ตอนที่ 2. อยากเล่นสนุก
เมื่อคิดได้ดังนั้น หญิงสาวดึงปิ่นปักผมออกมากำเอาไว้แน่น ก่อนจะกวัดแกว่งใส่หนึ่งในห้าที่ย่างสามขุมเข้าหานาง
“โอ้ย! นังบ้า!”
ผั๊วะ! ตึก! ฝ่ามือใหญ่ตบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวเต็มแรง จนศีรษะของเชียนอวิ๋นกระแทกเข้ากับต้นไม้อย่างจัง ร่างบางทรุดลงแน่นิ่งกับพื้น โดยไม่รู้เลยว่าต่อให้นางไร้ซึ่งสติรับรู้ ชายหนุ่มทั้งห้าก็ไม่คิดที่จะปล่อยนางไป
เชียวอวิ๋นถูกช้อนอุ้มร่าง ก้าวหายไปยังอีกด้านของป่า ซึ่งมีวัดร้างตั้งอยู่ ใช้เวลาเพียงครู่เดียวคนทั้งห้า ได้พาร่างไร้สติมาถึงที่หมาย พร้อมพากันหัวเราะอย่างชอบใจ ที่พวกเขากำลังจะได้เชยชมคุณหนูสกุลใหญ่
เชียวอวิ๋นถูกวางลงบนพื้นที่มีเพียงหญ้าแห้ง ก่อนที่ชายหนุ่มทั้งห้าจะตกลงกันถึงลำดับก่อนหลัง ที่จะได้เสพสุขกับร่างงาม แน่นอนว่ามันยากนักที่จะตกลงกันได้
โดยพวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่กำลังถกเถียงกันอยู่นั้น คนที่นอนสิ้นสติอยู่ได้รับรู้มันทั้งหมด และคนที่หลับตานิ่งเองก็กำลังสับสนกับเรื่องราวที่พรั่งพรูเข้ามาในหัวเช่นกัน
ทว่าทุกอย่างต้องหยุดลง เมื่อคนทั้งห้าหาข้อสรุปกับลำดับก่อนหลังกันได้แล้วอย่างลงตัว ชายหนุ่มคนแรกได้ก้าวเข้ามาภายในห้อง โดยคนที่เหลือเฝ้าดูต้นทางอยู่ด้านนอก
“หากเจ้าว่าง่าย คงไม่ต้องเจ็บตัวขนาดนี้”
หมับ! ยังไม่ทันที่มือหยาบกร้านจะได้แตะต้องหญิงสาว มือบางของคนที่สิ้นสติ กลับคว้าจับข้อมือเขาเอาไว้แน่น ดวงตาที่ปิดสนิทได้เปิดขึ้นสบตากับชายหนุ่ม
ความหวาดกลัวที่เคยมีของนาง ไยต้อนนี้มันถึงแปรเปลี่ยนไปราวกับมิใช้คนเดิมเสียแล้วล่ะ! ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจ เมื่อเห็นถึงความไม่เหมือนเดิมของหญิงสาว ก่อนความสงสัยจะหายไป เมื่อเรียวปากอิ่มคลี่ออกเล็กน้อย
‘คนถ่อยพวกนี้ ในหัวคิดมุ่งหวังเพียงเรื่องต่ำช้าเสียจริง ๆ’ หญิงสาวคิดหยันอยู่ภายในใจ สภาพในตอนนี้ทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
“เจ้าอยากเล่นสนุกก่อนสินะ สาวน้อย”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างคนนึกสนุก ก่อนจะใช้มืออีกข้างปลดมือของหญิงสาวออกอย่างช้า ๆ ยิ่งเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาว แสดงออกถึงความท้าทาย ทั้งยังปล่อยให้เขาปลดมือนางออกอย่างว่าง่าย
ร่างสูงก้าวคร่อมเหนือร่างหญิงสาว ก่อนที่จะก้มลงเพื่อหวังเชยชมความหอมหวานของสาวบริสุทธิ์ ปึก! ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าเขียวคล้ำสลับขาวซีด เมื่อจุดลับถูกกระแทกอย่างแรง ด้วยเข่าของคนใต้ร่าง
ชายหนุ่มเจ็บแค้นนัก จึงใช้มือคว้าเข้าที่ลำคอของหญิงสาว ก่อนจะออกแรงบีบด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว หญิงสาวจ้องเขม็งที่ใบหน้าของชายหนุ่มไม่คิดหลบ แม้ว่าอากาศที่เข้าไปในปอดจะน้อยนิดก็ตามที
หญิงสาวรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ผั๊วะ! ฝ่ามือสองข้างตบเข้าที่หูทั้งสองของชายหนุ่ม โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ทันคิดสิ่งใด นิ้วเรียวทิ่มเข้าที่หน่วยตาของเขาอย่างรวดเร็ว
“อ๊าก!!!”
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เรียกให้คนด้านนอกทั้งสี่รีบพุ่งเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นสภาพของสหาย ที่คดคู้อยู่กับพื้น ส่วนหญิงสาวที่คิดว่าสิ้นสติ กำลังยืนจังก้าพร้อมท่อนไม้ในมือ ก่อนที่พวกเขาจะดวงตาเบิกกว้าง เมื่อท่อนไม้ในมือของหญิงสาว ได้หวดลงไปบนหัวของสหายที่นอนคดคู้อยู่อย่างเต็มแรง
ก่อนที่เขาจะชักกระตุกอยู่หลายที แล้วแน่นิ่งไปเสียอย่างนั้น นางเป็นแค่คุณหนูพิการ แค่แรงจะตบยุงยังไม่มี แล้วนี่มันคืออะไรกัน! เหตุใดถึงได้ทำให้สหายของพวกเขาสิ้นสภาพได้เล่า
อวิ๋นชีมีเวลาทบทวนทุกอย่างได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในตอนที่เธอรู้สึกตัวพร้อมความทรงจำของผู้หญิงอีกคน ทำให้เธอทั้งสับสนและเจ็บร้าวที่หัวอย่างหนัก
สลับกับสิ่งที่ได้ยินจากคนทั้งห้า ทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลยจริง ๆ ร่างกายที่เธอใช้หายใจอยู่ในตอนนี้ อ่อนแอและบอบบางยิ่งกว่ากระเบื้องเคลือบ ถูกผลักเบา ๆ ก็พร้อมแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
สิ่งเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนี้ คือสู้เท่าที่จะไหว แต่จะให้มาทนรับเรื่องอดสูยากที่เธอจะยอมรับมัน หญิงสาวไม่คิดหลบสายตาของชายหนุ่มทั้งสี่ ที่จ้องเธอตาไม่กระพริบ เป็นการกดดันเธอตามหลักจิตวิทยา
แต่น่าเสียดายสำหรับความคิดนั้นของชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะเธอผ่านการฝึกเรื่องพวกนี้มา จนกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว คิดที่จะกดดันเธอมันไม่ง่ายเหมือนทำกับเจ้าของร่างนี้แน่นอน
“ฤทธิ์มากนักนะ! คิดว่าจะรอดไปได้สักกี่ก้านธูปกัน”