4 ปลุกปล้ำสาวน้อยเพราะความเมา
“คุณพ่อคุณเก่งมาก บริหารงานเก่ง บริษัทเจริญเติบโตขนาดนี้”
“ขอบคุณครับ”
“คุณก็คงเจริญรอยตามท่าน ดื่มเสียหน่อย ไวน์ขวดนี้ราคาเกือบหมื่น ผมเปิดเพื่อคุณโดยเฉพาะ”
“นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงครับ”
“ไม่เป็นไร คุณก็ถือว่าเป็นลูกหลานคนหนึ่ง ลองชิมน้ำพริกอ่องกับผักสดดูสิ ร้านนี้เขาทำถูกปากมากเลย ระดับเหลาเชียวนะ”
อาหารภาคเหนือหลายอย่างถูกนำมาวางตรงหน้า เขาไม่เคยกินแม้แต่อย่างเดียว ได้แต่มองอย่างอึ้งๆแต่ก็ตักรับประทานบ้างเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท เขาพยายามที่จะพูดถึงเรื่องการค้าซึ่งก็ได้เป็นเป็นที่น่าพอใจ
กว่าจะกลับเล่นเอามึนด้วยฤทธิ์ไวน์ เพราะรู้ตัวดีว่าดื่มไม่เก่ง ถ้าเป็นเหล้าหรือเบียร์จะดีกว่านี้ไม่น้อย
จากที่คิดว่าจะกลับเข้าโรงแรม แต่อารมณ์สนุกที่เกิดขึ้นภาคินตัดสินใจเดินเข้าไปในผับแห่งหนึ่ง ด้านนอกมีสาวสวยใส่ชุดยั่วๆ เต้นรำไปมา
“โอ้โห เซ็กซี่เป็นบ้าเลย”
ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดในลำคอด้วยความรู้สึกที่บอกกับตัวเองว่าต้องการที่จะหาสาวๆ สักคนมาเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา
เมื่อเข้าไปถึงสั่งเบียร์มาดื่มย้อมใจ ฟังเพลงจากนักดนตรีที่เล่นอยู่บนเวที สาวๆ นักเที่ยวและผู้หญิงจับแขกต่างเหล่มาที่เขา
“ที่นี่ผู้หญิงหากินเยอะเหมือนกัน เราต้องการแบบที่ว่ามีจริต ไม่ใช่ว่าเจอผู้ชายเป็นต้องวิ่งใส่ อย่างนี้ไม่ถูกต้อง”
ชายหนุ่มเกลียดผู้หญิงที่จ้องจะจับเพื่อเงินและบางคนรักสนุกต้องการคนหล่อไปนอนเคียงข้าง แต่ว่าเขากลับต้องการความสำราญบนเรือนร่างเพียงอย่างเดียว ครู่หนึ่งหญิงวัยกลางคนแต่งตัวเซ็กซี่เดินนวยนาดเข้ามา ส่งยิ้มให้
“สวัสดีค่ะ เหงาไหมคะ”
“เหงาสิครับ ถ้าไม่เหงา ผมก็คงไม่มาที่นี่หรอก”
“ตอบได้ตรงคำถามมากเลยค่ะ”
“งั้นก็จัดมา หน้าตาจิ้มลิ้มหน่อยนะ ไอ้ที่น่าเกลียดไม่ต้องเลย ผมไม่ชอบ”
“เจ้าค่ะ จัดเต็มเลยล่ะ ตอนนี้เลยหรือเปล่าคะ”
“ไม่ ผมอยู่ที่โรงแรมเวียงสะลอง ไปถามหาได้เลย ส่วนเงินผมจะให้พร้อมกับเด็ก ฮ๊าว”
จู่ๆ ชายหนุ่มฟุบหลับไปด้วยความเมา ไวน์และเบียร์ตีกันมั่ว มาม่าซังถึงกับเหวอไป ปล่อยให้นอนไปก่อน ถ้ารู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อไหร่จะสอบถามว่าชื่ออะไร อยู่ห้องไหนจะได้ส่งเด็กไปถูก ด้วยความชะล่าใจของมาม่าซังจึงไม่ได้แวะมาดูภาคินบ่อยๆ กระทั่งเขาตื่นจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มแล้วกลับที่พัก
เมื่อเข้ามาในห้อง เขาสั่งอาหารมารับประทาน เพียงแค่ตักสามคำกลับรู้สึกหน้ามืด ทำจานตกลงพื้น อาหารหกเรี่ยราด
“ว้า อดกินเลยเรา เอ ยังไม่หายเมาอีกหรือไงนะ”
หันรีหันขวางอยู่นั่นเอง ในที่สุดก็ต้องโทรศัพท์ลงไปข้างล่าง ให้ส่งคนมาทำความสะอาด จากนั้นเขาเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย รอผู้หญิงที่คิดว่ามาม่าซังจะเอามาส่ง ขณะนั้นรินฤดีกับแดงนั่งเล่นอยู่ด้านล่าง ประชาสัมพันธ์หันมาบอกแดงให้ช่วยจัดการหาพนักงานไปทำความสะอาดห้องภาคิน
“พี่แดง พี่แดง”
“ค่ะ มีอะไรหรือ”
“ห้อง 301 ต้องการให้คนไปทำความสะอาดด่วน”
“ได้ๆ พี่จะให้คนขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย”
“น้าแดง งานนี้รินขอนะ”
“ไม่เอาน้องริน อย่าเล่นอะไรอย่างนี้เด็ดขาดนะ ไม่ดีเลย กลับบ้านไปนอนได้แล้ว”
แดงส่งเสียงไม่ชอบใจนัก เมื่อรู้ว่ารินฤดีมีความประสงค์ที่จะไปทำความสะอาดห้องดังกล่าว รู้ว่าไม่สมควร อีกทั้งวันนี้เธอช่วยงานมากแล้ว กลัวว่าถ้าพ่อแม่ของเด็กสาวรู้ว่าปล่อยให้มาทำแบบนี้ เธอจะต้องถูกเล่นงานหนัก
“ไม่ งานเดียวเอง นะ นะ”
“โธ่ น้องริน อย่าทำให้น้าแดงอึดอัดมากกว่านี้เลยค่ะ”
“ไม่เห็นจะอึดอัดตรงไหนเลย แค่หลับหูหลับตา ไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้นเอง”
“งั้น แค่ห้องนี้ห้องเดียวเท่านั้น สัญญากับน้าแดงนะคะ ถ้าน้องรินดื้อคราวนี้ไม่ต้องมาพูดกันเลย ไม่ยอมจริงๆ ด้วย”
สีหน้าท่าทางแดงเอาจริงเสียจนรินฤดีเริ่มแหยง พยักหน้ารับแล้วเตรียมตัวไปทำความสะอาดห้องดังกล่าว แดงมองตามด้วยสายตาเป็นห่วง แต่คิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะเป็นโรงแรมที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเยี่ยมยอด
หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว รินฤดีสะดุ้งเมื่อรับรู้ว่ามีใครบางคนกอดทางด้านหลัง หวีดร้องด้วยความตกใจ พยายามแกะมือนั้นออกเป็นพัลวัล
“ว้าย ใครทำอะไรฉันน่ะ”
“นี่แม่คุณ อย่าทำเป็นสะดิ้งเพิ่มค่าตัวเลยน่า ในเมื่อมาม่าซังส่งมาให้นอนกับผมแล้ว ราคาเท่าไหร่บอกมา”
“ไม่ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว อย่าทำอย่างนั้นนะ”
“ผู้หญิงขายบริการ เวลานี้อาจจะอัพราคาเป็นพันเจ็ดถึงสองพันตามเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ผมให้สองพันห้าก็แล้วกันแล้วสนองให้ดีๆ ล่ะ นอนลงเดี๋ยวนี้”