บทที่ 9 ก็ให้ฉันเอาสิ
"แม่ไปก่อนนะ..อย่าลืมที่ฉันฝากไว้ล่ะหนูน้ำหนาว"
"ค่ะ คุณหญิง"
คุณหญิงโบกมือบ๊ายบาย หลังจากขับรถมาส่งน้ำหนาวที่คอนโดของลูกชายตัวแสบ ส่วนกันถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความรำคาญแล้วปิดประตูห้องเสียงดังปึ้งจนน้ำหนาวสะดุ้งตกใจ หน้าคมตวัดมองอย่างหาเรื่องก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหาคนตัวเล็กทันทีที่อยู่กันสองต่อสอง
"แม่ฉันจ้างเธอเดือนละเท่าไหร่!"
"สะ..สองหมื่นค่ะ"
"แลกกับการกลับเข้ามาวุ่นวายในชีวิตฉันงั้นหรอ"
"แค่สามเดือนเท่านั้นค่ะ" น้ำหนาวก้มหน้างุดเพราะดวงตาคมเอาแต่มองอย่างไม่พอใจ เธอไม่อาจสู้หน้าเขาได้จริงๆ
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะยกมือขึ้นเสยผม ถ้ายัยนี่อยู่ห้องด้วยเขาก็พาผู้หญิงมาไม่ได้สิ น่าเบื่อชะมัด จะตามมาวุ่นวายอะไรนักหนา มีอะไรกันแค่ครั้งเดียวถึงกับตามมาหลอกหลอนเลยหรอ
น้ำหนาวยืนประสานมือแน่นจนเหงื่อชุ่ม พลางเหลือบตามองร่างสูงซึ่งนั่งทำหน้าเครียดอยู่บนโซฟา เธอเลือกแล้วต้องทนให้ได้ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ต้องทนให้ได้ แค่สามเดือนเท่านั้นก็จะได้เงินก้อนหนึ่งกลับไปตั้งหลักใหม่ เพราะคุณหญิงบอกว่าหลังจากหมดสัญญาจะให้โบนัสกลับไปตั้งตัว
ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่เงินนะ แต่สำหรับเธอแล้ว ถ้ามีเงินชีวิตก็จะขับเคลื่อนต่อไปได้ ต่างจากใครหลายคนที่ไม่รู้ว่าความจนมันน่ากลัวแค่ไหน เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอหรอกว่าการอดมื้อกินมื้อมันเป็นยังไง เธอผ่านมันมาได้จนอายุสิบแปดปีแล้ว เรื่องแค่นี้ต้องผ่านมันไปให้ได้สิ!
"แล้วเธอไม่มีรงมีเรียนหรอ"
"ช่วงนี้ปิดเทอมค่ะ"
"กำลังจะเข้ามหาลัยสินะ"
"ค่ะ"
"..." กันเลิกคิ้วมองร่างบางซึ่งยืนสั่นเหมือนผีเข้าด้วยท่าทางหงุดหงิด ผู้หญิงอะไรขัดหูขัดตาชะมัด! "นั่งลง!"
"คะ?"
"ฉันบอกให้นั่งลงไงยัยบื้อ!!"
"ค่ะ" น้ำหนาวรีบนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าตามคำสั่ง แต่เธอก็ยังไม่กล้าเงยหน้ามองเขาอยู่ดี ที่ไม่อยากมองเพราะกลัวหัวใจเต้นแรง กลัวเสียอาการ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอรู้จักเขานานแล้ว
"จะเข้ามหาลัยไหนล่ะ"
"มหาวิทยาลัยรัฐบาลใกล้ๆบ้านค่ะ"
กันชักจะขัดใจกับท่าทางไร้เดียงสาของเธอเหลือเกิน ไม่รู้จะแอ๊บอะไรนักหนา ยิ่งเห็นก็ยิ่งขัดตา!
"ก็เลยขายตัวหาค่าเทอมสินะ"
กึก~
น้ำหนาวบีบมือแน่น!
อดทนไว้นะ! แค่สามดือนเท่านั้น ไม่ว่าจะเจอคำพูดอะไรร้ายแรงแค่ไหนเธอก็ต้องอดทนเข้าไว้ คุณหญิงบอกว่าลูกชายของเธอเป็นคนพูดจาไม่ถนอมน้ำใจใคร ไม่แคร์ความรู้สึกใครเพราะฉะนั้น..เธอจะไม่ถือสา
"ค่ะ"
"งานอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ไปทำ"
"ฉันเลือกไม่ได้ค่ะ"
"โอเค นั่นมันเรื่องของเธอ" กันหยัดกายลุกขึ้นพลางสาวเท้าเข้าไปหาคนตัวเล็ก น้ำหนาวปรายตามองเท้าหนาก่อนจะค่อยๆไล่ขึ้นไปยังขายาวจนเห็นเสี้ยวหน้าหล่อคม "แม่ฉันคงสั่งให้เธอเป็นหูเป็นตาให้สินะ กลัวว่าฉันจะพาผู้หญิงเข้าห้อง"
"คุณหญิงท่านเป็นห่วงคุณค่ะ อีกอย่างคุณก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ท่านคงกลัวว่าฉันจะไม่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ก็เลยจ้างไม้กันหมา"
"..." น้ำหนาวไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง
"ฉันเพิ่มให้เธอเป็นเดือนละห้าหมื่น ห้ามบอกแม่ว่าฉันพาผู้หญิงเข้าห้อง เข้าใจไหม!"
"ฉันรับปากกับคุณหญิงไว้แล้วค่ะ ฉันไม่อยากผิดคำพูดกับคุณหญิง"
"อยากได้มากกว่าห้าหมื่นหรอ?"
"ไม่ค่ะ" น้ำหนาวเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูง ให้ตายเถอะ ทำไมดวงตาของเขามันช่างมีอิทธิพลอะไรมากมายขนาดนี้ จนเธอต้องเป็นคนหลบสายตาเอง "หน้าที่ก็คือหน้าที่ ต่อให้คุณจ้างฉันแสนหนึ่ง ฉันก็ไม่กล้าผิดคำพูดกับคุณหญิงค่ะ"
"เธอคิดว่าฉันแคร์หรอ"
"..."
"หรือถ้าเธอไม่อยากให้ฉันพาผู้หญิงพวกนั้นเข้าห้อง..ก็มาทำหน้าที่นั้นแทนสิ"
"มะ..ไม่ได้นะคะ!"
"ทำไม? ก่อนหน้านี้ยังอ้าขาให้ฉันเอาอยู่เลย" กันยิ้มยกมุมปาก ก่อนจะใช้มือเชยคางมนขึ้นแล้วบังคับให้เธอสบตา มือใหญ่บีบแก้มใสเล็กน้อย ดวงตากลมโตของเธอดูมีเสน่ห์น่าค้นหา แต่ทว่ามันกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว "หรืออยากได้เงินเพิ่ม?"
"ฉันไม่ได้ขายตัวค่ะ"
"ก็ขายมาแล้วนิ หนึ่งล้านเลยนะ โก่งราคาเป็นบ้าเลย!"
"..." น้ำหนาวรีบเม้มปากเข้าหากัน เมื่อเขาเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆเผลอทำให้เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
"ความจริงหนึ่งล้านบาทฉันว่า..แค่ครั้งเดียวมันยังไม่คุ้มนะ"
"คุณหมายความว่ายังไงคะ?"
"ก็หมายความว่า.." หน้าคมเคลื่อนเข้ามาหยุดที่ข้างใบหู ก่อนฝังจมูกลงบนไรผม น้ำหนาวขนลุกซู่ ภาพเหตุการณ์ต่างๆตอนที่มีอะไรกับเขาจุดประกายขึ้น มันทำให้เธอรู้สึกประหม่าและเคอะเขินในเวลาเดียวกัน "ในระยะเวลาสามเดือนนี้..ฉันจะเอาเธอทุกวัน จนครบจำนวนเงินหนึ่งล้านบาท!"