สยบรักร้ายมาเฟียลายพยัคฆ์

69.0K · จบแล้ว
Chivavass
44
บท
828
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“พี่พยัคฆ์ เราหย่ากันเถอะ รันดาทนความเลวของพี่ต่อไปอีกไม่ไหวแล้วค่ะ!”

นิยายรักโรแมนติกบอดี้การ์ดสัญญาทางรักมาเฟียเศรษฐีรักหวานๆ18+

บทนำ

ตู๊ด...ตู๊ด......

“ฮัลโหล ว่ายังไงจ๊ะรันดาเพื่อนรัก”

โทรศัพท์เครื่องหรูถูกหยิบขึ้นมาก่อนจะกดโทรหาปลายสายด้วยความร้อนใจ ไม่นานเสียงหวานใสของคนที่เธอต้องการความช่วยเหลือก็กดรับ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สดใส แต่ว่าตอนนี้รันดาทั้งเครียดและสับสนเกินกว่าจะหยอกล้อกับลายจันทร์เพื่อนรักเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในยามที่เธอต้องพบเจอกับความทุกข์ยาก

“แก....ฮึก”

“รันดา....เป็นอะไรไป นั่นแกกำลังร้องไห้หรือเปล่ารันดา”

แม้ว่ารันดาจะพยายามอดกลั้นที่จะกักเก็บความรู้สึกและความเสียใจเอาไว้ แต่ทว่าทุกครั้งที่พูดคุยกับลายจันทร์ทุกอารมณ์และความรู้สึกต่างก็พากันถาโถมเข้ามาจนอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปเสียจนหมด

“ฉัน...ฉันจะหย่ากับพี่พยัคฆ์”

ในที่สุดรันดาก็เลือกที่จะพูดออกไป เพื่อระบายกับเพื่อนรักที่เป็นที่ปรึกษาชั้นดีในทุก ๆ ครั้งที่เธอต้องเจอกับปัญหา

“รันดา ถ้าแกรู้สึกว่าเหนื่อยและทบทวนทุกอย่างมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ทำตามใจที่ตัวเองต้องการเถอะขอแค่แกมีความสุขก็พอ ฉันเคารพการตัดสินใจและอยู่ข้าง ๆ แกเสมอ”

“ฉันเหนื่อยมาก ๆ จนไม่อยากฝืนอีกแล้วลายจันทร์”

“ฉันเข้าใจแกนะรันดา นี่แกอยู่ไหนให้ฉันไปหาดีไหม”

“ไม่เป็นไร ฉันอยู่คอนโดกำลังจะออกไปหาพี่พยัคฆ์ที่ไนท์คลับ”

“งั้นแกขับรถดี ๆ นะ ถ้าแกไม่ไหวจริง ๆ โทรหาฉันแล้วฉันจะรีบไปโอเคไหมรันดา” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่รับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงที่ถูกส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้คนที่ได้รับฟังรู้สึกใจชื้นขึ้นมาที่อย่างน้อยเธอก็มีเพื่อนรักที่แสนดีคอยอยู่เคียงข้าง

“อืม ขอบใจแกมากนะ”

“ไว้เจอกันแก”

ลายจันทร์เป็นเพื่อนรักตั้งแต่วัยแบเบาะที่เติบโตมาด้วยกัน จนเข้าสู่วัยทำงานที่ความสัมพันธ์ไม่ได้ลดลงไปตามการเติบโต ทั้งสองยังคงไปมาหาสู่และติดต่อพบเจอกันในทุกครั้งที่ว่างจากการทำธุรกิจส่วนตัว

หลังจากที่วางสายกับเพื่อนสนิท รันดานั่งหย่อนกายลงบนเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะเครื่องแป้งบานใหญ่ ใบหน้าขาวซีดในยามนี้ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มเพราะความอึดอัดและเสียใจทำให้เธอไม่ลุกออกจากเตียงนอนมาหลายวัน ขอบตาที่ดำคล้ำเพราะพักผ่อนน้อยกับผมเผ้าที่กระเซิงรุงรัง ทำให้รันดาได้แต่มองใบหน้าของตัวเองในกระจกอยู่นานหลายนาที

“ก็แค่หย่า ทำไมฉันต้องทำร้ายตัวเองด้วย”

เมื่อคิดได้เธอก็รีบลุกขึ้นก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายเสียใหม่ ก่อนจะออกไปจัดการกับเรื่องที่ทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพแบบนี้

รันดา วิรันดา ภัคดีรัศมีกุล CEO หรือผู้บริหารสูงสุดบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำและธุรกิจสปามากมาย ที่ทั้งร่ำรวยและสวยฉ่ำในแบบฉบับผู้ดีเมืองกรุง ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนผู้ชายก็พร้อมที่จะหันหลังมองกันจนคอแทบเคล็ด

หลังจากที่อาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อย เธอก็จัดการแต่งตัวในสไตล์ที่เธอนั้นชอบ ชุดเดรสสายเดี่ยวตัวสั้นที่แหวกลึกขึ้นมาเกือบถึงโคนขาถูกหยิบออกมาสวมใส่ สีดำสนิทของชุดเดรสขับผิวพรรณของเธอให้ขาวกระจ่าง มิหนำซ้ำด้านบนยังแหวกลึกจนเห็นทรวงอกที่อวบอิ่มจนเอ่อล้นออกมาอย่างน่ามอง

ใบหน้าได้รูปถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ตัวเองจนงดงาม ดวงตากลมโตน่ามองให้ทั้งความรู้สึกที่หวานและโฉบเฉี่ยวไปพร้อมกัน ริมฝีปากบางถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกที่แสงสดจนสวยแซ่บ เส้นผมที่ยาวคลอเคลียร์ไปกับแผ่นหลังถูกม้วนปลายให้เป็นลอนหลวม ๆ เพื่อเสริมความเซ็กซี่สะดุดตา เผื่อว่าวันนี้หลังจากที่เธอขอหย่าจะได้มองหาผู้ชายดี ๆ เข้ามาเติมเต็มชีวิตที่เส็งเคร็งกับเขาบ้าง

รันดามองตัวเองในกระจกบานโต ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากเพื่อเรียกความมั่นใจให้กลับคืน ‘หากผัวมันเลวมาก ก็แค่หาใหม่’ จะมานั่งทำร้ายตัวเองไปทำไมกัน

เมื่อจัดการกับเสื้อผ้าหน้าผมจนออกมาสวยเช้งตามที่ตั้งใจ รันดาก็หยิบรองเท้าส้นเข็มสีดำกำมะหยี่ที่สูงปรี้ดขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะหยิบกุญแจรถสปอร์ตคันหรูคู่ใจที่จอดเอาไว้ในลานจอดรถวีไอพีของคอนโดสุดหรูย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีและความสะดวกที่ครบครัน

หน้าปัดดีไซน์ล้ำสมัยบอกเลขไมล์เป็นแบบดิจิตอลขึ้นตัวเลขเกือบสามร้อย แต่รันดายังคงมีใบหน้าที่เรียบเฉยและยังคงกดคันเร่งโดยไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนปรนแต่อย่างใด

ปลายทางคือไนท์คลับสุดหรูที่เป็นที่สิงสถิตของ ลายพยัคฆ์ เดชะเกษตริน มาเฟียหนุ่ม ในวัย 32 ปีหรือสามีสุดเลวที่เธอกำลังจะขอหย่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ลายพยัคฆ์ ไนท์คลับ ป้ายใหญ่ที่มีชื่อของเจ้าของคลับสลักเอาไว้อย่างหรูหราบอกได้ว่าเธอมาถึงแล้ว รถคันหรูแล่นเข้าสู่ลานจอดรถที่มีพนักงานรับรถรอคอยต้อนรับผู้มาเยือนระดับวีไอพี ด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม รันดาจึงก้าวลงจากรถด้วยท่าทางที่สวยสง่าสมฐานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเจ้าของไนท์คลับ แม้จะรู้สึกหวั่นใจเล็ก ๆ ก็ตาม

รันดาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเป็นการเรียกความมั่นใจกลับคืน สองเท้าเล็กพาร่างของตัวเองเดินเข้าไปยังไนท์คลับของลายพยัคฆ์ด้วยท่าทางที่เงียบครึม

มือเล็กผลักบานประตูบานหรู บรรยากาศด้านในมีเพียงแสงไฟที่สลัวกับเสียงดนตรีที่เปิดคลอเอาไว้ด้วยแนวดนตรีที่ฟังแล้วสบายหู เนื่องจากยังเป็นช่วงหัวค่ำ รันดาไม่ได้สนใจบรรยากาศภายนอกที่เธอเห็นจนชินตาสักเท่าไหร่ ตอนนี้เธอสนเพียงเจ้าของไนท์คลับที่มักจะเก็บตัวอยู่ภายในห้องมืดทางด้านหลัง ที่แม้แต่ลูกน้องยังไม่กล้าย่ำกรายเฉียดเข้าใกล้

“คะ...คุณรันดา”

ไทเกอร์ลูกน้องมือขวาของลายพยัคฆ์เอ่ยเรียกชื่อของเธอด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูติดขัดและท่าทางดูมีพิรุจ ที่รันดาเองก็เห็นภาพนี้จนชินตาแล้วเช่นเดียวกัน

ไม่รอได้คำตอบเพราะเธอรู้ดีว่าเหตุการณ์ภายในห้องนั้นจะเป็นอย่างไร ร่างบางมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ก่อนจะผลักมือเปิดประตูให้เปิดออก

“พี่พยัคฆ์ เบา ๆ หน่อยสิคะ ไวน์เจ็บนะคะ อื้อ”

น้ำเสียงแหลมใส ทำให้รันดาหยุดชะงักและนิ่งงันไป ความมั่นใจที่เธอสะสมมาเริ่มหายไป ฝ่ามือเล็กกำเข้าหากัน เธอขบเม้มริมฝีปากแน่นจนได้กลิ่นคาวของเลือดที่ไหลซึม

“อยู่นิ่ง ๆ เถอะน่า”

เสียงตอบโต้ที่เธอมั่นใจว่านั่นเป็นเสียงของลายพยัคฆ์สามีของเธอ เรียกสติและความมั่นใจให้กลับคืน เธอจะไม่ทนอีกต่อไป รันดาเดินเข้าไปตามเสียงด้วยใจที่สงบนิ่ง ภาพเบื้องหน้าช่างบาดตาเธอเหลือเกิน สาวสวยเจ้าของชื่อไวน์นั่งคร่อมอยู่บนตักของลายพยัคฆ์ กำลังประกบริมฝีปากแลกลิ้นกันอย่างซาบซ่าน ในขณะที่ฝ่ามือหนาของเขาก็กำลังบดขยี้เต้าทรงโตที่อยู่ภายใต้เสื้อสายเดี่ยวจนเจ้าของร่างเอ่ยร้องให้เขาเบามือ

“รันดา...”

ดวงตาเรียวได้รูปประดุจดวงตาเหยี่ยวตวัดขึ้นมองผู้มาเยือนด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เขาผละร่างเล็กของผู้หญิงบนตักออกให้พ้นตัวทันที

เมื่อสบตากับรันดา

“ออกไปก่อน...”

เสียงเข้มดุดันเอ่ยสั่งการกับผู้หญิงที่ชื่อไวน์ ก่อนที่เธอคนนั้นจะเดินเฉียดไหล่ของเธอออกไปด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ เมื่อเห็นการมาของเธอ

“รันดา เธอมาที่นี่ทำไม”

“แล้วทำไมรันดาจะมาที่นี่ไม่ได้” เธอตอบโต้สวนกลับในทันที

“แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ มีอะไรก็ว่ามา”

น้ำเสียงที่ฟังดูไร้เยื่อใย ยังไม่เท่ากับสายตาที่ไร้ความรู้สึก ลายพยัคฆ์ไม่มีท่าทีของความรู้สึกผิดใดและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็น

เขาอ้างเพียงว่าการเป็นเจ้าของไนท์คลับก็ต้องเฟ้นหาสาวสวยสำหรับดูแลแขก หากเขาไม่คัดเลือกด้วยตัวเองจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนบริการดีหรือไม่ดี ไม่ว่ารันดาจะฟังกี่ครั้งก็รู้สึกได้เพียงว่าเหตุผลของลายพยัคฆ์คือเหตุผลของคนเห็นแก่ตัวเท่านั้น

“พี่พยัคฆ์ เราหย่ากันเถอะ รันดาทนความเลวของพี่ต่อไปอีกไม่ไหวแล้วค่ะ!”

รันดาพูดออกมาด้วยความเจ็บใจ ในขณะที่หยาดน้ำสีใส เริ่มปริ่มบริเวณขอบตาจนแทบจะเอ่อล้น มือเล็กปาดมันออกไปอย่างไม่ใยดี

เป็นเพราะคำสั่งเสียของผู้เป็นมารดาและภาพลวงตาที่แสนดีในวัยเด็ก ทำให้เธอยอมที่จะแต่งงานกับลายพยัคฆ์ เดชะเกษตริน มาเฟียหนุ่มที่กำลังนั่งด้วยท่าทีที่เรียบเฉยบนโซฟาหรู พร้อมกับสูบบุหรี่ในมือด้วยความใจเย็นก่อนจะพูดออกมาด้วยประโยคที่ทำให้รันดาแทบอยากจะยกเท้าเสยปลายคางเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“เป็นเมียพี่ต้องอดทน พี่เคยบอกรันดาตั้งแต่วันที่พี่ได้เธอเป็นเมียแล้วไม่ใช่เหรอ”