บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 คืนบำเรอ

บทที่ 3 คืนบำเรอ

“เข้าใจแล้วก็ถอดเสื้อผ้าออก อย่ามาทำตัวเหมือนสาวน้อยอ่อนต่อโลกต่อหน้าฉัน ฉันไม่ชอบ ในเมื่อเธอกล้าตกลงทำตามข้อเสนอของแม่ฉัน เธอก็ต้องกล้าจะทำทุกอย่างให้ฉันพอใจไม่ใช่รึไง”

คำพูดคำจาที่ดูใจร้ายของผู้ชายตรงหน้ามันทำให้หัวใจของบัวบูชาเจ็บแปลบขึ้นมาไม่น้อย แต่เธอก็เถียงอะไรไม่ออก เป็นอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ในเมื่อเธอเลือกจะทำตามข้อเสนอของคุณนายจิตลดาแล้ว ก็ควรที่จะทำให้ผู้ชายคนนี้พอใจ

หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ก่อนจะยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อของตนเองออกอย่างช้า ๆ ถึงแม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่บัวบูชาจะไม่หวั่นกลัวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อจากนี้ น้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาที่เบ้าตาแต่เธอยังพยายามอดกลั้นมันเอาไว้ และท่องอยู่ในหัวว่าทำหน้าที่ของตนให้จบ เพราะเธอเป็นคนเลือกเส้นทางนี้เอง

แววตาคมซึ่งเต็มไปด้วยดำฤษณาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าอย่างเชื่องช้า ซึ่งมันไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย เจตนิพัทธ์พ่นลมหายใจออกมา ก่อนที่เขาจะพยายามข่มความหงุดหงิดของตนเองเอาไว้ บอกตามตรงว่าร่างกายของเขามันร้อนระอุจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว 

เธอคนนี้ก็กระไรกันชักช้าอยู่ได้ ในเมื่อมาทำหน้าที่เป็นนางบำเรอเขาแท้ ๆ ก็ยังทำเหมือนไม่เต็มใจ แต่ท่าทางนั้นมันไม่สามารถทำให้เขาตายใจได้หรอก มิหนำซ้ำยังยิ่งทำให้หงุดหงิดซะมากกว่า เจตนิพัทธ์ฝังใจอยู่ทุกค่ำคืน ผู้หญิงที่มักจะแสร้งทำตัวบอบบางจนดูน่าสงสาร และไร้เดียงสา แท้จริงแล้วพวกเธอเหล่านั้นน่ะร้ายซะยิ่งกว่าอะไรดี

“จะชักช้าอีกนานไหม” เสียงเข้มดังขึ้น มันทำให้บัวบูชาถึงกับสะดุ้งตัว หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะปลดกระดุมชุดนอนเม็ดสุดท้าย แล้วจึงถอดเสื้อตัวนอกออก

“ทั้งหมด” เป็นอีกครั้งที่เจตนิพัทธ์สั่งเสียงดุ บัวบูชาจึงได้แต่ข่มความอับอายที่เธอต้องมาถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เอาไว้ และท้ายที่สุดเธอก็จัดการเสื้อผ้าของตัวเองออกจากร่างกายจนหมด ไม่เหลือสิ่งใดห่อหุ้มร่างกายขาวเนียนอีกต่อไป 

เมื่อเห็นสายตาคมที่จับจ้องมายังเนื้อตัวเปลือยเปล่าของตน บัวบูชาก็ต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าไปทางอื่นแทน เธอในยามนี้หายใจแทบไม่เป็นจังหวะเฉกเช่นเดียวกับชายหนุ่มคนตรงหน้า 

หลังจากที่เขาได้จ้องมองความสวยงามของเรือนร่างของผู้หญิงคนนี้ ความต้องการดำมืดที่พยายามจะเก็บไว้ของเจตนิพัทธ์ก็ปะทุขึ้นมาในทันที อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่เขาได้ดื่มลงไปด้วยกระมัง ถึงทำให้เขารู้สึกต้องการเธอมากมายเพียงนี้

เจตนิพัทธ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร เขาก้าวขาเข้าไปหาก่อนจะรวบร่างเย้ายวนของหญิงสาวให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน การกระทำของคนตัวสูงมันทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของบัวบูชากระตุกฮวบ และเริ่มสั่นกลัว แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรออกไป ริมฝีปากหยักได้รูปก็ทาบทับลงมาบดขยี้ริมฝีปากของเธอซะก่อน 

สัมผัสจากเขามันทั้งดุดันและเอาแต่ใจ กลีบปากเธอถูกบดเบียดรุนแรงจนเจ็บก่อนจะถูกคนมากประสบการณ์กว่าสอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้ามา เขาทั้งเกี่ยวพันลิ้นเธอ ทั้งกวาดต้อนความหวานและช่วงชิงลมหายใจไปพร้อม ๆ กัน ทำเอาคนที่ไม่มีประสบการณ์ถึงกับหายใจหายคอไม่ทัน บัวบูชาส่งเสียงอู้อี้ในลำคอคล้ายจะประท้วงให้เขาหยุด สองมือออกแรงผลักอกกว้างให้ออกห่าง 

ซึ่งเขาก็ยังใจดีกับเธออยู่บ้างถึงได้ยอมถอนริมฝีปากออก บัวบูชารีบโกยอากาศเข้าปอดในทันที ใบหน้าหวานซับสีเลือดขึ้นมาและมันทำให้ใบหน้านี้ดูเย้ายวนตามากขึ้นอีกหลายเท่าตัวทีเดียว ในความคิดของคนที่ถูกความต้องการครอบงำสติเกือบสมบูรณ์อย่างเจตนิพัทธ์

เจ้าของใบหน้าคมเข้มถอดเสื้อนอนของตัวเองออกก่อนจะโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี เผยให้เห็นร่างกายกำยำสมส่วน เขาให้เวลาบัวบูชาพักแค่ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ก่อนจะดึงเธอเข้ามาบดจูบอีกครั้งอย่างหื่นกระหาย

เจตนิพัทธ์สอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็กควานหาความหวานล้ำที่เขาได้รับจากการจูบเมื่อครั้งก่อน ยิ่งได้ลิ้มลองยิ่งรู้สึกลุ่มหลงมึนเมา และอยากชิมให้มากกว่านี้ เขาส่งเสียงครางลึกในลำคออย่างพอใจ ใครจะคิดว่าแม่นางบำเรอขัดดอกคนนี้จะหวานมากขนาดนี้ หวานจนทำให้ร่างกายของเขาร้อนรุ่มและกลางกายปวดหนึบไปหมด 

สิ้นความคิดเจ้าของร่างสูงก็ไม่รอช้า เขาผลักหญิงสาวให้ล้มนอนลงบนเตียง ก่อนจะตามไปคร่อมทับร่างกายเปลือยเปล่าแสนเย้ายวนเอาไว้ ดวงตาคมดำมืดด้วยอารมณ์ดำฤษณาจ้องมองทรวดทรง ส่วนเว้าโค้งของคนใต้ร่างก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย เห็นตัวเล็ก ๆ แต่อะไรที่ควรจะมีก็มีไม่น้อยหน้าใครเลยจริง ๆ 

ข้อมือทั้งสองข้างของบัวบูชาถูกรวบตึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียวของคนด้านบน ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงมาซุกไซร้ซอกคอ เสียงลมหายใจหื่นกระหาย และสัมผัสที่เขาฝากฝังลงบนตัวทำเอาขนอ่อนตามกายลุกซู่

“อะ” เสียงหวานเล็ดลอดออกมายามถูกคนด้านบนขบเม้มก่อนจะกัดสร้างรอยบนลำคอของเธออย่างรุนแรง ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มแต่เธอกลับสัมผัสได้ว่าเจตนิพัทธ์ในเวลานี้ทั้งเร่าร้อน ทั้งดุดัน และน่ากลัวราวกับสัตว์ป่าด้วยเช่นกัน 

ก่อนหน้านี้บัวบูชาแอบหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าผู้ชายที่เธอต้องมาใช้ร่างกายบำเรอเขา อีกฝ่ายอาจจะใจดีและอ่อนโยนกับเธอบ้าง

แต่มันก็เป็นได้แค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่มีคำว่าอ่อนโยนและเบาแรงกับเธอสักนิด เขาทั้งบีบ ทั้งเคล้น ทั้งกัดสร้างรอยตีตราไปทั่วทุกส่วนที่ได้สัมผัส

ลมหายใจของบัวบูชาเริ่มขาดห้วงและติดขัด ยามใบหน้าคมเข้มเลื่อนต่ำลงมาถึงเนินอก สัมผัสหยาบโลนจากลิ้นร้อนที่แตะสะกิดลงบนยอดอกสีหวาน ทำเอาร่างบอบบางบิดเร่าอย่างทรมานปนวาบหวาม ก่อนจะต้องหลุดเสียงร้องเจ็บปวดออกมาเมื่อคนใจร้ายขบกัดลงบนเนินเนื้อทั้งสองข้างของเธอจนขึ้นรอยฟัน

“อะ คุณเบาหน่อยได้ไหมคะบัวเจ็บ” 

เจตนิพัทธ์ไม่ได้ตอบอะไรออกไป เขายังคงสนใจแต่กับการลากลิ้นไล่ชิมผิวกายหอมหวานของผู้หญิงคนนี้ ตรงไหนที่ถูกใจก็ฝากรอยฟันไว้ราวกับจะตีตราจองให้คนอื่นรู้ว่านี่เป็นของของเขา 

เจตนิพัทธ์ไม่รู้แล้วว่าความต้องการดำมืดที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวมันเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์ยาของแม่ หรือเพราะเขาขาดหายจากการร่วมรักกับผู้หญิงมานานกันแน่ รู้แค่เพียงว่าตอนนี้อยากจะเข้าไปอยู่ในตัวของบัวบูชาจนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

“ฮึก! เจ็บ” บัวบูชาเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อกลางกายสาวถูกรุกล้ำเข้ามาอย่างไร้ความอ่อนโยน หยาดน้ำตาร่วงหล่นออกทางหางตา มือที่ถูกปล่อยเป็นอิสระจิกทึ้งหมอนแน่นราวกับอย่างจะระบายความเจ็บปวดที่เกิดให้ออกไปบ้าง

แม้จะไม่ได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมาให้ได้ยินมากมาย แต่เจตนิพัทธ์ก็พอจะรับรู้ได้ว่าผู้หญิงใต้ร่างเจ็บปวดแค่ไหน ไม่ใช่เพียงเธอที่เจ็บ คนที่รีบร้อนดันตัวตนเข้าไปในช่องทางคับแคบอย่างเขาเองก็ทั้งเจ็บ ทั้งอึดอัดไปหมด บัวบูชารัดเขาแน่นจนแทบจะขาดอยู่แล้ว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าผู้หญิงที่กล้ามานอนกับผู้ชายแปลกหน้าเพื่อแลกกับหนี้สินอย่างเธอจะยังบริสุทธิ์อยู่ 

นับว่าเซอร์ไพรส์เจตนิพัทธ์ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ชายหนุ่มจะหยุดการกระทำที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ เขาต้องการร่างกายของเธอจนไม่อาจหยุดได้อีกแล้ว เอวสอบเริ่มขยับเขยื้อนเข้าหาร่างเล็ก จากเนิบช้าก็เริ่มรุนแรงและดุดันขึ้นเรื่อย ๆ ตามแรงอารมณ์ในกาย

"อะ คุณเบาหน่อยได้ไหมคะ" เสียงหวานยังคงอ้อนวานให้เขาเมตตาเธอบ้าง แต่นอกจากเขาไม่ทำตามยังที่บัวบูชาขอแล้ว คนใจร้ายกลับยิ่งเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นเข้ามาหนักหน่วงกว่าเดิมเสียอีก

"บัวเจ็บนะ อะ"

 ร่างกายขาวเนียนโยกคลอนไปตามแรงกระทำของคนด้านบน เธอได้ยินเสียงถอนหายใจของเจตนิพัทธ์ดังคล้ายไม่สบอารมณ์ เขาดูเหมือนจะหงุดหงิดกับคำพูดของเธอเมื่อครู่ นั่นจึงทำให้หญิงสาวได้แต่อดทนและกัดริมฝีปากของตัวเองจนห้อเลือด พยายามที่จะไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาอีก เธอท่องอยู่ในใจว่าทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จเดี๋ยวทุกอย่างก็จบแล้ว เพียงแค่หกเดือนเท่านั้นที่เธอจะต้องอยู่ที่นี่ ขอเพียงแค่เธออดทนทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง

แต่ดูเหมือนการกระทำของบัวบูชาจะทำให้คนด้านบนไม่พอใจกว่าเดิมเสียอีก เขาอยากได้ยินเสียงหวาน ๆ ของบัวบูชาครวญครางอยู่ใต้ร่าง ไม่รู้ทำไมยามที่ได้ยินมันยิ่งทำให้เขามีอารมณ์ ฝ่ามือใหญ่สอดเข้าประสานกับมือเล็ก ออกแรงกดจนผิวเตียงยุบตัว ริมฝีปากหนาเลื่อนขึ้นไปบดจูบปากอิ่ม บีบบังคับด้วยความช่ำชองให้คนด้านล่างยอมเผลอริมฝีปากออก ก่อนจะสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดรึงอย่างหื่นกระหาย

เมื่อได้ยินเสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอ มุมปากหยักก็เผลอยกเป็นรอยยิ้ม ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะผละห่าง ดวงตาคมดูน่าเกรงขามแต่ทว่าก็น่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน จ้องมองลึกเข้าไปยังนัยน์ตาสวยที่เคลือบไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะออกคำสั่งกับเธอ

"อย่ากัดปากตัวเอง แล้วร้องออกมาให้ดัง ๆ บอกให้ร้องดัง ๆ ยังไงเล่า"

เพราะคนด้านล่างแสดงท่าทีดื้อดึงไม่ยอมส่งเสียงครวญครางออกมา เจตนิพัทธ์จึงดัดนิสัยเด็กดื้อด้วยการจับขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า เอวสอบออกแรงกระหน่ำกระแทกตัวตนเข้าใส่จุดเสียวกระสันของคนตัวเล็กถี่ระรัวขึ้นและแทบไม่พลาดเป้าเลยสักครั้ง ทำเอาคนดื้อดึงถึงกับควบคุมตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป บัวบูชาหลุดเสียงครวญครางฟังแทบไม่เป็นศัพท์ออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

เจตนิพัทธ์ตักตวงความสุขจากร่างกายเล็กหลายต่อหลายครั้ง เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองและบัวบูชาเข้ากันได้ดี และการที่ได้แนบเนื้อสัมผัสลึกซึ้งมันก็ทำให้ชายหนุ่มมีความสุขไม่น้อย กว่าเขาจะยอมหยุดการกระทำอันไม่ต่างจากสัตว์ป่าติดสัดนี้เวลาก็ล่วงเลยสู่วันใหม่ไปแล้วเกือบสามชั่วโมง

บัวบูชาได้สติขึ้นมาอีกครั้งช่วงใกล้รุ่งสาง เธอจำไม่ได้เช่นกันว่าตัวเองหมดสติไปตอนไหน รู้แค่เพียงก่อนจะสลบไปเธออ้อนวอนให้เจตนิพัทธ์หยุดจนเสียงแหบเสียงแห้ง แต่คนใจร้ายก็ไม่ยอมทำตามที่เธอร้องขอเช่นเคย

เจ้าของร่างบอบช้ำพยุงตัวลุกในความมืดสลัว ความเจ็บแสบตรงจุดกลางกายยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน รวมถึงความเหนอะหนะบริเวณซอกขาด้านในด้วย เจตนิพัทธ์ไม่ได้ป้องกันแม้แต่ครั้งเดียว จากที่ทำใจเอาไว้แล้วแต่พอทุกอย่างจบลงมันก็อดไม่ได้ที่จะเผยใบหน้าเศร้าออกมา ความสาวที่เธอทะนุถนอมท้ายที่สุดก็ต้องมามอบมันให้กับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ คนที่ไม่ใช่คนรักของเธอด้วยซ้ำ 

และเพราะการขยับตัวของเจ้าของห้องบัวบูชาจึงได้สติขึ้นมาจากความเสียใจ เธอปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไรอีกครั้ง ก่อนจะพยายามลุกไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วก้าวออกจากห้องนี้อย่างเบาฝีเท้ามากที่สุด

หลังจากหอบสังขารอันบอบช้ำของตนเองกลับมายังห้องพัก บัวบูชาก็รีบเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที และเมื่อเห็นร่องรอยตามเนื้อตัว บัวบูชายิ่งรับรู้ว่าเจตนิพัทธ์รุนแรงและป่าเถื่อนกับเธอมากแค่ไหน เขาทำตัวราวกับคนขาดเรื่องอย่างว่ามานานปีอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อได้พาร่างกายอันหนักอึ้งมาล้มตัวลงนอนบนเตียงของตัวเอง บัวบูชาก็แทบจะหลับไปในทันที และผลจากการกระทำราวกับคนขาดของมานานของเจตนิพัทธ์ในค่ำคืนแรก ก็คือการที่บัวบูชาไข้ขึ้นสูง ต้องนอนซมอยู่แต่ในห้องถึงสองวัน ลำบากป้าชื่นต้องคอยเอาข้าวเอาน้ำมาป้อนให้ถึงห้อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel