บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน (1)

ภายในบ้านหลังเล็กตั้งอยู่บนพื้นที่ชนบทห่างไกล หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงเตาเก่า ๆ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ เธอขยับตัวไปมาเล็กน้อย เมื่อไม่ได้มีอาการบาดเจ็บหรือผิดปกติใดก็เอะใจว่าก่อนหน้านี้เพิ่งจะโดนรถชนมาทำไมถึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย

พอลืมตาขึ้นมาเต็มตาก็ต้องตกใจมาก เพราะว่าแทนที่ตัวเองควรจะต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลกลับมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ จางอี้ถิงมองเพดานโทรม ๆ ห้องก็รู้สึกว่าไม่คุ้นเคยจึงลุกขึ้นมานั่งเพื่อที่จะมองไปรอบ ๆ จะสามารถเห็นอะไร ๆ ได้ถนัดขึ้น

“หรือว่าจะอยู่บ้านญาติที่ชนบท” จางอี้ถิงพึมพำคนเดียวคิดว่าญาติพากลับมาดูแลที่ชนบทหลังอุบัติเหตุรึเปล่านะ แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าใช่ เพราะความทรงจำสุดท้ายคือเธอถูกรถชนเข้าอย่างจัง กำลังนอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ข้างถนนราวกับวิญญาณออกจากร่างแล้วนี่นา แล้วญาติที่เธอมีก็ไม่เคยติดต่อกันเลยตั้งแต่ที่พ่อกับแม่จากไปเมื่อหลายปีก่อน

เธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องก็พบว่าข้าวของเครื่องใช้นั้นไม่ได้เหมือนกับยุคสมัยปัจจุบันเลยต่อให้จะอยู่ที่ชนบทก็ตาม

กาน้ำชากระเบื้องเคลือบใบใหญ่ที่สมควรจะเลิกใช้กันไปนานแล้ว ไหนจะผ้าห่มสีแดงลายดอกไม้ หนังสือเก่าที่ยังใช้การเย็บสันขอบอีกสองสามเล่ม เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในตู้ที่มีแต่ชุดกี่เพ้ากับเสื้อคอจีนเก่า ๆ ปฏิทินหน้าล่าสุดเขียนวันที่ไว้ว่า 11กุมภาพันธ์ 1980

‘หรือว่าเราตายไปแล้วจริง ๆ แล้วนี่มันก็เหมือนการทะลุมิติเลย’ จางอี้ถิงคิดในใจอย่างหวั่น ๆ

มือข้างขวาเลื่อนลงไปหยิกที่ต้นขาทำให้รู้สึกเจ็บก่อนที่จะแน่ใจว่านี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน เธอยังไม่ได้ทันสังเกตว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ติดมุมผนังห้องและจ้องมองมาทางตัวเองเงียบ ๆ ในความสลัวของค่ำคืนผ่านตะเกียงน้ำมันก๊าดฉุน ๆ

พลันสายตาก็หันมองไปทั่ว ๆ ก็พบกับสายตาของเด็กน้อยในที่สุด หลังจากสำรวจรอบห้องอย่างสงสัย เด็กชายคนนี้มองเธออย่างแปลกใจ เธอเองก็มองไปที่เด็กน้อยด้วยสายตาที่มีคำถามมากมายแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มถามเด็กน้อยว่าอย่างไรดี

จะถามว่าที่นี่ที่ไหนหรือว่าเขาเป็นใคร แต่ในใจกลับรู้สึกว่าไม่ถามจะดีกว่า เธอจึงได้แต่นั่งมองเขาอยู่นาน จะว่าไปแล้วเหมือนเด็กชายคนนี้เองก็กำลังนั่งเฝ้าเธออยู่ด้วยเหมือนกัน

ผ่านไปครู่หนึ่งเด็กน้อยกระโดดลงจากเก้าอี้เดินมาทางที่เธอนอนอยู่ “แม่จะออกไปไหนหรือครับ”

จางอี้ถิงฟังคำถามแล้วก็งง เด็กผู้ชายคนนี้เรียกเธอว่าแม่ แสดงว่าวิญญาณเธอต้องมาเข้าร่างของแม่เขาแน่ ๆ หญิงสาวพยายามนึกว่าที่นี่คือที่ไหนแต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกความทรงจำอะไรก็ไม่มี จึงได้แต่มองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ครั้งนี้มาสะดุดตรงกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่วางอยู่ข้าง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเธอวางไว้ตั้งแต่ตอนไหน

กระเป๋าใบนี้ตุงแน่นเหมือนกับว่าใส่ของเข้าไปจนเต็มพื้นที่ จางอี้ถิงเปิดออกดู ก็เห็นว่าข้างในเต็มไปด้วยเสื้อผ้ากับของใช้ผู้หญิง แล้วอยู่ ๆ เธอก็เบิกตาโตอย่างตกใจเพราะคิดออกแล้วว่านี่คือสถานที่ในนิยายที่ถูกทำเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง ‘สายลมรักฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1980’ และกระเป๋าใบนี้คือกระเป๋าที่หญิงสาวนางเอกในเรื่องเก็บเสื้อผ้าไว้เรียบร้อยเพื่อที่จะหนีไปกับคนรักเก่าก็คือพระเอกของเรื่อง และเด็กชายตรงหน้าคนนี้ก็คือลูกชายของเธอเอง

ในนิยายที่ถูกทำเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง ‘สายลมรักฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1980’ นางเอกนิยายชื่อ ‘จางรั่วอิง’ แต่งงานกับนายทหารหนุ่มอนาคตไกลชื่อ ‘หลี่ลู่เสียน’ ซึ่งเป็นตัวร้ายของซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งคู่มีลูกชายด้วยกันคนหนึ่งอายุสี่ห้าขวบชื่อ ‘หลี่หยวนชิง’ ปกติแล้วหลี่ลู่เสียนผู้เป็นสามีจะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เพราะการเป็นทหารต้องไปประจำการที่ค่ายทหาร หรือแถบชายแดน แม้ว่าช่วงนี้จะไม่มีสงครามแล้วก็ตาม

หญิงสาวจะอยู่บ้านกับลูกชายสองคน และในขณะนี้เธอเก็บกระเป๋ากำลังจะออกจากบ้านไปในขณะที่ลูกชายกำลังหลับ เธอนัดกับ ‘ถังฟงอวิ๋น’ พระเอกของเรื่องซึ่งเคยเป็นคนรักเก่าที่ทางแยกท้ายหมู่บ้านเพื่อจะหลบสายตาชาวบ้านจากนั้นก็หนีไปอยู่ในเมืองกับเขา และตอนนี้ก็ถึงเวลาต้องหนีแล้ว!

จางอี้ถิงในร่างของจางรั่วอิงนึกออกแล้วก็วางกระเป๋าลง เธอยังไม่ได้ตอบคำถามลูกชาย เพราะมัวแต่คิดถึงเนื้อเรื่องในนิยายที่ทำเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องนี้ปะติดปะต่อกับคำทำนายของหมอดูที่เคยทำนายทายทักเอาไว้ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกันก็เป็นได้

แต่จางอี้ถิงผู้ซึ่งทะลุมิติมากลับคิดเอาเองว่าสวรรค์ส่งเธอมาที่นี่หรือจะให้เธอมาเจอเนื้อคู่ และเนื้อคู่ของเธอนั้นน่าจะเป็นตัวร้ายในนิยายมากกว่าไม่น่าจะเป็นพระเอกของเรื่องอย่างถังฟงอวิ๋น เพราะว่าเขาตายช้ากว่าใคร ๆ ในเรื่องเลย

อีกอย่างคือนี่เป็นครอบครัวแล้ว ถ้าหนีตามชู้รักไปเธอยังจะเป็นนางเอกได้อย่างไร คงเป็นเหมือนที่มีทั้งนักอ่านและคนดูถึงกับเขียนวิพากวิจารณ์กันมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นางเอกบ้าอะไรหนีไปกับชู้ แล้วพระเอกบ้าอะไรถึงพรากลูกพรากเมียคนอื่นไป

มาคิดดูอีกทีกลับยังสับสนอยู่ว่าแล้วคราวนี้ที่เหมือนจะทะลุมิติมาแน่ ๆ แล้ว เธอควรจะเลือกใครระหว่างพระเอกนิยายซึ่งก็คือถังฟงอวิ๋น คนที่เธอควรจะหนีตามไปตามเนื้อเรื่องเดิมของนิยายในซีรีส์ทางโทรทัศน์ หรือว่าอยู่กับตัวร้ายซึ่งเป็นสามีของเธอที่ชื่อว่าหลี่ลู่เสียนดี หากว่าเธอไม่หนีไปกับชู้ บางทีตัวร้ายคนนี้อาจไม่จำเป็นต้องร้ายก็ได้ เพราะไม่ได้ถูกพรากเมียไปนี่นา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel