บท
ตั้งค่า

Chapter 4 โอกาส

วันวิวาห์พยายามเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่าภูดินตามเธอออกมาด้วย ครั้นเห็นแท็กซี่จอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมจึงรีบเข้าไปนั่งแล้วบอกให้โชเฟอร์ขับออกไปทันที เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งรถอย่างไร้จุดหมายปลายทางซึ่งไม่ต่างกับชีวิตในตอนนี้ ดวงตากลมฉายแววหม่นหมองทอดมองออกไปยังนอกกระจกรถพร้อมคิดทบทวนเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ได้กลับมาเยือนแผ่นดินเกิดแห่งนี้

ในตอนแรกเธอค่อนข้างมั่นใจว่าหัวใจของตัวเองแกร่งพอ หากวันใดวันหนึ่งต้องเห็นผู้หญิงคนอื่นยืนเคียงข้างผู้ชายที่ตนรักเพราะนั่นย่อมเป็นสิทธิ์ของเขา แต่พอเอาเข้าจริงๆ แค่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกแท้จริงของตัวเองก็ยากพอแล้ว ฉะนั้นลืมความคิดบ้าบอราวกับแม่พระออกไปได้เลย ตอนนี้เอาเวลามาคิดหาวิธีใกล้ชิดและสานสัมพันธ์กับเขาเสียยังดีกว่า

'เอาน่า...ของแบบนี้มันต้องลองไม่ใช่เหรอ ถ้าอีกฝ่ายไม่หลงกลก็ค่อยว่ากันอีกที!!'

ขณะแท็กซี่เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ตามท้องถนนในช่วงเวลาเกือบเย็นด้วยความเร็วคงที่และดูเหมือนว่าการจราจรจะเริ่มติดขัดเพราะเป็นเวลาเลิกงานของใครหลายคน หญิงสาวยังคงตกอยู่ในความคิดของตัวเอง กระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นป้ายขนาดใหญ่จากอีกฝั่งของถนน

“เอ๊ะ! คุณน้าคะ ขับเข้าไปในซอยนั้นหน่อยค่ะ”

เธอเอ่ยบอกโชเฟอร์ด้วยท่าทางตื่นเต้นซึ่งต่างกับก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด หลังจากรถเคลื่อนตัวเข้ามาในซอยได้ไม่ถึงห้านาทีก็จอดสนิทอยู่บริเวณลานกว้างซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนหนทาง สิ่งปลูกสร้างที่ดูทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวปรากฏสู่สายตาจนวันวิวาห์รีบลดกระจกบานใสลงแล้วชะโงกหน้าออกไปมองตัวอักษรสีทองโดดเด่นด้วยหัวใจพองโต

THE MAGIC CLUB ไนต์คลับหรูที่เพิ่งเปิดทำการไปเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ถึงอย่างนั้นกลับได้รับความนิยมในวงกว้างจากการบอกต่อแบบปากต่อปาก เพราะที่นี่แทบจะไม่ทำการโฆษณาใดๆ ให้สิ้นเปลืองจะมีก็แต่ป้ายขนาดใหญ่หน้าปากซอยเท่านั้น ภายนอกที่ว่าหรูหรา ทว่าหากได้เข้าไป ย่อมให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปยังอีกโลกหนึ่งที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ทั้งจากการตกแต่ง รวมถึงเครื่องดื่มอันมีส่วนผสมพิสดารซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้

วันวิวาห์จัดการเรื่องค่าโดยสารเสร็จก็รีบออกมาจากแท็กซี่แล้วเดินไปหยุดยืนหน้าประตูทางเข้าซึ่งปราศจากผู้คน เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ หญิงสาวยืนมองภาพสะท้อนของตัวเองผ่านกระจกสีชาบานใหญ่ และหวังว่าที่นี่อาจจะเปิดโอกาสให้คนอย่างเธอได้ทำในสิ่งที่ต้องการ

เอี๊ยด!

มือเล็กที่กำลังจะเอื้อมผลักประตูถึงกับชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเบรกดังสนั่นไปทั่วบริเวณจนแสบแก้วหู วินาทีแรกคิดว่าอาจจะเป็นภูดินที่ตามหาเธอจนเจอ แต่ครั้นหันไปมองอย่างเต็มตาก็ทำให้เธอถึงกับโล่งใจ

รถซูเปอร์คาร์สีแดงเพลิงจอดสนิทบริเวณลานจอดด้านขวามือที่มีไว้สำหรับบุคคลระดับวีวีไอพีเท่านั้น ก่อนที่หญิงสาวในชุดสูทสีครีมจะก้าวออกมาจากรถ

ร่างสูงระหงเดินตรงมาทางประตูร้านซึ่งวันวิวาห์กำลังยืนมองเธอคนนั้นด้วยแววตาตกตะลึงในความงามทั้งรูปร่างและหน้าตา ถึงแม้อีกฝ่ายจะสวมแว่นกันแดดสีชาปิดบังดวงตาคู่นั้นไว้ก็ตาม ผมลอนยาวถึงกลางหลังสีธรรมชาติพลิ้วไหวไปตามแรงลมที่พัดผ่าน ทว่าจังหวะการเดินดูเชื่องช้ากว่าปกติทำให้คนมองถึงกลับแปลกใจ กระทั่งเจ้าของเรือนร่างนั้นหยุดยืนตรงหน้าและเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบ ตอนนั้นเองที่ทำให้คนอย่างวันวิวาห์ได้สติ

"มาหาใครหรือคะ"

"จะมาสมัครงานค่ะ"

คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับว่ากำลังพิจารณาใบหน้าของคนมาสมัครงานและประมวลผลอะไรบางอย่างในสมอง ก่อนจะเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง

"ตำแหน่ง?"

"ดีเจค่ะ"เธอตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและสีหน้ามุ่งมั่น

"ดีเจเหรอ อืม..." ครั้นคนฟังได้ยินอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าใบหน้าของเธอที่เรียบเฉยในตอนแรก ค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มจาง

"ตำแหน่งนี้ว่างอยู่พอดี แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า เราชื่ออะไร"

"คะ?"

"..."

"เอ่อ ชื่อวีว่าค่ะ"

“โอเค วีว่า พี่เป็นเจ้าของที่นี่ ชื่ออลิส และเป็นเพื่อนรามิล”

อลิสา เอ่ยแนะนำตัวเองพร้อมบอกสถานะซึ่งข้องเกี่ยวกับชายหนุ่มอย่างไม่ปิดบังด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกว่าเดิม เธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับรามิลตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่

อลิสาเป็นคนสวยหมดจด ทุกส่วนผสมบนใบหน้ารูปไข่ ไม่ว่าจะเป็นคิ้วสวยได้รูป ดวงตาเฉี่ยวที่หากใครเห็นเป็นต้องสยบ จมูกทรงหยดน้ำธรรมชาติรับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีพีชซึ่งกำลังส่งยิ้มให้กับวันวิวาห์ที่มีสีหน้าหมดหวัง หลังจากได้ฟังประโยคก่อนหน้า

“วีว่าไม่มีสิทธิ์ได้ทำงานที่นี่ใช่มั้ยคะ”

'“ถึงจะเป็นเพื่อนรามิล แต่พี่เป็นเจ้าของธุรกิจ ถ้าเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คลับแห่งนี้มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ จริงมั้ย?”

"..."

"พี่ไม่สนใจว่าเราจะเป็นใครหรือนามสกุลอะไร พี่สนแต่ความสามารถของเราเท่านั้น เพราะฉะนั้นแสดงมันออกมาให้เต็มที่" อลิสาเอ่ยกับคนตรงหน้าอย่างจริงจัง

"แสดงว่าพี่อลิสจะให้โอกาสวีว่าใช่มั้ยคะ! ขอบคุณมากเลยค่ะ" วันวิวาห์เอ่ยออกมาอย่างคนดีใจและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน จากนั้นจึงรีบเดินตามหลังอลิสาเข้าไปในร้าน

ทันทีที่เข้ามาข้างในโซนแรกถูกจัดเป็นเคาน์เตอร์บาร์มีโต๊ะและเก้าอี้เข้าชุดถูกจัดไว้ตามมุมต่างๆ หลังจากเดินผ่านบริเวณนี้จะมีประตูอีกบานที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่กว้างและเวทีขนาดใหญ่ โต๊ะสูงถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบพร้อมสำหรับเปิดทำการ ซึ่งปกติต้องเข้าอีกฝั่งของร้านเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย

ทุกอย่างภายในถูกตกแต่งด้วยสีดำผสานสีม่วงและสีอื่นๆ อีกประปรายตามความเหมาะสมซึ่งทำให้ผู้เข้ามาเยือนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ อลิสาปล่อยให้วันวิวาห์เพลิดเพลินไปกับการมองทุกอย่างที่ต้องการครู่หนึ่งแล้วพาไปยังห้องทำงาน

ภายในห้องดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก เพราะนอกจากโต๊ะทำงานก็มีแค่โซฟาเพียงหนึ่งชุดไว้รับแขก อลิสาเดินไปนั่งลงบนโซฟาพร้อมถอดแว่นกันแดดออกวางลงบนโต๊ะแล้วส่งสายตาให้อีกฝ่ายนั่งลง

“ทำไม ถึงอยากเป็นดีเจล่ะ”

วันวิวาห์แทบจะไม่สนใจคำถามนั้น แต่กลับสนใจดวงตาคู่สวยของคนตรงหน้า ที่ฉายแววเศร้าหมองและบวมแดงอย่างที่เธอไม่คาดคิด ถึงแม้ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามใช้เครื่องสำอางปกปิดมันไว้และทำสีหน้าให้ปกติที่สุด

“วีว่าชอบปาร์ตี้ค่ะ เลยคิดว่างานนี้เหมาะกับตัวเองที่สุด อีกอย่างตอนอยู่แคนาดา วีว่าก็แอบไปเป็นดีเจอยู่หลายครั้ง” วันวิวาห์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขบขันและดูจะผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อนึกถึงตอนอยู่ต่างประเทศว่าเธอทำอะไรไปบ้าง

"ทำไมต้องใช้คำว่าแอบ?"

"ก็คุณป๋าไม่รู้นะสิคะ"

"ไม่มีอะไรที่คนอย่างรามิลไม่รู้หรอกนะ นอกจากเขาแสร้งทำเป็นไม่รู้" อลิสาเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าไม่ค่อยเข้าใจของอีกฝ่ายจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

“ดีเจของที่นี่ทำงานแค่วันศุกร์กับเสาร์นะ เราโอเคหรือเปล่า"

"โอเคเลยค่ะ เพราะวันที่เหลือวีว่ามีภารกิจอย่างอื่นที่ต้องทำ"

"ถ้าอย่างนั้น เรามาเริ่มงานคืนนี้กันเลยเป็นไง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel