สยบรักตัวร้าย

73.0K · จบแล้ว
Feel The Sun
43
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

พรูฟ...เขาอยากรักคนที่เลือก แต่คนที่ไม่ได้เลือกกลับดึงดัน แล้วผิดตรงไหนที่จะพลั้งเผลอใจร้ายและปากหมาใส่ Talk: “ไม่มีเมีย ไม่เคยมี ก็แค่เก็บแต้มเล่น” เมษา...ไม่ได้ตั้งใจมาหลอก แค่จะแกล้งขำๆ แต่เขาดันใจร้ายเกินไป เลยอยากสั่งสอนบ้าง Talk: “มีขอบเขตบ้างพี่พรูฟ แค่ของเก่าอย่าล้ำเส้น”

นิยายรักโรแมนติกรักหวานๆดราม่ารักวัยรุ่นรักแรกพบแก้แค้นโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นนักศึกษา18+

1. ฝากดูแล

ภายในเพนเฮาส์กว้างขวางโอ่อ่า แต่บรรยากาศกลับอึมครึมเพราะเจ้าของห้องที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาตัวยาว

“ทำไมแม่ไม่โทรบอกพรูฟก่อนครับว่าจะมา” พรูฟพูดกับคนเป็นแม่อย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกปลุกแต่เช้า นิสัยคนตื่นสายประจำจนไม่เคยลงเรียนก่อนเก้าโมงเช้าเลยสักตัว

ยิ่งเช้าวันหยุดไม่ต้องพูดถึง กลางคืนกว่าเขาจะนอนก็เกือบสว่าง

“อะไร แม่มาหาทำหน้าต้อนรับแม่แบบนี้หรอ” คุณไปรญาว่าให้ลูกชายที่อยู่ในสภาพหลับตาคุยกับเธอ

“แม่มีอะไรครับ” เมื่อหงุดหงิดก็ไร้ประโยชน์ รีบคุยรีบไปนอนต่อคงจะดีกว่า

“ถ้าจะให้แม่พูดก็ลืมตามาคุยกับแม่ดีๆ” ได้แต่ส่ายหัวกับท่าทางของลูกชายอย่างเหนื่อยใจ

แต่จะโทษใครได้ เธอนั่นแหละที่เลี้ยงลูกอย่างตามใจมาตลอด พอยิ่งโตก็ยิ่งคุยกันยาก พอต้องมาเจอฤทธิ์ด้วยตัวเองถึงรู้ตัว่ากลายเป็นพ่อแม่รังแกฉันไปแล้ว

“ครับ” ลืมตาขึ้นมามองคนเป็นแม่แล้วขานรับเป็นอันว่าพร้อมฟัง

“นี่น้องเม พรูฟจำน้องได้ไหม” คุณไปรญาไม่รอช้าแนะนำหญิงสาวข้างกายให้ลูกชายทันที

“ไม่ครับ” ไม่เสียเวลาคิด แค่ปรายตามองก็ส่ายหัวปฏิเสธทันควัน

แต่ชีวิตนี้เขามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักกับผู้หญิงรูปร่างหน้าตาแบบนี้เป็นแน่

“น้องเมเป็นลูกสาวของเพื่อนที่ดีที่สุดของแม่ ตอนเด็กๆ พรูฟกับน้องสนิทกันมากเลยนะ” รื้อฟื้นความทรงจำในวัยเยาว์ให้ลูกชาย

“ก็แค่อดีตครับ” อดีตตอนไหนก็ไม่รู้ ไม่เห็นเคยจำได้ว่าสนิทกับเด็กที่ไหนที่หน้าตาแบบนี้มาก่อน

“แม่จะให้น้องมาอยู่กับเราที่นี่” เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของลูกชายก็เข้าประเด็นทันที

“ห๊ะ!” คนฟังจากที่ตื่นไม่เต็มตาและนั่งอึนมาสักพัก ครั้งนี้เรียกว่าสติเต็มร้อยทันที “แม่หมายความว่ายังไงครับ!”

อะไรคือจะให้ยัยเฉิ่มนี่มาอยู่กับเขา อะไรคือจะเอาคนอื่นมาอาศัยในคอนโดของเขาโดยไม่บอกล่วงหน้า

“ถ้าพรูฟจำได้ แม่เคยบอกลูกแล้วว่าแม่อยากได้หนูเมเป็นสะใภ้” เธอเคยพูดกับลูกชายมานานแล้ว พูดตั้งแต่ทั้งสองยังเด็ก จนลูกชายเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเธอก็เคยพูด

“เรื่องสมัยไหนพรูฟจำไม่ได้หรอก” จำได้สิ จำได้ว่าแม่มักพูดกับเขาเสมอ ‘ตอนนี้ลูกอยากคบกับใครแม่ไม่ว่า แต่ลูกสะใภ้ในอนาคตแม่มีในใจแล้วนะ’

แต่ถ้าลูกสะใภ้ในอนาคตที่แม่หมายถึงคือผู้หญิงที่นั่งข้างแม่ๆล่ะก็ ให้ตายเขายอมเป็นโสดตลอดชีวิต

“ถ้าแม่คิดจะหาเมียให้พรูฟควรหาผู้หญิงครับ ไม่ใช่...” ละไว้ในฐานที่เข้าใจดีกว่า พูดพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ต้องอธิบายอะไรเลยสักนิด

“อย่าเสียมารยาทกับน้องแบบนี้นะพรูฟ!” เมื่อเห็นสายตาและน้ำเสียงก็อดตำหนิลูกชายไม่ได้จริงๆ “อย่ามองคนแค่ภายนอก”

“พรูฟคงทะลวงไปมองภายในไม่ได้หรอกครับ” ให้ตายก็ไม่คิดจะมองด้วย “แล้วแม่ก็พาเธอกลับไปเลยครับ ขืนให้อยู่ที่นี่มีหวังผมได้เสียมารยาทกับเธอทุกวันแน่”

นี่ไม่ใช่คำเตือน แต่เขาคงได้ทำแบบนั้นจริงๆ แน่หากมีคนแบบนี้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน

“แม่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” เมื่อเห็นท่าทีของลูกชายแบบที่คิดไว้ก็ไม่ได้เร่งรัด เปลี่ยนประเด็นขึ้นแทน “ตอนนี้น้องตัวคนเดียว แม่อยากให้น้องมีคนดูแล และคนที่เหมาะสมก็คือพรูฟ”

นี่คือจุดประสงค์ที่จะต่อยอดผลพลอยได้ของเธอในอนาคต เด็กสาวผู้น่าสงสารที่สูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ยังต้องอาภัพอีกครั้งเมื่อปีที่แล้วต้องสูญเสียแม่บังเกิดเกล้าไปอีกคน

แม้ว่าฐานะทางการเงินเด็กสาวจะไม่ลำบาก แต่เด็กสาวตัวคนเดียวยังไงก็ควรมีคนดูแล เธอที่เคยเอ่ยปากเรื่องจองตัวและอยากให้ดองกับเพื่อนรักในวันวาน จึงใช้โอกาสนี้สานต่อเจตนารมณ์ ให้ลูกๆ ได้ใกล้ชิดและทำความสนิทสนมกันอีกครั้ง

“พรูฟเนี่ยนะ!?” นี่แม่เป็นแม่เขาจริงหรือเปล่าถึงบอกว่าเขาเหมาะสมจะดูแลใคร “คนอย่างพรูฟจะดูใครได้ครับ”

แค่ดูแลตัวเองยังไม่ทำเลย ที่สำคัญกว่านั้นให้ดูแลผู้หญิงที่โคตรไม่มีอะไรเฉียดเข้าใกล้คำว่าดูดีในสายตาเขา ไม่มีทาง!

“อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบสักหน่อย ควรจะดูแลตัวเองนะครับ” ดูไปแล้วก็รุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่ก็จำไม่ได้จริงๆ ว่าลูกคนไหนของเพื่อนแม่ ในความทรงจำที่เคยเล่นและสนิทกับลูกๆ เพื่อนแม่ก็มีแต่เด็กน่ารักๆ

ไม่เคยมีใครที่สภาพแบบเธอ

“อย่าใจแคบนักเลยพรูฟ ห้องก็ตั้งกว้างขวาง จะให้น้องอยู่ด้วยสักคนจะเป็นไรไป”

“พรูฟไม่สะดวก นี่มันพื้นที่ส่วนตัว”

“แต่นี่คือคำขอร้องของแม่” คำขอร้องที่ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงติดไปทางแข็งเล็กน้อยจนกลายเป็นคำสั่ง

“ถ้าแม่เป็นห่วงก็ซื้อคอนโดให้เธอสักหลังสิครับ เอาที่ที่ระบบความปลอดภัยดีๆ” เสนอทางออกให้แม่แทนการให้เธออยู่ที่นี่

“ถ้าแบบนั้นจะเรียกว่ามีคนดูแลได้ยังไง” ว่าให้ลูกชายอย่างไม่สบอารมณ์ “เลือกเอาว่าจะให้น้องอยู่ที่นี่ด้วยอีกคน หรือจะให้แม่หักเงินเดือนของเรา”

“แม่!” โอดครวญออกมาอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมเลยสักนิด มันไมได้เกี่ยอวะไรกับเขาเลย แล้วทำไมเขาต้องลำบากเพราะผู้หญิงเฉิ่มเฉยแบบนี้ด้วย

“เมื่อก่อนพรูฟสนิทกับน้องมาก หวงน้องจะตายไป โตมาจะหมางเมินน้องที่ตัวคนเดียวจริงๆ หรอ” รำลึกความหลังให้ลูกชายได้ฟัง “อย่าใจร้ายกับน้องนักเลย คนกันเองทั้งนั้น”

“แต่นั่นมันอดีต พรูฟจำไม่ได้หรอกครับ”

“จำไม่ได้ก็เริ่มใหม่” แย้งลูกชายขึ้นอย่างไม่ยอม “ไม่รู้แหละ ถ้าลูกไม่ช่วยดูแลน้อง อย่าว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน”

มือใหญ่ยกขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน อยู่ๆ ก็ต้องรับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ให้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ถ้าสวยเขาไม่ว่า แต่นี่มันเสียบรรยากาศชีวิตเขาเกินไป