8. เป็นแฟนกันนะ
คอนโดหรูบ่งบอกสถานะของผู้อาศัยได้อย่างดี สถานที่นัดพบกันครั้งแรกของพรูฟและน้องเมษาของเขา
เมื่อมาถึงก็ไม่ลืมส่งข้อความบอกเธอ ได้รับข้อความกลับว่าให้ยืนรอหน้าลิฟท์แล้วเธอจะลงมารับเพราะขึ้นไปเองไม่ได้
ขายาวๆ ภายใต้กางเกงยีนส์ผ้าดีก้าวยาวๆ ไปหยุดหน้าลิฟท์สีทองเงินอร่าม หัวใจเต้นระรัวที่จะได้เจอกับว่าที่แฟนสาวนอกสถานที่เป็นครั้งแรก
ตั้งแต่คุยกันมาก็เจอกันแค่ในรั้วมหาลัย มากสุดก็พาไปเดินห้างกินข้าว แล้วก็ต้องไปส่งเธอที่มหาลัยเพื่อเอารถของเธอคืน
ครั้งนี้เขาถึงได้ตื่นเต้นแบบนี้ไง มันเป็นสถานที่ที่แปลกใหม่ในความสัมพันธ์ของเรา เป็นสถานที่ที่สามารถพัฒนาอะไรได้หลายอย่าง
ติ๊ง! ยืนคิดอะไรเพลินๆ เสียงลิฟท์ก็ดังขึ้น ประตูลิฟท์ค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับร่างระหงสวยงามไปทุกส่วนส่งยิ้มให้เขา
พรูฟยกยิ้มตอบรับก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟท์โดยไม่ต้องรอให้เธอชวน ประตูลิฟท์ปิดลงอีกครั้งโดยมีเจ้าของพื้นที่แตะคีย์การ์ดสั่งการ
“ขับรถมาไม่เมาแน่นะ” เงยหน้าขึ้นถามเขาด้วยรอยยิ้ม
“พิสูจน์สิครับ” พูดพร้อมกับก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าของเธอ
“กลิ่นเหล้าแรงมาก” พูดด้วยรอยยิ้มเขินอายก่อนจะหันหน้าหนีไป
“ไม่เมาครับ แค่อยู่ในภาวะจริงใจที่สุด” หมายถึงไม่เมา แต่พูดความจริงทุกอย่างแน่นอน หลังจากนี้หากเขาพูดอะไรออกไป เธอสามารถเชื่อได้ทุกอย่าง
“คิดผิดหรือเปล่าที่ให้มาหา” บ่นกระปอดประแปดอย่างไม่จริงจัง
“ถ้าไล่กลับตอนนี้พี่เสียใจเป็นเดือนแน่” ไม่เว่อร์ครับ ไม่เกินจริงด้วย มาถึงขนาดนี้อย่างน้อยก็ต้องได้นอนจับมือ
หรอวะ?
ติ๊ง! เสียงดังขึ้นทำให้เขาหยุดหยอดคำหวาน ก้าวตามร่างระหงในชุดลำลองสบายๆ ที่...
“อึก!” เผลอกลืนน้ำหลายขณะมองสะโพกกลมของเธอ
ไม่ได้หื่น ไม่ได้ล่วงละเมิดทางสายตา แต่กางเกงขาสั้นที่ปิดก้นได้พอดี จังหวะการเดินนวยนาดของเธอมันทำให้เขาร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างยากจะควบคุมได้
เดินมาหยุดด้านหลังในระยะประชิด ได้กลิ่นกายหอมยั่วยวนจนเผลอสูดดม ประตูห้องถูกผลักเข้าไปก่อนเจ้าของห้องจะเชื้อเชิญเขาด้วยสายตา ไม่รอช้าที่จะก้าวตามไป
“ห้องน่าอยู่จังครับ” ดูสะอาดเป็นระเบียบ การตกแต่งออกแนวหรูหรา ไม่มากไปไม่น้อยไป ดูจากสไตล์การแต่งห้องรวมถึงการแต่งตัวของเจ้าของห้องแล้วตอบได้เลยว่าไม่ใช่สาวหวาน ไม่เฉียดใกล้เลยสักนิด
“วันนี้เห็นห้องเมแล้ว วันหลังต้องให้เมเห็นห้องพี่พรูฟบ้างแล้วนะ” พูดออกมาเหมือนไม่จริงจัง แต่เธอจะรู้ไหมว่าทิ้งความหนักใจให้เขาได้ง่ายๆ
“ได้ครับ” ถึงอย่างนั้นก็ต้องรับปากอย่างไม่ให้เธอเอะใจหรือสงสัยอะไร
ถ้าถึงวันที่เธออยากไปจริง ให้ตายก็ต้องไล่เมษาออกจากห้องไปก่อน
“ดื่มอะไรไหมคะ” เธอเดินนำไปที่โซฟา ถามขึ้นตามมารยาทของเจ้าของห้อง
แต่ระหว่างถามถอดเสื้อคาร์ดิแกนออก
“อึก!” แม้จะไม่อยากทำให้เธอกลัว แต่สายตาของเขาตอนนี้มันไม่สามารถละออกจากหน้าอกนูนใหญ่ภายใต้เสื้อสายเดี่ยวรัดรูปของเธอได้เลย
“ไม่คิดจะมองหน้าเมเลยหรอ” คำหยอกล้อดังขึ้นถาม
“ขอโทษครับ” ไม่ได้มีเจตนาแค่หวังร่างกายของเธออย่างเดียวจริงๆ แต่ร่างกายที่สวยงามสมส่วนและเต็มแน่นขนาดนี้จะไม่ให้เผลอตัวได้ยังไง
ผู้ชายทั้งแท่งนะเว้ย แท่งที่กำลัง...
“ทะลึ่ง” ว่าให้เขาอย่างไม่จริงจัง เดินไปที่โซนครัวเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องมาหนึ่งแพค นั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน ห่างกันเล็กน้อย
“ดื่มกับพี่ไหม” เห็นหิ้วมาทั้งแพคแบบนี้ให้ดื่มคนเดียวจะสนุกได้ยังไง
“ดื่มค่ะ” ตอบรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปเปิดทีวีเลื่อนหาหนังดู
“นี่ครับ” พรูฟทำหน้าที่จัดการกับเบียร์ตรงหน้า เปิดและยื่นให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ” มือเล็กรับไปสัมผัสกับมือเขาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้มีใครรู้สึกตกใจอะไร เพราะเคยจับมือหอมแก้มกันมาแล้ว “พี่พรูฟดูหนังผีไหม”
“ได้ทุกเรื่องครับ” เพราะคงไม่สนใจหนังหรอกครับ พี่สนใจน้องเมมากกว่า “น้องเมชอบดูหนังผีหรอ”
ถึงอย่างนั้นก็ถามเธอด้วยความอยากรู้ เขาอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้ อยากรู้จักเธอทุกอย่าง
บอกแล้วว่าคนนี้จริงจัง ไม่งั้นนัดกระชับมิดตั้งแต่แรกที่คุยกันแล้ว
“ค่ะ ชอบหนังผีมาก” ตอบเสร็จก็หันใบหน้าสวยมามองหน้าเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “แล้วก็ชอบหนังผู้ใหญ่ด้วย”
“แล้วทำไมเราไม่ดูหนังนั้นกันล่ะครับ” กลืนน้ำลายมองสบตาเธอเหมือนต้องมนต์ ถามออกมาราวกับคนไร้สติล่องลอย
“ไม่เอาค่ะ อันตราย”
มันอันตรายตั้งแต่น้องหยอกล้อพี่แบบนี้ในสถานการณ์แบบนี้แล้วครับ
“คนที่อันตรายคือน้องเมนั่นแหละ” กล่าวโทษเธออย่างตรงไปตรงมา
“ทำไมคะ” เอียงคอเล็กน้อยถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ดูใสซื่อไม่น้อย
“คนที่มีพลังทำลายล้างพี่อยู่ตลอดเวลา” ไม่ใช่มุกหยอดสาวครับ แต่มันคือความจริงที่เขาเผชิญหน้า ถูกเธอเล่นกับหัวใจและความรู้สึกทุกครั้งโดยเฉพาะรอยยิ้มและแววตา
“เมเก่งขนาดนั้นเลยหรอ” ไม่ถามเปล่า ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสกับลมหายใจอุ่นๆ ของเธอ “ทำลายล้างผู้ชายร้ายกาจอย่างพี่พรูฟได้จริงๆ หรอ”
ถามย้ำออกมาเหมือนไม่เชื่อใจความสามารถของตัวเองเลยสักนิด สบตากับเขาอยู่ตลอดเวลา ปากอิ่มยกยิ้มหวานเย้ายวนจนเขามึนเมามากกว่าเหล้าทั้งหมดที่กินมา
“ยังไม่รู้ตัวอีกหรอ” ว่าเธอน่ะเก่งมาก “แล้วพี่ก็ไม่ใช่ผู้ชายร้ายกาจ หากได้รักใครแล้วจริงจังมาก”
ประกาศชัดว่าเขาเป็นพวกรักจริงหวังแต่ง แล้วถ้าน้องพร้อมพี่จะสู่ขอพรุ่งนี้เลยก็ได้
“พูดแบบนี้อยากแต่งงานกับพี่พรูฟจัง” ดูแม่สาวสวยของเขาสิ เคยยอมเขาที่ไหนกัน แล้วแบบนี้ยังกล้ามาคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ว่าเขาร้ายกาจได้ยังไง
เธอน่ะ มันร้ายกว่าเขาอีก
“ถ้าน้องเมพร้อม พี่ไปสู่ขอพรุ่งนี้เลยก็ได้” ไม่เล่นครับ พร้อมมีเมียชื่อเมษา
หมายถึงคนนี้นะ คนที่กูหาเอง ไม่ใช่ที่แม่หาให้
“ง่ายขนาดนี้จริงใจหรือเปล่า” ทาบมือบางลงใบหน้าด้านซ้ายของเขาแล้วถามขึ้นด้วยแววตาหวานหยด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์หายไปเหมือนอยากได้คำตอบจริงๆ
“ไม่เคยพูดเรื่องแต่งงานกับใครครับ” แม้แต่แฟนคนแรกที่เคยคบและอยู่กินกันช่วงหนึ่งก็ยังไม่เคยถึงขั้นพูดถึงการแต่งงานเลย
“อย่าหลอกให้เมดีใจเล่นนะ” ยู่ปากเบาๆ เตือนเขา
“บอกแล้วว่าอยู่ในภาวะจริงใจที่สุด” พูดทุกอย่างด้วยความสัจจริงไม่ติงนังแน่นอน
“ปากหวานแบบนี้หวังอะไรหรือเปล่าคะ”
“หวังให้น้องเมชิมครับ” ใช่ครับ อยากให้น้องได้รู้ว่าปากพี่หวานกว่าที่น้องคิด แล้วไม่ใช่แค่ปากที่หวาน
“.....” เธอไม่ได้ตอบอะไร มองสบตากลับด้วยแววตาที่หดปรือลง และก็หลุบมองมาที่ริมฝีปากของเขา
นิ้วโป้งเล็กๆ ขยับมาเกลี่ยริมฝีปากของเขาเบาๆ แล้วไม่นานใบหน้าสวยก็ค่อยๆ ขยับมาใกล้เรื่อยๆ
กระทั่งเขาได้รู้ความจริง
ปากน้องนางนันหวานกว่าของเขาเป็นไหนๆ
“เป็นแฟนกันนะ”