บทที่ 4 ไม่มีใครยอมใคร
บทที่ 4
ไม่มีใครยอมใคร
ลานประมูลชั้นสองแห่งหอประมูลตระกูลเฉิน บัดนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ เนื่องจากในค่ำคืนนี้ได้มีอาวุธที่ล้ำค่าถูกนำขึ้นมาประมูลอย่างมากมาย ภายในลานประมูลจึงคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย แถวหน้าจะเป็นที่นั่งของแขกพิเศษที่มีทั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและชนชั้นสูง โดยทุกคนจะสวมหน้ากากอำพรางใบหน้าของตนเอาไว้ ส่วนแถวถัดไปจะเป็นของเหล่าคหบดีหรือคนมีเงิน
ซูเย่หลิงสวมหน้ากากกระต่ายน้อยสีขาว วันนี้นางได้ถูกจัดให้นั่งแถวแรกซึ่งเก้าอี้ด้านข้างของนางคือที่นั่งของเชื้อพระวงศ์ หากเป็นคนนอกก็คงไม่รู้แต่เพราะนางทำงานที่หอประมูลจึงรู้ตำแหน่งที่นั่งเป็นอย่างดี และเมื่อนางหันมองไปทางด้านข้างก็พบกับดวงตาสีนิลที่ให้ความรู้สึกน่าหวาดหวั่น บุรุษผู้มีร่างกายสูงใหญ่จนแทบจะบดบังตัวของนางมิด เขากำลังหันมามองนางเช่นเดียวกัน เพียงแรกพบสบตานางก็รู้สึกครั่นคร้ามไปทั้งตัว
แม้เขาจะสวมหน้ากากพยัคฆ์สีดำเฉกเช่นดวงตาของเขา แต่ความน่าเกรงขามและกลิ่นอายสังหารนั้นมิอาจช่วยปิดบังตัวตนของเขาได้เลย ซูเย่หลิงชะงักค้างไปด้วยความตกใจเล็กน้อย
"เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้" ริมฝีปากเล็กพึมพำเสียงเบากับตนเอง แต่คนด้านข้างกลับได้ยินคำพูดของนางอย่างชัดเจน
นางรู้จักเขาหรือ?
คิ้วกระบี่มองสตรีตัวน้อยด้านข้างด้วยความสงสัย เขาจดจำอาภรณ์ของนางได้จึงรู้ว่านางคือสตรีที่อยู่กับเฉินตงลู่ คราแรกที่เห็นจากไกล ๆ ในตอนที่นางสนทนากับเฉินตงลู่ เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับนางอย่างประหลาด แต่เมื่อได้อยู่ใกล้เพียงเอื้อมเขายิ่งมั่นใจ เขาจะต้องรู้จักกับนางมาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน เช่นนั้นนางเป็นผู้ใดกันแน่?
หากเป็นสตรีในห้องหอ เวลาเช่นนี้ก็ควรจะอยู่ที่งานเลี้ยงในพระราชวังมิใช่หรือ หรือว่านางจะเป็นคนที่เขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้ในยามที่เกิดสงคราม ยิ่งคิดจ้าวเหว่ยก็ยิ่งรู้สึกสงสัยในตัวซูเย่หลิง
"เสด็จพี่... มีอะไรหรือเพคะ"
จ้าวเยว่ชิงเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพี่ชายมองสตรีด้านข้างนานเกินไปแล้ว นางจำได้ว่าสตรีผู้นี้คือคนเดียวกับที่อยู่กับเฉินตงลู่
"ไม่มีอะไร"
จ้าวเหว่ยผินใบหน้าหันกลับมาสนใจเวทีประมูล ซึ่งตอนนี้กำลังดุเดือดเข้มข้นเป็นอย่างมาก มีสินค้าบางชิ้นที่เขาสนใจจึงได้เข้าร่วมประมูลด้วย เพียงแค่เขาเอ่ยปากบอกราคาประมูลก็ไม่มีผู้ใดกล้าสู้ราคากับเขาสักคนเดียว เนื่องจากกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัว และราคาที่เขาขานนั้นมันสูงเกินไปจนพวกเขามิกล้าจะเข้าร่วมแย่งชิงด้วย
"หอประมูลตระกูลเฉินยินดีต้อนรับทุกท่านขอรับ วันนี้มีสินค้าชิ้นพิเศษที่จะมานำเสนอ นั่นคือดาบสั้นดวงเดือนคู่นี้"
ผู้ทำหน้าที่ประมูลสินค้าผายมือไปยังแท่นวางที่มีดาบสั้นดวงเดือนวางเอาไว้ ดาบสั้นนี้มีรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยวเพียงแต่ไม่ได้โค้งมากนัก ใบมีดนั้นแวววาวเป็นเงาคมกริบ บ่งบอกว่าถูกตีด้วยเหล็กกล้าชั้นยอดอย่างแน่นอน ด้ามดาบประดับด้วยอัญมณีเม็ดเล็กสีเหลืองและแดง ให้ความรู้สึกน่าค้นหาและน่าหลงใหลในเวลาเดียวกัน
"ดาบสั้นดวงเดือนสองเล่มนี้ถูกตีเป็นคู่กันโดยท่านปรมาจารย์ฮุ่ยเฉิน ผู้ชำนาญการตีเหล็กกล้าที่มีทั้งความทนทาน คมกริบ และมีน้ำหนักเบา ขอเปิดประมูลที่ 100 เหรียญทอง"
เกิดเสียงฮือฮาในหมู่คนที่มาเข้าร่วมประมูล ดาบสั้นคู่นี้น่าสนใจจริง ๆ แค่ชื่อของปรมาจารย์ฮุ่ยเฉินก็ทำให้ทุกคนต่างพากันสนใจแล้ว
"120 เหรียญทอง" บุรุษที่สวมอาภรณ์สีฟ้าครามเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก เขาชอบความแปลกใหม่ของตัวดาบที่เป็นรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว
"150 เหรียญทอง"
"200 เหรียญทอง"
"220 เหรียญทอง"
การขานราคาประมูลเริ่มพุ่งทะยานขึ้นสูงไปเรื่อย ๆ จ้าวเยว่ชิงที่มาประมูลครั้งแรกก็เกิดสนใจดาบสั้นดวงเดือนเล่มนี้เช่นกัน นางชอบด้ามดาบที่มีอัญมณีประดับ
"เสด็จพี่ น้องอยากได้เพคะ" จ้าวเยว่ชิงหันมาเขย่าแขนจ้าวเหว่ยเพื่อขอให้เขาช่วย
"อืม..." เขาพยักหน้าก่อนจะขานราคาที่ทุกคนไม่กล้าจะขานราคาเพิ่ม "500 เหรียญทอง"
ซูเย่หลิงที่รอดูทิศทางราคา และคิดจะเอ่ยปิดราคาถึงกับวางหน้าไม่ถูก เขาเองก็อยากได้ดาบสั้นดวงเดือนหรือ แต่เสียใจด้วยนะที่นางเองก็อยากได้เช่นกัน และนางจะไม่ยอมแพ้เขาเพียงเพราะว่าเป็นเขาหรอกนะ
"550 เหรียญทอง"
นางหันมามองเขาพลางยักคิ้วให้ วันนี้นางจะไม่ยอมถอยเป็นอันขาด
"700 เหรียญทอง"
คิ้วกระบี่กระตุกยิก ๆ เมื่อมีคนกล้าสู้ราคากับเขา ดาบสั้นคู่นี้อาจจะล้ำค่าแต่ก็ไม่ได้มีราคามากถึงเพียงนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวเยว่ชิงอยากได้ เขาก็คงไม่คิดจะสู้ราคาที่สูงเกินไปกับสตรีด้านข้าง
"750 เหรียญทอง"
ซูเย่หลิงกลั้นใจเอ่ยออกไป นางอยากได้มากแต่ราคามันค่อนข้างจะสูงเกินไป
"เสด็จพี่ ราคามันสูงเกินไปเพคะ น้องไม่อยากได้แล้ว" จ้าวเยว่ชิงกระซิบบอก เงินจำนวนนี้นางสามารถหาซื้อดาบสั้นได้อีกหลายคู่
"800 เหรียญทอง"
ซูเย่หลิงหันขวับไปมองจ้าวเหว่ยด้วยความไม่สบอารมณ์
"820 เหรียญทอง" นางสู้ได้มากสุดเพียงแค่นี้แล้ว เงินมากกว่า 820 เหรียญทองมันมากเกินกว่าที่นางจะกล้าใช้จ่ายออกไปในคราวเดียว
ซูเย่หลิงพยายามหันมายิ้มด้วยสายตาที่สื่อว่า 'ได้โปรดยกดาบสั้นคู่นี้ให้ข้าเถอะ'
"850 เหรียญทองครั้งที่ 1"
ผู้ทำหน้าที่การประมูลเอ่ยขานราคาของซูเย่หลิง ภายในใจของหญิงสาวเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง จ้าวเหว่ยเห็นสายตาของซูเย่หลิงแล้ว ดวงตาเรียวยาวคู่สวยมองมาทางเขาด้วยความออดอ้อน แต่มีหรือที่คนที่ได้ชื่อว่าเย็นชาไร้หัวใจจะสนใจกับสายตาของนาง
"850 เหรียญทองครั้งที่ 2"
"1,000 เหรียญทอง!!"
สิ้นการขานราคาของจ้าวเหว่ย ทุกคนต่างเงียบเสียงลงด้วยความฮือฮากับราคาที่มากมายถึงเพียงนี้ แค่ดาบสั้นหนึ่งคู่ราคาพุ่งทะยานไปถึง 1,000 เหรียญทองเลยหรือ
"ท่าน!"
ซูเย่หลิงกัดปากตนเองด้วยความเจ็บใจ นางลุกขึ้นยืนแล้วมองเขาตาขวาง ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินออกไปจากที่นี่ทันที ดาบสั้นดวงเดือนที่นางเฝ้ารออยากจะได้มาไว้ในครอบครอง บัดนี้ได้มีเจ้าของใหม่ไปเสียแล้ว และไม่ใช่ใครที่ไหนด้วยแต่เป็นบุรุษที่นางเคยหลงใหลได้ปลื้มเมื่อนานมาแล้ว
พี่ชายท่านนั้นในอดีตที่เคยสอนนางขี่ม้า ยิงธนู และเป็นคนที่สอนนางใช้ดาบสั้นได้หายไปแล้วในความทรงจำอันเลือนราง เวลานี้มีเพียงชินอ๋องผู้ไร้ใจผู้นี้เท่านั้น!