4.สลับตัว / สลับรักยัยเลขาฝาแฝด
4.สลับตัว / สลับรักยัยเลขาฝาแฝด
ช่วงเช้าของอีกวัน กรีนมาหาอคิณแต่เช้า เพราะเธอมีเรื่องมาให้เพื่อนช่วยอีกตามเคย ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมาถึงปากอคิณจะพูดว่าไม่อยากช่วย แต่เขาก็ช่วยเธอทุกครั้ง ไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่
"อคิณ...พรุ่งนี้แกไปกรุงเทพเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิ" อคิณทำหน้าสงสัย เพราะปกติกรีนไม่ค่อยมีธุระที่กรุงเทพสักเท่าไหร่
"แกจะไปทำอะไร" อคิณไม่ได้ตอบ แต่ตั้งคำถามแทน แล้วหรี่ตามองเพื่อนอย่างนึกเอะใจ
"คิดจะทำอะไร" อคิณที่เป็นเพื่อนกับกรีนมานาน เหมือนจะรู้ทันเธอได้ทุกครั้งไป เพราะกรีนเป็นคนชอบทำอะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน และเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น คนที่มันเอารูปมาให้ดูเมื่อวานนี้อย่างแน่นอน
"จะไปหาผู้หญิงคนนั้น...ไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ" นั่นไงนึกแล้วไม่มีผิด แต่เรื่องนี้เขาก็อยากรู้อยู่เหมือนกัน ว่าตัวจริงของเธอจะเหมือนในรูปหรือเหมือนกับเพื่อนของเขาขนาดไหน
"พรุ่งนี้ฉันว่างพอดี ไปเป็นเพื่อนก็ได้" ดีจริงๆ ที่มีมันเป็นเพื่อน กรีนคิดในใจ ไม่เคยผิดหวังเลยสักครั้ง
"แล้วแกคิดจะทำอะไรต่อ" อคิณถามเพื่อนอย่างอยากรู้ ว่ามันจะคิดอะไรซนๆ อีกหรือเปล่า เพราะกรีนมักจะชอบทำอะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำกันซึ่งข้อนี้เขารู้ดีกว่าใคร
"อื่ออออ" กรีนทำท่าคิดๆๆ
"อย่าคิดที่จะทำอะไรบ้าๆ นะโว๊ย" อคิณโวยวายทันที เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน
"ฉันจะขอสลับตัวกับเธอไปสืบเรื่องนี้เอง" เธอพูดขึ้นอย่างมั่นใจ และเธอก็จะทำอย่างที่พูดจริงๆ เมื่อคืนเธอนอนคิดเรื่องนี้มาทั้งคืน และเธอก็สรุปได้ตามที่พูดนี่แหละ
"แกไม่ใช่นักสืบนะไอ้กรีนบ้าหรือเปล่า" อคิณรีบค้านทันที ใช่เขาเป็นคนพูดว่าให้มันไปสืบก็จริง แต่เขาหมายถึงให้มันไปสืบกับพ่อกับแม่ของมันต่างหาก แต่นี่ความคิดของมันเกินคาดจริงๆ
"ก็กำลังจะเป็นอยู่นี่ไง...นักสืบ" ดูมันพูดดิ อคิณส่ายหัวให้เพื่อน ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลย ถึงห้ามมันก็คงไม่ฟังหรอกเขารู้จักมันดี
“แกแน่ใจเหรอ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะโว้ย แล้วแกไม่กล้วถูกจับได้หรือไง” อคิณไม่เห็นด้วยกับเพื่อน เพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป แล้วผู้หญิงคนนั้นเธอจะเล่นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ฉันไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้วแกก็รู้นี่ แล้วฉันก็ไม่กลัวถูกจับได้ด้วย” กรีนมั่นใจเรื่องนี้มากว่าหน้าตาของเธอสองคนแยกกันแทบไม่ออก ยังไงก็ไม่มีทางถูกจับได้อย่างแน่นอน
"งั้นฉันของอะไรแกอย่างหนึ่งสิ" ไหนๆ ห้ามมัน มันก็ไม่ฟังอยู่แล้ว เขาก็นึกสนุกขึ้นมาเหมือนกัน ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นยอมสลับตัวด้วยจริงๆ แสดงว่าคนที่อยู่ที่นี่และรู้เรื่องนี้ก็มีแค่เขาคนเดียว
"อะไร!" กรีนหันมามองหน้าอคิณทันที อย่างสงสัยเพื่อนของเธอคิดจะทำอะไร
"อย่าบอกเธอคนนั้นว่าฉันรู้เรื่องนี้" มันต้องคิดจะทำอะไรแน่ๆ เป็นเพื่อนกันมานานรู้หมดแหละว่าอีกฝ่ายคิดอะไร เพราะต่างคนก็ต่างไม่เบาพอกัน
"ทำไม?" เธอถาม
"เออน่า...ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก เดี๋ยวจะดูแลให้อย่างดีเลยอ่ะ" อคิณทำหน้าจริงจัง บอกไปแบบนั้น เขาแค่นึกสนุกไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอจริงๆ อยากรู้ว่าคนสองคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วต้องมาใช้ชีวิตของอีกคน โดยที่ไม่รู้การใช้ชีวิตของอีกฝ่ายเลย แค่คิดมันก็วุ่นวายแล้ว ที่จริงที่นี่ไม่ได้มีอะไรอันตรายหรือใครที่คิดไม่ดี เพราะฉะนั้นคนที่จะมาอยู่ที่นี่เขาไม่เป็นห่วง อีกอย่าเธอคนนั้นยังมีเขาที่จะคอยเป็นเพื่อนให้เธออีกด้วย แต่กับกรีนเพื่อนของเขา กรุงเทพเลยนะมีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน แล้วคนที่ตรงไปตรงมาอย่างมันจะรอดมั้ยเนี่ย ปากมันก็ไม่ค่อยดี แต่ยังไงเขาก็เอาใจช่วยมันก็แล้วกัน แล้วก็ขอให้คนที่มันจะต้องไปเจอ ขอให้มันเจอแต่คนดีๆ ก็แล้วกัน
"ได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้ ฉันก็สบายใจ" มันคงอยากจะรู้จักตัวตนของเธอคนนั้นมั้ง ว่าความบ้าจะสู้ฉันได้หรือเปล่า แต่ช่างมันเถอะไอ้นี่มันไว้ใจได้ อคิณไม่ใช่คนเจ้าชู้ และเธอก็สามารถไว้ใจเพื่อนคนนี้ได้อย่างแน่นอน
ณ ห้องนอนเวลาสองทุ่ม
หลังจากที่แลกเบอร์แลกไลน์กันแล้ว นี่ก็ผ่านมาสามวัน กรีนตัดสินใจทักไลน์ไปหาแกรนด์ เพราะเธอทนความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหว แล้วก็อยากรู้เรื่องเร็วๆ แล้วด้วย และเธอก็หาคนไปเป็นเพื่อนได้แล้วด้วย...นั้นก็คืออคิณ
"Green: สวัสดี... ขอโทษด้วยนะที่ต้องให้รอหลายวัน พอดีที่ไร่มีปัญหาน่ะ" กรีนเลือกที่จะโกหกไป เพราะว่าถ้าบอกว่าหาวิธีวางแผนอยู่จะดูไม่ดี
"Grand: ไม่เป็นไร่ค่ะ" ไลน์ไปปุ๊บเธอก็ตอบปั๊บสงสัยจะรออยู่...กรีนคิดในใจ
"Green: อยากเจอเธอจังให้เราไปหาได้มั้ย พอดีเรามีธุระที่กรุงเทพพอดี" จริงๆ ธุระของกรีนก็ไปหาแกรนด์นั่นแหละ
"Grand: ได้สิ นัดสถานที่มาเลยค่ะ" แกรนด์ก็อยากเจอกรีนไม่แพ้กัน ทั้งสองต่างคนต่างอยากรู้เรื่องของอีกฝ่ายและเรื่องของตัวเองเช่นกัน
วันรุ่งขึ้น
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนัก อาจจะเป็นเพราะตอนนี้ยังไม่ได้เวลาทานอาหารคนเลยน้อย วันนี้แกรนด์เธอลางานมาเพื่อพบกับผู้หญิงที่เธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เธอเลือกที่จะมาเจอกันโดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น
"รอนานมั้ย" กรีนเดินเข้ามาคนเดียว เธอเห็นว่าแกรนด์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอเลยเข้าไปนั่งลงตรงข้าม
"ไม่นานค่ะ" ทั้งสองยิ้มให้กัน รู้สึกไว้ใจอีกฝ่ายโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันคือความผูกพันธ์ของสายเลือด เมื่อทั้งสองคนเจอกัน ต่างคนต่างรู้สึกดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง เหมือนกับคนที่จากกันไปนานแล้วได้กลับมาพบกันอีก ในความรู้สึกของพวกเธอมันบอกแบบนั้น
"เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ขอดูบัตรประชาชนหน่อย" กรีนขอดูสิ่งที่เธออยากรู้มาหลายวันทันที สิ่งนี้นี่แหละคือสิ่งที่ยืนยันและเป็นข้อมูลได้ดีที่สุด เพราะมันสามารถบอกอะไรให้กับเธอได้หลายอย่าง แกรนด์หยิบบัตรประชาชนในกระเป๋าให้กรีนดู เพราะเธอก็อยากรู้เช่นกัน กรีนหยิบเอาบัตรประชาชนสองใบมาเทียบกัน ของเธอและของแกรนด์
"ดูนี่สิ เราเกิดวันเดียวกัน เดือนเดียวกันและยัง พ.ศ.เดียวกันอีกด้วย" กรีนเอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้น น้ำเสียงดีใจนี่สิ่งที่เธอคิดมันกำลังจะเป็นจริงอย่างนั้นหรือ แต่แล้วคำถามมากมายที่เกี่ยวกับเธอก็เข้ามาเต็มหัว ทำไม ทำไม และทำไม
"ดูชื่อเรากับชื่อเธอสิ กัญญารัตน์/กัญญาณี" แกรนด์แสดงความคิดเห็นเช่นกัน แต่นามสกุลของเธอสองคนไม่เหมือนกันแต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้
"แฝดเหรอ/แฝดเหรอ" ทั้งสองหันหน้ามองกัน อีกอย่างหน้าของพวกเธอมันก็เป็นหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว แต่... ทำไมเราถูกแยกออกจากกันล่ะ นี่คือสิ่งที่พวกเธอกำลังสงสัย และจะต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้
"เราสองคนเป็นพี่น้องกันฉันมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์" คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้อย่างแน่นอน กรีนแสดงความคิดของตัวเองออกมา ดีเอ็นเอคงไม่ต้องไปตรวจแล้วมั้ง ในเมื่อดีเอ็นเอของพวกเธอสองคนมันก็ปรากฏอยู่ที่ใบหน้าอย่างชัดเจนขนาดนี้แล้ว แต่ใครจะเป็นพี่และใครจะเป็นน้องข้อนี้พวกเธอไม่แน่ใจ
"...." แกรนด์ทำตาปริบๆ ไม่คิดว่าเธอจะได้เจอเรื่องอะไรแบบนี้ ตอนนี้พวกเธอทั้งสองคนกำลังดีใจ แต่ก็ต้องคิดหนักเรื่องพ่อแม่....เพราะต่างคนก็มีทั้งพ่อและแม่เช่นกัน
"พ่อแม่เธอชื่ออะไร เล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังหน่อย แล้วฉันก็จะเล่าเรื่องของฉันให้เธอฟังบ้าง" กรีนอยากจะรู้จักแกรนด์ให้มากขึ้น
"ได้สิคะ" แกรนด์เริ่มเล่า…
"ชีวิตฉันไม่มีอะไรมาก ฉันมีพ่อชื่อสุพจน์ แม่ชื่อนภา เรามีกันอยู่แค่สามคน พ่อแม่ลูกตั้งแต่ฉันจำความได้ ท่านทั้งสองเลี้ยงดูฉันมา ครอบครัวของเราก็พื้นๆไม่ได้รำรวยอะไรแต่ก็ไม่ได้เดือดร้อน พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง ฉันมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง ตั้งแต่จำความได้ ก็อยู่ที่บ้านหลังนี้นี่แหละ ส่วนเรื่องที่ทำงาน ฉันทำงานเป็นเลขาให้คุณเควิน คุณเควินเป็นประธานบริษัท เขาเป็นหัวหน้าโดยตรงของฉัน ฉันทำงานเป็นเลขาให้เขาได้สามปีแล้ว และฉันจะเรียกเขาว่าบอส คุณเควินเป็นคนเจ้าชู้เปลี่ยนผู้หญิงควงบ่อย อ่อแต่สำหรับฉันกับเขาเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นนะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ชีวิตฉันก็ไม่ได้มีอะไรมาก ก็มีเท่านี้นี่แหละ แล้วชีวิตเธอล่ะ" แกรนด์ถามต่อ เพราะเธอก็อยากรู้ชีวิตของอีกฝ่ายเหมือนกัน
"อื่อ...ฉันมีพ่อชื่อภูมิพัฒน์ มีแม่ชื่อศิริวรรณ ที่บ้านทำไร่กาแฟ ไร่ชื่อภูมิพัฒน์ ก็คือชื่อพ่อของฉันเองนั่นเอง ในบ้านก็จะมีแม่บ้านสามคน มีป้าอิ่ม พี่ปลาและพี่ส้ม สองคนนี้เป็นหลานป้าอิ่ม ที่ไร่มีคนงานประมาณสองร้อยคน อ่อแล้วมีห้วหน้าคนงานชื่อ ลุงบุญเพิ่ม เขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่นั่น แล้วฉันมีเพื่อนอีกคนที่สนิทมาก เขาชื่ออคิณ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไร่เราอยู่ติดกัน บ้านมันทำไร่ชา นิสัยดียังไม่มีแฟนเธอสนใจป่ะ" แกรนด์ส่ายหน้าเบาๆ แล้วยิ้มๆ และเมื่อกรีนเล่าเรื่องของเธอจบ เธอก็เอ่ยถามในสิ่งที่เธอต้องการทันที
"แกรนด์...เธอสนใจจะไปเที่ยวไร่ของฉันสักพักมั้ย ที่นั้นอากาศดีมากเลยนะ" ในเมื่อเราสองคนก็มีพ่อและแม่ครบ แต่หลักฐานตามบัตรประชาชนมันขัดแย้งกัน มันก็คงมีทางเดียวแล้วแหละ ก็คือสลับตัวเพื่อที่จะไปสืบเรื่องนี้ ซึ่งตอนแรกกรีนก็คิดที่จะทำแบบนี้อยู่ในใจอยู่แล้ว แต่พอได้มารู้ข้อมูลของอีกฝ่าย ทำให้เธอมั่นใจว่าเรื่องระหว่างเธอสองคนมันต้องมีอะไรแน่ๆ และเรื่องนี้เธอก็จะไม่ยอมปล่อยผ่านอย่างแน่นอน จะให้ไปถามพ่อกับแม่ตรงๆ เหรอ พวกท่านคงไม่ยอมบอกหรอก เพราะถ้าพวกท่านจะบอกคงบอกไปนานแล้ว แล้วมันมีเรื่องอะไรกันที่ทำให้เราสองคนต้องแยกจากกัน แล้วใครเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของพวกเธอกันแน่
"แล้วกรีนจะให้เราไปอยู่ในฐานะอะไรล่ะ" แกรนด์ถามขึ้น เธอเริ่มสนใจ ในสิ่งที่อีกคนเสนอ คิดๆ แล้วมันก็น่าสนใจดี แต่จะดีเหรอเธอไม่กล้า
"ก็ฐานะลูกสาวเจ้าของไร่กาแฟไง"
"จะดีเหรอ ฉันกลัวถูกจับได้"แกรนด์ทำตาโต เธอยอมรับว่าเธอกลัว กลัวถูกจับได้ กลัวต้องไปอยู่ในที่ที่เธอไม่เคยอยู่ แล้วคนที่นั่นแหละ เขามีนิสัยใจคอเป็นยังไง ใจดีมั้ย ดุมั้ย เพราะถ้าเธอตกลงนั่นเท่ากันว่า เธอไม่มีใครที่รู้จักที่นั่นเลยนะ เธอจะอยู่ได้เหรอ แต่สิ่งที่กรีนเสนอมันก็น่าสนใจอยู่มาก ตอนนี้แกรนด์กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
"ไม่มีใครสงสัยหรอก ดูสิเหมือนกันซะขนาดนี้" ที่จริงกรีนก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก แค่ตอบให้แกรนด์สบายใจเท่านั้น เพราะแกรนด์ดูเรียบร้อยผิดกับเธอมาก แกรนด์ดูไม่ค่อยกล้าและออกจะกลัวๆ ด้วยซ้ำ แต่สำหรับกรีน เธอไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย เธอกำลังรู้สึกสนุกและมันก็ท้าทายสำหรับเธอมาก
"..........." แกรนด์ยังลังเล กรีนเห็นสายตาของอีกคน ในเมื่อเธอตั้งใจมาทำเรื่องที่สนุกๆ แบบนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็ต้องพูดให้แกรนด์ยอมจนได้แหละน่า
"เอาน่าคิดซะว่าไปพักร้อน พักร้อนแบบมีคนทำงานแทนสนใจมั้ย คนที่นั่นใจดี เธอไม่ต้องกลัวนะ" กรีนเธออยากจะได้สัมผัสเมืองหลวงบ้าง อยู่แต่ที่ไร่เธอเบื่อๆ วันๆ ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรเร้าใจทำเลย แต่ถึงมันจะเป็นไร่ที่เธอรัก เธอแค่อยากจะมาเที่ยวสักพัก แล้วเดี๋ยวเธอก็กลับ จะได้ไปสืบเรื่องของเธอด้วย
กรีนมีความต้องการหลายอย่าง ข้อหนึ่งเธออยากมาสืบเรื่องของเธอกับแกรนด์ ข้อสองเธออยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากทำงานในสิ่งที่เธอได้ร่ำเรียนมาด้วย จากที่คุยกันเลยรู้ว่าแกรนด์ทำงานเป็นเลขา แถมมีบอสเจ้าชู้ด้วยน่าสนุกดี
"ก็ได้แต่อย่านานนะ ฉันเป็นห่วงพ่อกับแม่น่ะ" แกรนด์ตอบรับ เธอยอมรับข้อเสนอของกรีนก็ได้ เพราะเธอเบื่อชีวิตในเมืองหลวง เบื่อชีวิตที่ต้องมีเจ้านายเจ้าชู้ เบื่อทุกอย่างที่นี่ อยากจะลองไปเป็นลูกสาวเจ้าของไร่ดูบ้าง มันคงไม่ยาก เพราะสมัยนี้ก็มีมือถือที่ติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก ถ้าเธอมีอะไรเธอก็โทรถามกรีนก็ได้
"ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะทำหน้าที่แทนเธอทุกอย่าง เธอก็ทำหน้าที่แทนฉันก็แล้วกัน โอเคมั้ย" แกรนด์พยักหน้ารับเบาๆ เพราะต่างคนก็ต่างมีหน้าที่เป็นของตัวเอง แต่สำหรับกรีนเธอคิดว่าเธอสามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์อยู่แล้ว เธอมั่นใจ เพราะความเก่ง และความที่เธอเป็นคนกล้าคิดและกล้าตัดสินใจ เธอมักจะเอาตัวรอดได้กับทุกสถานการณ์เสมอ แล้วทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนข้อมูลกันต่ออีกสักพัก แล้วพากันเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะแกรนด์ต้องกลับเข้าบ้านไปในสภาพชุดเดิม กรีนก็ด้วยเพื่อความเนียน จะได้ไม่มีใครสงสัย
"อ่ะมือถือฉัน" กรีนส่งมือถือให้แกรนด์ แกรนด์ทำหน้างงๆ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของกรีนแล้ว แกรนด์ก็เข้าใจได้ทันทีในเจตนารมณ์ของอีกฝ่าย
"เอามือถือเธอมา...เพื่อความเนียนเดี๋ยวมีคนจับได้" แกรนด์ก็เลยยอมส่งมือถือของตัวเอง ให้กรีนแต่โดยดี ทั้งสองแลกเปลี่ยนมือถือกันเสร็จ
"เธอโอเคมั้ยแกรนด์" กรีนถามเพราะเธอเห็นสีหน้าของแกรนด์แล้ว ดูจะเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย
"อือ ฉันโอเค" ที่จริงแกรนด์ตื่นเต้นมาก ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรก ไม่รู้เธอจะรอดมั้ยงานนี้
"เธอจำทะเบียนรถที่ฉันบอกได้มั้ย อคิณรออยู่ในรถ จำไว้มีอะไรให้มันช่วยได้ ไม่ต้องเกรงใจ มันเป็นเพื่อนฉันเอง" กรีนอยากจะบอกกับแกรนด์ ว่าอคิณรู้เรื่องที่เราสลับตัวกัน แต่ถูกอคิณของไว้ ไม่รู้มันจะเล่นอะไร เธอก็เลยทำตามที่เพื่อนขอ เลือกที่จะไม่บอก
"เราจำได้...รถอยู่ทางโน้นใช่มั้ย"
"อือ...ส่วนเรื่องของเธอ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจัดการได้ เชื่อใจฉันนะ" แกรนด์พยักหน้ารับเบาๆ พอคุยกันเสร็จทั้งสองคนก็แยกย้าย แกรนด์เดินไปหาทะเบียนรถที่กรีนบอกทันที ส่วนกรีนเดินไปขึ้นรถส่วนตัวของแกรนด์ที่เธอขับมา