหนึ่งเด็กชายลูบหัวลูบหางหงส์น้อยน้ำตาปริ่มจะไหล ขวัญหายยิ่งกว่าผู้ประสบเหตุเอง
คาดว่าซีเยว่จะไม่สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวโดยปราศจากผู้คุ้มกันชั่วคราว
เอาเถอะ
อันตรายมากก็ค่าตอบแทนก็มากตาม ซีเยว่ได้ตลับหยกสลักลายเตาหลอมห้าขาที่ดูแล้วปริมาณยาเพียงพอจะให้นิ้วเล็กของเด็กหญิง ป้ายแปะป้ายแปะสามครั้งถ้วนมาครอบครอง
[ ตลับยาสมานแผลครอบจักรวาล จำกัดจำนวนการใช้สามครั้ง ตำรับยาลับแห่งหอโอสถเซียน ใช้เวลากวนเจ็ดวันเจ็ดคืน ประกอบด้วยสมุนไพรคุณสมบัติเหนือจินตนาการหลากชนิด ว่ากันว่าตัวยาเท่าปลายนิ้วก้อยเพียงพอจะต่อแขนคนผู้หนึ่ง ]
คุ้มแหละ อย่างน้อยก็มีชีวิตสำรองให้ครอบครัวตั้งสาม
ครบคนพอดี
ทิ้งกลิ่นคาวเลือดและความพินาศของเส้นทางตัดผ่านป่าไว้เบื้องหลัง ล้อไม้หมุนเคลื่อนตามแรงลากของอาชาพ่วงพีซึ่งสามารถเตะหัวคนแหกอีกครั้ง ความเสียหายที่ขบวนรถม้าตระกูลซีได้รับน้อยนิดเสียจนเกือบดูไม่ออกว่าผ่านการปะทะที่ดุเดือดมาก่อน ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วยามจึงมองเห็นกำแพงเมืองสูงตระหง่าน ที่หน้าประตูเมืองใหญ่โตมีทั้งเกวียน คนเดินเท้า และรถม้าเช่นเดียวกันต่อแถวยาวเหยียด
เมืองหูโจวมองจากระยะไกลเต็มไปด้วยรัศมีความเฟื่องฟูแผ่ออกมาจนแสบตา
ไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อตอนที่ผ่านเข้ามาภายในเมืองอย่างราบรื่นด้วยอานิสงส์สัญลักษณ์ตระกูลคหบดีอันดับหนึ่งบนหลังคา ไล่ตั้งแต่หน้าประตูเมืองเข้ามาบ้านเรือนเป็นระเบียบเรียบร้อย ถนนหนทางสะอาดสะอ้าน ทอดสายตาไปทางใดก็สามารถมองเห็นร้านค้าและการจับจ่ายอย่างคึกคักได้ทุกหัวมุมถนน แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาวที่ฝืดเคืองแต่สิ่งอุปโภคบริโภคไม่มีวี่แววความขาดแคลน
มั่งคั่ง! มั่งมี! อุดมสมบูรณ์!
ฝาแฝดหงส์มังกรตื่นตาตื่นใจมาก เรียกร้องขอมารดาเกาะขอบหน้าต่างแม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงหมาด ๆ เมื่อครู่คนหนึ่งยังนิ่งงันขวัญหนี อีกคนยังร้องห่มร้องไห้เป็นเผาเต่า เปลี่ยนอารมณ์เร็วเสียจนมารดาตามไม่ทัน
เว่ยเฉินลี่คลี่ยิ้มอ่อนอกอ่อนใจ
“อย่าซนนักเล่า”
“เจ้าค่ะ” “ขอรับ”
เคลื่อนที่ผ่านเส้นถนนรถม้าซึ่งขนาบคู่ไปกับถนนการค้า ครู่หนึ่งจึงเข้าสู่พื้นที่พักอาศัยซึ่งมีความพลุกพล่านน้อยลง แรกเริ่มด้วยกำแพงหินสีเทาและบ้านหลังไม่ใหญ่นัก ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นกำแพงอิฐแดงและเรือนหมู่ซึ่งประกอบด้วยบ้านหลังใหญ่โตหลายหลังคา ระยะห่างและความกว้างระหว่างบ้านเรือนมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง รถม้าจึงหยุดลง
ซีเยว่ดึงซีหยวนผลุบหัวเข้ามาในรถม้าอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่เป็นเขตบ้านเรือนผู้มีอันจะกิน ทำไมถึงมีชาวบ้านร้านตลาดขวักไขว่มากนัก แต่ละผู้คนล้วนเมียงมองหรือเดินตามรถม้าคันงามมาด้วยกันทั้งสิ้น ซ้ำยามเฝ้าประตูบ้านก็ไม่เปิดประตูใหญ่แม้รถม้าจะมีตราสัญลักษณ์ตระกูลเด่นหรา
ไม่ชอบมาพากล
เสียงกระซิบกระซาบไม่เบาดังขรม
“ดูนั่นสิ ใช่รถม้าที่ออกไปรับฮูหยินเอกตระกูลซีหรือไม่?”
“โอ้ เจ้าคงหมายถึงนายหญิงเจียว”
“ไม่ใช่ ๆ คนก่อนหน้านั้นสิ”
“ฮูหยินผู้ถูกทอดทิ้งน่ะรึ นี่ นางยังกล้าบากหน้ากลับมาอีก!? นับถือ! นับถือ!”
“แหม งานศพแม่สามีจะไม่มาก็ไม่ได้ไหมล่ะ”
ออหอ เบาหน่อยก็ได้ป้า
คิดจะกินแตง[ กินแตง คำแสลงภาษาจีนหมายถึง สนใจเรื่องชาวบ้าน
]บ้านอื่นก็สงบปากสงบคำนิดนึง กลัวคนเขาไม่ได้ยินเลยมั้งแทบจะตะโกนกรอกเข้ามาในรถม้า แถวบ้านเรียกสาระแน ยูโน้ว?!
กลอกตาสามร้อยหกสิบห้าองศา คะนองปากยังไงก็ระวังคมกระบี่คมหอกด้วย ผู้คุ้มกันบ้านซีหน้าเขียวหน้าแดงหากได้รับคำสั่งคำเดียว ไม่ต้องแปลกใจที่จะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย เพราะวันต่อไปตื่นขึ้นมาอีกทีอาจจะไม่มีที่อยู่ แถมลิ้นก็อาจจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยด้วย
โฉนดบ้านอยู่ในมือพ่อบ้านหลิวผู้จัดการอสังหาฯ มากมายในตระกูล ส่วนลิ้น..
นั่นสิ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นท่านลุงท่านอาผู้คุ้มกันคนไหนจะเอาไปโยนให้ตัวอะไร บางทีอาจจะใส่กล่องไม้วางไว้ให้ข้างหมอนก็ได้ใครจะรู้
กระนั้นคนเหล่านี้ปากกล้าได้ชั่วครู่ เมื่อเห็นชายชราแซ่หลิวนามเค่อก็หุบปากฉับ
ผู้เฒ่าโค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อม “ฮูหยินรอสักครู่ พ่อบ้านชราจะสั่งให้เปิดประตูเดี๋ยวนี้”
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่พ่อบ้านจะได้ออกปากสั่ง สาวใช้ในชุดไว้ทุกข์วิ่งแถด ๆ ออกมาจากประตูเล็กข้างประตูใหญ่ทั้งที่หน้าซีดเป็นไก่ต้ม เหงื่อเย็นผุดพรายเต็มไรผม ปากสั่นยังถ่ายทอดคำพูดไม่ดังไม่เบา “เรียนฮูหยิน ประตูหลักไม่สะดวกเปิด เชิญฮูหยินเข้าทางประตูข้างเถอะเจ้าค่ะ”
พ่อบ้านหลิวเค่อราวกับถูกนำฟืนมาสุมไว้ใต้คาง “เจ้า-!!!”
“เพาะ...พ่อบ้านหลิว นายหญิงเจียวเกรงว่าจะรบกวน..”
“อนุหนึ่งเจียวจิน” ชายชราเค้นเสียงเย้ยหยัน ดวงตามาดร้ายเป็นอย่างยิ่ง “ดีจริง! หัวหงอกหัวดำไม่เห็นหัวกันแล้ว คิดจะข้ามก็ข้ามได้ตามอำเภอใจ”
ไม่เพียงไม่ไว้หน้าพ่อบ้านใหญ่ ยังถือว่าหยามเหยียบฮูหยินเอกตระกูลซีด้วย
หงส์น้อยลอบจำชื่อเมียน้อยลำดับที่หนึ่งไว้ในใจ
แบบว่าฟ้าหลังฝนสดใสสุดยอด ที่สดใสนี่เตรียมหลอกให้เจอพายุใหญ่ลูกใหม่หรือเปล่า?
ดูบ้านนี้ต้อนรับการกลับมาแต่ละอย่างนะ
“พ่อบ้านหลิว”
น่าเสียดายที่ชะตาชีวิตของสาวใช้ซึ่งกินดีหมีหัวใจเสือลงไปยังไม่ขาด เสียงหวานของเว่ยเฉินลี่ประดุจดั่งเสียงสวรรค์โปรด แต่เดิมนางเป็นเพียงสาวชาวบ้านไม่ถือยศถืออย่าง เข้าประตูไหนล้วนไม่สำคัญ วันนี้ยอมกลับมาเหยียบบ้านตระกูลซีอีกครั้งเพื่อลูกสาว หากธรณีประตูใหญ่มันสูงนักก็ช่างเถอะ
เรื่องของเรื่องคือมารดายอม แต่ธิดาไม่ยอม
“ท่านแม่” ก้อนแป้งส่งเสียงหวานตาปรอย
“ประตูใหญ่ ๆ เยว่เอ๋อร์กับหยวนเอ๋อร์เข้าไม่ได้หรือเจ้าคะ?”
มองดวงตาใสของบุตรสาวบุตรชาย ดวงใจของเว่ยเฉินลี่สั่นสะท้าน
ลำพังตัวนางผู้คนจะดูถูกอย่างไรก็ย่อมได้ ทว่าหากวันนี้บุตรชายและบุตรสาวก้าวเข้าบ้านของตนเองทางประตูข้างวันข้างหน้าจะเงยหน้ามองผู้อื่นอย่างไร? นี่ไม่เท่ากับการยินยอมให้อนุของชายผู้นั้นรังแกเจ้าก้อนแป้งหรือ? ดีร้ายซีเยว่และซีหยวนก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลซี ถึงจะถูกผลักไสก็เป็นคุณหนูใหญ่และคุณชายใหญ่ที่มีสิทธิ์เต็มในสมบัติบิดา
ไม่ว่าอย่างไร หากจะต้องให้บุตรฝาแฝดกล้ำกลืนอยู่ใต้ผู้อื่น นางล้วนไม่ยินยอม!
เว่ยเฉินลี่เคี้ยวคำว่าพ่ายแพ้แหลกในปาก
อนุหนึ่งเจียวจินหรือ
“พ่อบ้านหลิว เปิดประตู”
หึ ต่อให้เป็นซีเฉาหยาง นางก็จะบดเขาด้วยกรามให้ไม่มีชิ้นดีหากแตะต้องลูกน้อยที่รักของนาง
พ่อบ้านหลิวเค่อได้ยินคำสั่งจากนายหญิงจุดรอยยิ้มบนริมฝีปาก ร่างกายที่แก่ชราราวกับได้รับเลือดไก่ ตะเบ็งเสียงก้องกังวานราวกับเสียงคำรามของพยัคฆ์เฒ่า
“ไม่ได้ยินรึ!!! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!”
อดีตผู้บ่มเพาะจะสิ้นลายได้ที่ไหน
ยามเฝ้าประตูมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านพ่อบ้าน แต่นายหญิงเจียวจิน-”
“เหอะ ผิดที่ข้าละเลย..” หลิวเค่อเอ่ยเสียงเนิบนาบเย็นเยียบ ดวงตาคมกริบเฝ้ามองตงฟางและหานจ้าวกระโดดลงจากม้าผลักไสยามเฝ้าประตูไปคนละทางราวกับยักษ์มาร “จดจำไว้ตระกูลซีไม่เคยมีนายหญิงแซ่เจียว”
“นายหญิงเพียงผู้เดียว คือ ฮูหยินเอกเว่ยเฉินลี่!”
สาวใช้ผู้จงรักภักดีลนลานแต่ก็สายไปแล้ว “มะ...ไม่ได้นะเจ้าคะ นายหญิงเจียวจินสั่งไว้! ห้ามเปิดนะ!”
ประตูขนาดมหึมาเปิดอ้าออกโดยง่ายเพียงกำลังแขนเดียวของผู้คุ้มกัน
สิบ สิบ สิบ
คะแนนเต็มไม่มีหัก
ทว่าการแสดงโรงใหญ่จะจบลงเพียงเท่านี้ได้อย่างไร การเปิดตัวของฮูหยินเอกมีผู้จัดเวทีไว้ให้อย่างสมเกียรติทั้งที ไม่ต้องเล่นให้ถึงพริกถึงขิงเกินไปเพียงฝ่ามือขาวกระจ่างเรียวสวยราวกับปฏิมากรรมซึ่งทวยเทพบรรจงสร้างยื่นออกจากรถม้าเท่านั้นทุกสรรพสิ่งพลันเงียบสงัด
ซีเยว่ลอบใช้ยันต์อัญเชิญเมฆทองมงคลเงียบ ๆ
ทันทีที่ร่างของเทพธิดาในอาภรณ์ปรากฏตัว สรรพชีวิตรอบด้านคล้ายกับว่าจะลืมหายใจ เมฆาทั่วท้องฟ้าอาบย้อมด้วยแสงสีทองเคลื่อนคล้อยอ้อยอิ่งราวกับต้อนรับผู้เป็นที่รักแห่งสวรรค์ เว่ยเฉินลี่ทัดเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเป็นคลื่นอย่างสวยงามกับใบหู ใบหน้าไร้ที่ติเชิดขึ้น ริมฝีปากแต้มรอยยิ้มเล็กน้อย กิริยาท่าทางนุ่มนวลสูงส่งราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยากก้าวล่วง
มหัศจรรย์! นิมิตหมายมงคลเกิดขึ้นทันทีที่เท้าฮูหยินเอกสกุลซีแตะพื้น!
ชั่วขณะหนึ่ง ผู้คนถึงกับมีความคิดที่ว่าตนอาจจะตกนรกหมกไหม้เพราะกรรมที่ทำไว้สนุกปาก
เว่ยเฉินลี่เอ่ยเสียงเนิบ เลิกคิ้วงามน่ามอง “เจ้าว่าเปิดประตูใหญ่ไม่ได้”
“จะ...เจ้าค่ะ” สาวใช้คุกเข่าหมอบราบไปกับพื้น ไม่กล้าสบตาเทพธิดา แสดงท่าทีหวาดกลัวตัวสั่นระริก
กลับกัน หญิงงามใจเย็นไม่แสดงท่าทีแข็งกร้าวใดออกมา
“ไม่สะดวกอย่างไร”
“ระ...เรียนฮูหยิน ภายในจัดงานศพของฮูหยินผู้เฒ่า”
“ข้ารู้” มารดาลูกแฝดพยักหน้า “แล้วไม่สะดวกอย่างไร”
“นายหญิงเจียวจินเกรงว่าจะเป็นการรบกวน ดังนั้น ดังนั้น..”
“ศพแม่สามีของข้าตั้งอยู่ที่หน้าประตูใหญ่หรือ”
“มิได้!”
“เช่นนั้นจะรบกวนอย่างไร”
ภายใต้ความสงบไร้ระลอกคลื่น เว่ยเฉินลี่สูงส่งไม่อาจแตะต้อง เมื่อสาวใช้ไม่อาจสรรหาถ้อยคำข้ออ้างมาตอบได้อีกนางก็ไม่คาดคั้น กลับหันไปรับเทพบุตรและเทพธิดาตัวน้อยขาวกระจ่างราวกับไม่เคยต้องมลทินทางโลกลงมาจากรถม้าคันเดียวกัน จับจูงมังกรน้อยไว้ที่มือขวา และโอบอุ้มหงส์น้อยไว้ที่แขนซ้าย
เมฆสีทองหนาแน่น บ้างเลื่อนลอยลงมาโอบล้อมแม่ลูกไว้อย่างทะนุถนอม
สาวใช้สำนึกเสียใจกับสิ่งที่กระทำลงไปเมื่อสาย
ท่านแม่คนงามเปล่งสุรเสียงเนิบ “ประตูเปิดแล้ว เช่นนั้นเข้าได้แล้วกระมัง”
ตีดิ้ง!
[ ขอแสดงความยินดี โฮสต์ที่รักปลดล็อกภารกิจย่อย กล้าดีอย่างไร! ]
[ รายละเอียด ในฐานะพี่สาวและลูกสาวจะปล่อยให้ครอบครัวถูกเอาเปรียบไม่ได้ ตาต่อตาฟันต่อฟัน โฮสต์ที่รักจะต้องสอนบทเรียนอันล้ำค่าแก่เหล่าอนุทั้งห้าต่อหน้าประชาชี! ]
[ รางวัล เครื่องบินกระดาษส่งรัก จำนวนหนึ่งชิ้น ]
ซีเยว่กู่ร้อง ขอบคุณที่ส่งเสริม
โฮ่ ภารกิจรอบนี้ถูกใจเยว่เอ๋อร์นัก!