ภพชาติใหม่ ตอนที่ 1 คู่หมั้นคู่หมาย 2
เฉินเจียหมิงมาพร้อมหลัวลี่ลี่
รอบกายของพวกเขามีบรรยากาศอันบริสุทธิ์สดใสเฉกมิตรสหายโอบล้อม ไม่มีเรื่องชู้สาวสักกะผีก
หลัวลี่ลี่น่ารักร่าเริงเรียกไป๋เว่ยซินว่าพี่สาวทุกคำ เฉินเจียหมิงอมยิ้มอบอุ่นตลอดเวลา ถามไถ่อาการป่วยของไป๋เว่ยซินอย่างห่วงใยทุกคำ ทั้งสองยังมีข้าวของที่ซื้อมาฝากไป๋เว่ยซินหลายชิ้น แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ใจท่วมท้น
มีเพียงคนโง่เท่านั้นถึงจะหลงเชื่อ
และไป๋เว่ยซินผู้นี้ที่เพิ่งเข้าร่างมาไม่มีทางเชื่อสักนิด
ไม่ผิด! ไป๋เว่ยซินคนเก่าไม่อยู่เสียแล้ว...
นางรู้สึกโดดเดี่ยวจึงเลือกตัดขาดได้อย่างเด็ดเดี่ยว
ไป๋เว่ยซินคนปัจจุบันซึ่งมีวิญญาณของสาวจากยุคศตวรรษยี่สิบเอ็ดให้รู้สึกเวทนาและครั่นคร้ามในคราเดียวกัน คุณหนูในห้องหอผู้นี้ อ่อนแอเปราะบาง ทั้งทางร่างกายและจิตใจโดยแท้ เพียงแต่กลับตัดสินใจได้เฉียบคมเกินหยั่ง
ทั้งหมดคือเรื่องราวเมื่อสิบวันที่แล้วก่อนที่เหม่ยหลินจะมาสิงร่างของไป๋เว่ยซิน
และกลายเป็นไป๋เว่ยซินเต็มตัวโดยไม่มีใครผิดสังเกต
ยามนี้ หลังพุ่มไม้ ไป๋เว่ยซินยังคงยืนนิ่งเงียบงัน ลอบสังเกตคู่หมั้นตนกับญาติสาวผู้น้องของเขาอยู่เช่นนั้น
พวกเขายังคงมองหน้าส่งยิ้มและหยอกเย้าสนิทสนม มือของทั้งคู่สัมผัสกันหลายครั้งยามหยิบอาหารโปรยให้ปลา จากนั้นยังหยุดชะงักมองตากันนิ่งนาน
สตรีก้มหน้าขวยเขิน บุรุษก้มมอง แววตาหยอกเอิน
บรรยากาศรอบกายคล้ายมีเพียงกันและกันเท่านั้น
ไป๋เว่ยซินแค่นยิ้มในใจ จากความทรงจำของร่างเดิม นางคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินวาจาของเฉินเจียหมิง ที่บอกรักเพียงไป๋เว่ยซิน รักอย่างนั้น รักอย่างนี้ รักสุดหัวใจ จะมีเพียงกันและกันตลอดไป จับมือจนแก่เฒ่าผมหงอกขาว
ชั่วขณะนั้น หญิงสาวพลันคิดถึงคำพูดของบิดาที่ว่าหากนางทำตัวรู้มาก จับได้คาหนังคาเขาว่าเฉินเจียหมิงแอบมีสัมพันธ์กับหลัวลี่ลี่ ยามนั้นทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีก
ไป๋เว่ยซินหรี่ตา เมื่อคนเคยบอกว่าหากเราบังเอิญพบเห็นคนรักนอกใจไปมีความสัมพันธ์คลุมเคลือกับคนอื่น เราต้องครองสติเก็บอาการไม่โวยวายตีโพยตีพาย เพราะนั่นอาจนำมาซึ่งเหตุผลให้คนรักสบโอกาสเลิกราและทิ้งเราไป ไม่หวนคืน หากฝืนไว้ได้ ทุกสิ่งจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แน่นอนว่านางต้องการให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเดี๋ยวนี้!
ไป๋เว่ยซินตัดสินใจเดินออกจากหลังพุ่มไม้ ตรงเข้าไปหาสองชายหญิงในศาลาทันที
ผู้มาใหม่ไม่ใส่ใจว่าพวกเขาจะรับรู้ถึงการมาของนางหรือไม่ ยิ่งไม่สนใจว่าพวกเขาจะต้อนรับหรือผลักไส
หญิงสาวเอื้อมมือจับกระชากไหล่หลัวลี่ลี่จนตัวหมุนแล้วตบฉาดเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่ายดังเพียะ
ใบหน้าสาวน้อยพลันสะบัดเพราะแรงตบ พวงแก้มยังไม่ทันซับสีแดงรื่อ ไป๋เว่ยซินก็ตบอีกครั้ง
เสียงเพียะดังลั่น หลัวลี่ลี่หน้าหันแทบล้มทั้งยืน
“พี่สาวไป๋!”
“เว่ยซิน!”
เฉินเจียหมิงพลันได้สติ เริ่มรู้แล้วว่ากำลังเกิดสิ่งใด หลัวลี่ลี่ก็เช่นกัน นางตกใจแทบสิ้นสติ
ทว่าไป๋เว่ยซินไม่ปล่อยเวลาให้ใครตั้งตัวได้ทัน นางจับกระโปรงขึ้นแล้วยกเท้าถีบโครมที่สะโพกของหลัวลี่ลี่
เสียงตู้มเกิดขึ้นทันที น้ำแตกกระจาย ปลาแหวกว่ายแตกกระเจิง
เฉินเจียหมิงเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง เขาตวาดลั่น “เว่ยซิน เจ้าทำบ้าอะไร ทำร้ายน้องลี่ทำไม?”
ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยอย่างเหลือล้นทีเดียว จบคำก็รีบกระโจนตัวลงน้ำ กอดรัดหลัวลี่ลี่ขึ้นจากน้ำอย่างรวดเร็ว
หลัวลี่ลี่สำลักน้ำจนใบหน้าแดงก่ำ ซุกซบแผงอกของเฉินเจียหมิงแนบแน่น ร้องไห้กระซิกๆ ท่าทางน่าสงสารยิ่ง
สีหน้าของไป๋เว่ยซินยังคงราบเรียบเฉยชา นางปล่อยให้คู่ยวนยางขึ้นจากน้ำมานั่งตระกองกอดบนศาลาในท่วงท่าแนบชิดสนิทเนื้อเสื้อผ้าเปียกปอนเผยส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน
อืม...ยุคสมัยนี้ หากมีคนมาเห็นชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเขามักจะต้องแต่งงานกันใช่หรือไม่?
“ยังไม่มีพยานเดินมาเห็นพวกเจ้าสักคนเลยนี่นา จะรีบขึ้นมาทำไม ข้าสงเคราะห์ให้อีกนะเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีก รักกันต้องเปิดเผยถึงจะถูกเจ้าค่ะ”
กล่าวจบ ไป๋เว่ยซินก็ถีบชายหญิงที่ยังคงทุลักทุเลให้ตกน้ำไปอีกรอบ ให้พวกเขาได้กอดรัดกันนานๆ สักหน่อย
เสียงตู้มเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังกว่าเดิม
จังหวะนั้น สาวใช้ติดตามของไป๋เว่ยซินก็ถือตะกร้าขนมเข้ามาพร้อมด้วยบ่าวไพร่ของจวนเฉินซึ่งช่วยกันยกกาน้ำชาและถ้วยชามาอย่างพร้อมเพรียง
ทุกคนพลันกรีดร้องโวยวาย
“คุณชายเฉิน! คุณหนูหลัว! โอ้!”
แน่นอนว่าไป๋เว่ยซินไม่มีสิทธิ์สั่งการบ่าวไพร่จวนผู้อื่น ทว่าสาวใช้ของนางถือข้าวของทั้งหมดมาคนเดียวมิได้นี่นา นางอุตส่าห์นำมาจากจวนไป๋เชียวนะ จึงต้องออกปากขอร้องให้คนอื่นช่วยถือมาส่งก็เท่านั้น
ทั้งหมดเดินเข้าใกล้ศาลาทันได้เห็นชายหญิงกอดกันด้วยท่วงท่าหมิ่นเหม่ เสื้อผ้าที่ใส่ก็เหมือนไม่ได้ใส่
การถูกถอนหมั้น อย่างไรผู้หญิงก็เป็นฝ่ายเสียหาย แต่หากผู้ชายเป็นฝ่ายทำผิดอย่างโจ่งแจ้งผลย่อมต่างกันแล้ว
ไป๋เว่ยซินจึงบีบน้ำตา ทำท่าทนเห็นภาพบัดสีไม่ไหว ก่อนวิ่งก้มหน้าร้องไห้ออกจากศาลาไปไม่เหลียวหลัง
เฉินเจียหมิงถึงกับพูดไม่ออก
ไป๋เว่ยซินร้ายกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?