บทที่ 1 จุดเริ่มต้น (1/2)
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่กลายเป็นจุดบอดเพียงเรื่องเดียวในชีวิตของรันดาก็คือ.....การแต่งงานกับลายพยัคฆ์ เดชะเกษตริน
หนึ่งปีก่อนการแต่งงาน
ลายพยัคฆ์ ไนท์คลับ
“ไอ้พยัคฆ์ ไนท์คลับมึงกับกูไปไม่รอดแน่เลยว่ะ”
บทสนทนาภาษาไทยถูกถ่ายทอดออกมาด้วยสำเนียงแบบฝรั่งที่ฟังดูแปร่ง ๆ จากลูกครึ่งไทย - เยอรมัน รูปร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับลูกครึ่ง เจ้าของชื่อคาร์ลิน เพื่อนรักเพื่อนสนิท แถมพ่วงด้วยตำแหน่งหุ้นส่วนคนสำคัญของลายพยัคฆ์ เจ้าของไนท์คลับที่กำลังเข้าสู่สภาวะจมดิ่ง ธุรกิจไปต่อไม่ได้เพราะขาดทุนย่อยยับ
“เออ กูรู้แล้ว”
ลายพยัคฆ์ตอบกลับคาร์ลินด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่สงบนิ่งราวกับทองไม่รู้ร้อน มิหนำซ้ำยังหยิบบุหรี่จากซองขึ้นมาคาบไว้ในปาก แล้วจุดไฟจากไฟแช็คสีทองจากแบรนด์สุดหรูที่ปลายบุหรี่ ก่อนจะพ่นควันฟุ้งไปทั่วทั้งห้องมืดที่มีเพียงโคมไฟสลัว ๆ ให้พอมองเห็นเพียงเท่านั้น
“แค่ก แค่ก ไอ้พยัคฆ์มึงก็รู้ว่ากูแพ้บุหรี่ มึงก็ยังมาสูบต่อหน้ากูเนี่ยนะ เวรจริง ๆ”
คาร์ลินได้แต่สำลักควันจนมีอาการไอ มือไม้ปัดควันฟุ้งให้พ้นออกจากตัว เพราะไอ้เพื่อนตัวดีดันสูบหรี่พ่นควันแบบไม่เกรงใจแถมยังทำหน้าตาเฉยไม่รู้จักสำนึกผิดอะไรทั้งนั้น
“นี่ห้องกู กูต้องเกรงใจมึงด้วยเหรอคาร์ลิน”
คิ้วเข้มได้รูปที่เจาะปลายคิ้วพร้อมกับจิวหมุดโลหะ หยักขึ้นด้วยท่าทางยียวน มุมปากหยักกระตุกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ ทำให้คาร์ลินได้แต่สะบัดใบหน้าไปมากับความกวนตีนของเพื่อนรักเพื่อนชั่วของเขา
“แล้วแต่มึงเถอะ ถ้างั้น ว่าแต่มึงจะเอายังไงกับธุรกิจไนต์คลับนี่ดีหรือมึงจะปิด ๆ ไปซะ”
คาร์ลินได้แต่ถามย้ำกับลายพยัคฆ์อยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนมาเฟียของเขาจะนิ่งงัน จนเขาเริ่มจะหงุดหงิดไปกับท่าทางของลายพยัคฆ์
“....”
“ไอ้พยัคฆ์ มึงจะเอายังไงก็รีบว่ามา มึงจะนิ่งเงียบอย่างกับคนใบ้อะไรของมึง!” คาร์ลินตวาดลั่นด้วยเสียงดังสนั่น
“มึงหุบปากไอ้คาร์ลิน กูกำลังใช้ความคิดอยู่”
ดวงตายาวรีคมเข้มตวัดขึ้นมองคาร์รินด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ เมื่อเพื่อนรักอย่างคาร์รินส่งเสียงดังรบกวนสมาธิของเขา
“บัญชีรายรับรายจ่ายของเราทั้งหมดครับ ลูกพี่”
ท่ามกลางความเงียบสงบหลังจากที่ลายพยัคฆ์กดเสียงต่ำเพื่อเป็นการตักเตือนคาร์ลิน ไทเกอร์ลูกน้องมือขวาของมาเฟียหนุ่มก็ย่างเท้าแบกแฟ้มหนาหลายแฟ้มเข้ามาในห้องด้วยท่าทางที่รีบร้อน เมื่อแฟ้มหนาถูกวางต่อหน้าลายพยัคฆ์ก็รีบหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านในทันที
“โธ่เว้ย!”
ปัก ปึก
เสียงสบถดังขึ้นพร้อมกับแฟ้มหนาที่ถูกลายพยัคฆ์เหวี่ยงลงพื้นด้วยความโกรธหลังจากที่เขาอ่านรายละเอียดในแฟ้มเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น
ส่งให้ทั้งคาร์ลินและไทเกอร์มองหน้ากันไปมาด้วยความหวาดกลัวกับอารมณ์ร้ายของมาเฟียหนุ่ม
“พยัคฆ์ มึงเจออะไรแปลก ๆ ในบัญชีใช่ไหม”
คาร์ลินสูดลมหายใจก่อนจะโพล่งถามออกไปด้วยความอยากรู้ แม้ตัวเขาเองจะเป็นมาเฟียเช่นเดียวกับลายพยัคฆ์ แต่ความโหดร้ายและป่าเถื่อนนั้นบอกเลยว่าเขาไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวความบ้าคลั่งมาจากเพื่อนรักเลยแม้แต่น้อย
“ที่ทุกอย่างมันพังไม่เป็นท่าก็เพราะไบเบิ้ลยักยอกทรัพย์ ไอ้เวรนั่นเป็นคนของชานนท์ศัตรูของกูที่มึงรู้จักดี!” มาเฟียหนุ่มกัดฟันกรอดเมื่อรู้ความจริงว่าเพราะอะไรไนท์คลับของเขาถึงแทบจะเจ๊งไม่เป็นท่า
ชานนท์ที่ว่าคือมาเฟียชั้นต่ำที่คอยระรานไปทั่ว ด้วยการส่งลูกน้องมือดีแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มของฝ่ายตรงข้าม คอยส่งข่าวและทำลายอีกฝ่ายให้ย่อยยับ ไบเบิ้ลเป็นลูกน้องมือซ้ายที่เขาไว้ใจพอ ๆ กับไทเกอร์ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขาที่ถูกตลบหลังเช่นนี้ ความเสียหายที่ลายพยัคฆ์ ไนต์คลับได้รับบอกเลยว่าทำเอาเขาและคาร์ลินไปต่อแทบไม่ได้ เพราะเงินที่มีเขาก็เอามาลงทุนจนหมดแล้ว
“ชานนท์ ไอ้เวรนี่ต้องได้รับการสั่งสอน!”
เมื่อรู้ความจริงคาร์ลินเองก็มีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ต่างจากลายพยัคฆ์เลยแม้แต่น้อย แม้พวกเขาจะเป็นมาเฟียแต่ก็ไม่ได้เลวทรามถึงขั้นทำลายธุรกิจแบบถอนรากถอนโคนแบบนี้
“เป็นกูเองที่ผิด ที่ไว้ใจคนง่าย เรื่องสั่งสอนกูทำแน่ แต่ตอนนี้กูต้องหาวิธีให้ไนท์คลับกลับมาหยัดยืนให้ได้ก่อน มึงมีเงินเหลือไหมไอ้คาร์ลิน”
“กูให้มึงไปจนหมดแล้ว กูตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่นะมึงลืมไปแล้วเหรอ”