บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 เรื่องระทึกในคืนไหว้พระจันทร์

บทที่ 5

เรื่องระทึกในคืนไหว้พระจันทร์

การประมูลดาบสั้นดวงเดือนจบลงที่ 1,000 เหรียญทอง โดยผู้ที่ได้ไปคือจ้าวเหว่ย จ้าวเยว่ชิงผู้เป็นน้องสาวแบมือเพื่อขอดาบสั้นคู่นี้ แต่ผู้เป็นพี่ชายกลับมอบมีดสั้นอีกเล่มที่เขาใช้เงิน 500 เหรียญทองประมูลมาให้กับนาง

"เหตุใดถึงเป็นมีดสั้นเล่มนี้เล่าเพคะ น้องอยากได้ดาบสั้นมากกว่า"

"มีดสั้นเล่มนี้เหมาะกับเจ้ามากกว่า ส่วนดาบสั้นคู่นี้พี่จะเก็บเอาไว้เอง"

"หึ! เสด็จพี่ชอบกลับคำ"

"หรือจะไม่เอา"

จ้าวเหว่ยดึงมีดสั้นกลับมา แต่จ้าวเยว่ชิงรีบคว้าเอามาถือไว้เอง นาน ๆ ทีที่นางจะได้รับของขวัญจากพี่ชาย ย่อมต้องไม่ปล่อยให้หลุดมืออยู่แล้ว

"ขอบพระทัยเพคะ เสด็จพี่ใจดีที่สุดเลย"

"หึ!"

จ้าวเหว่ยจับโยกศีรษะของจ้าวเยว่ชิงเล่น นางยังเป็นน้องสาวที่ชอบประจบเอาใจมิมีเปลี่ยน แม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 10 ปีที่เขาไม่ได้พบนาง แต่จ้าวเยว่ชิงก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิมในความทรงจำของเขา ดั่งเช่น... น้องสาวตัวน้อยที่เขาเคยมีโอกาสได้เล่นกับนางเมื่อนานมาแล้ว

"เสด็จพี่จะเข้าวังเมื่อไหร่เพคะ เสด็จแม่ทรงถามหาบ่อยแล้ว ฝ่าบาทเองก็อยากจะพบหน้าเสด็จพี่ด้วย"

"วันพรุ่งพี่จะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทกับเสด็จแม่ ส่วนเจ้าก็กลับวังได้แล้ว"

"น้องยังไม่ได้เดินเที่ยวงานเทศกาลชมจันทร์เลยนะเพคะ วันนี้ตั้งใจจะมาปล่อยโคมด้วย"

"เฮ้อ... งั้นก็รีบไปรีบกลับ พี่ยังต้องกลับไปสะสางงานอีกมาก"

"เพคะ" นางคลี่ยิ้มหวานกับความใจดีของจ้าวเหว่ย

แม้ใครจะพูดว่าชินอ๋องผู้นี้ช่างเย็นชาและไร้หัวใจ แต่สำหรับนางและคนในครอบครัวต่างรู้ดีว่าไม่ใช่ เสด็จพี่ของนางผู้นี้ก็แค่ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด เพราะเส้นทางที่เขาเลือกนั้น คือการเดินอยู่บนคมดาบคมหอก ฉะนั้นแล้วเสด็จพี่จึงไม่คิดจะดึงใครเข้ามาในชีวิต แม้แต่สาวใช้อุ่นเตียงก็ยังไม่มีเลย เรื่องนี้เป็นความหนักใจของเสด็จแม่มาก

เมืองหลวงในยามค่ำคืนสว่างไสวดุจยามกลางวัน ผู้คนต่างจับจูงกันออกมาเดินเที่ยวชมงานเทศกาลไหว้พระจันทร์ และที่ขาดไม่ได้คือการมาลอยโคมไฟ โดยมีทั้งโคมโปร่งใสที่แขวนอยู่เต็มไปหมด และโคมดอกบัวลอยน้ำ ในงานเทศกาลไหว้พระจันทร์จะมีร้านรวงมากมายเพื่อให้ผู้คนได้ออกมาจับจ่ายซื้อของกัน เดินเที่ยวชมงานเทศกาล ถนนหนทางล้วนถูกประดับด้วยโคมไฟสีแดงที่วาดลวดลายต่าง ๆ ทำให้ท้องฟ้าในยามนี้สุกสกาวด้วยโคมไฟเป็นจำนวนมาก

ซูเย่หลิงที่ผิดหวังจากงานประมูลจึงชวนเฉินตงลู่มาเดินเที่ยวงานด้วย แต่เขากลับติดงานสำคัญ นางจึงต้องออกมาเดินเล่นเพียงคนเดียว หญิงสาวสวมหน้ากากกระต่ายขาวเพื่อปิดบังใบหน้าของตนเอาไว้เหมือนเดิม

ขณะเดินเที่ยวเล่นหญิงสาวก็ซื้อถังหูลู่หนึ่งไม้เดินกินไปด้วย ซูเย่หลิงแย้มยิ้มตลอดงาน ยิ่งได้เห็นการละเล่นสนุก ๆ ทั้งการประชันการไขปริศนาบนโคมไฟ การเสี่ยงทาย และการแสดงต่าง ๆ ทุกหัวมุมถนน ทำให้นางหายหงุดหงิดใจที่ประมูลดาบสั้นดวงเดือนไม่ได้

หญิงสาวมีความสุขเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าเวลานั้นดึกมากแล้ว สมควรที่นางจะกลับไปที่จวนเสียที ร่างบอบบางในอาภรณ์สีม่วงอ่อนสาวเท้าไปยังเส้นทางลัดที่ใช้เป็นประจำ เพียงแต่วันนี้เส้นทางนี้กลับมีคนสองกลุ่มกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

"จัดการพวกมันซะ!"

กลุ่มคนชุดดำที่ปิดบังใบหน้าถาโถมเข้ามารุมทึ้งหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีอย่างโหดเหี้ยม ฝ่ายบุรุษแม้จะเก่งกาจแต่ถ้าเทียบกับจำนวนคนที่อีกฝ่ายเยอะกว่า กอปรกับที่เขาต้องคอยปกป้องหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดไปด้วย ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าลง เป็นผลให้มีช่องโหว่เปิดทางให้ศัตรูทำร้ายได้

"ระวัง!"

ซูเย่หลิงร้องเตือนเสียงดังลั่น พร้อมกับมีดสั้นเล่มเล็กที่ถูกเขวี้ยงไปสกัดอาวุธของคนร้าย ทุกคนที่อยู่ในบริเวณต่างหันมามองนางเป็นตาเดียว

"อยากเข้ามาแส่ดีนัก ก็เตรียมตัวตายได้เลย!"

คนชุดดำโมโหซูเย่หลิงเป็นอย่างมาก พวกมันจึงแบ่งกำลังคนสี่คนจากสิบคนเข้ามาจัดการซูเย่หลิงที่ยื่นมือเข้ามาสอด จ้าวเยว่ชิงที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด

นางกำลังจะกลับวังอยู่แล้วเชียวแต่กลับมีคนร้ายลอบมาสังหารเสียได้ องครักษ์ที่ควรจะคอยอารักขาก็กำลังเร่งสกัดคนจากทางด้านโน้น เวลานี้ชีวิตของนางกับเสด็จพี่ได้แขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว ไม่นึกเลยว่าสตรีผู้นี้จะยื่นมือเข้ามาช่วย ทั้งยังไม่มีความหวาดกลัวในแววตาเสียด้วย กลับเป็นนางที่กลัวจนแทบสิ้นสติ

"ถ้าคิดว่ามีฝีมือก็เข้ามาเลย!"

ซูเย่หลิงกระตุกยิ้มเย็นเยียบ นางรู้สึกคันไม้คันมือตั้งแต่อยู่ในจวนแล้ว จนกระทั่งในงานประมูลนางก็รู้สึกอัดอั้นใจเป็นอย่างมาก วันนี้ดันมีโชคได้ปลดปล่อยความหงุดหงิดตลอดทั้งวันเสียที กระบี่อ่อนถูกดึงออกมาจากแขนเสื้อทั้งสองข้าง นางถนัดการใช้อาวุธชนิดคู่เป็นที่สุด

เมื่อเห็นศัตรูจู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซูเย่หลิงก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดเข้าไปในวงล้อมของศัตรู กระบี่อ่อนในมือทั้งสองข้างวาดลวดลายเป็นท่าระบำบุปผาสีชาด เกิดเป็นท่วงท่างดงามอ่อนช้อยแต่กลับซุกซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ นางหมุนตัวเป็นวงกลมด้วยความเร็วดั่งพายุคลั่ง ก่อนจะพุ่งทะยานจู่โจมชายชุดดำที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นคนแรก ตามด้วยคนที่สองที่สามและที่สี่

กระบี่อ่อนในมือเฉือนเข้าเนื้อชายชุดดำทั้งสี่จนเกิดเป็นแผลเหวอะหวะ เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นมาถูกอาภรณ์สีม่วงอ่อนของนางจนเปื้อนเป็นดวง หญิงสาวหยุดการเคลื่อนไหวอันบ้าคลั่งนี้ แล้วยืนมองผลงานด้วยความภาคภูมิใจ

"โอ๊ยยย อ๊ากก!!"

กลุ่มคนร้ายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสิ้นใจตายอยู่ตรงแทบเท้าของซูเย่หลิง กระบี่คู่ในมือที่แท้ถูกเคลือบด้วยพิษร้ายจากมวลบุปผาที่เป็นยอดแห่งพิษ เพียงแค่กระบี่เฉือนเข้าที่ผิวเนื้อผสมกับเลือดในกายที่ไหลออกมา ยาพิษก็จะแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย มิอาจจะป้องกันได้ ชั่วระยะเวลาแค่สามลมหายใจที่ถูกพิษพวกมันก็จะตายทันที

"ถอย!!"

หัวหน้าคนชุดดำมองการกระทำของซูเย่หลิงด้วยความตกตะลึง เมื่อหันไปมองทางด้านหลังก็เห็นองครักษ์ของจ้าวเหว่ยเข้ามาสมทบแล้ว แผนการลอบสังหารในครั้งนี้ล้มเหลวเพราะสตรีแปลกประหลาดที่สวมหน้ากากกระต่ายสีขาว!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel